xs
xsm
sm
md
lg

ผญบ.บุรีรัมย์นำทีมร้อง คสช.เชือดนายทุนอิทธิพล เหิมรุกป่าแบ่งล็อกขาย (ชมคลิป)

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้ใหญ่บ้านนำลูกบ้านเรียกร้อง  คสช. และหน่วยงานรัฐ ตรวจสอบเอาผิดผู้มีอิทธิพล บุกรุกลอบตัดไม้หวงห้ามในป่าสาธารณะบ้านหนองใหญ่ ต.หนองใหญ่ อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ วันนี้ (9 ก.ค.)
บุรีรัมย์ - ผญบ.นำลูกบ้านเรียกร้อง คสช.ตรวจสอบเอาผิดนายทุนอิทธิพล เหิมบุกรุกตัดไม้หวงห้ามในป่าสาธารณะหนองใหญ่ อ.สตึก ชาวบ้านร่วมกันอนุรักษ์มาแต่ปู่ย่าตายาย เตรียมจัดสรรแบ่งล็อกขาย หลังแจ้งความและร้องอำเภอแล้วเรื่องเงียบ ขณะนายอำเภอแจงอยู่ระหว่างตั้ง กก.สอบข้อเท็จจริงก่อนแจ้งความดำเนินคดี



วันนี้ (9 ก.ค.) นายอำพร ช่วยรัมย์ ผู้ใหญ่บ้านบ้านพิชัยพัฒนา ม.16 ต.หนองใหญ่ อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ พร้อมตัวแทนชาวบ้าน ม.2 และ ม.16 ได้ร่วมกันออกมาร้องให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง เข้าไปตรวจสอบเอาผิดผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ที่ได้จ้างวานให้คนงานเข้าไปใช้เลื่อยโซ่ยนต์ลักลอบตัดไม้หวงห้ามและไม้ยืนต้น เช่น ต้นสัก พลวง เต็ง รัง และไม้แดง ในป่าสาธารณะบ้านหนองใหญ่ ม.2 ต.หนองใหญ่ ตอนกลางวันแสกๆ โดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย แล้วนำไม้ไปใช้ประโยชน์ส่วนตัว

อีกทั้งยังใช้เครื่องจักรเข้าไปปรับพื้นที่เตรียมจัดสรรแบ่งเป็นล็อกขายเนื้อที่ประมาณกว่า 10 ไร่ ซึ่งป่าสาธารณะดังกล่าวเป็นป่าที่มีความอุดมสมบูรณ์ผืนสุดท้ายของตำบลหนองใหญ่เดิมมีเนื้อที่เกือบ 2,000 ไร่แต่ได้ถูกกลุ่มนายทุนเข้าไปบุกรุกและบางส่วนจัดสรรให้ชาวบ้านอาศัยและทำกิน จนปัจจุบันเหลือผืนป่าอยู่เพียง 200 ไร่ ที่ชาวบ้านร่วมกันอนุรักษ์ไว้ให้เป็นป่าสาธารณะของตำบล

ทั้งนี้ ป่าดังกล่าวชาวบ้านหลายหมู่บ้านในตำบลได้ใช้ประโยชน์ร่วมกันในการเก็บหาของป่าไปบริโภค และเป็นทำเลเลี้ยงสัตว์มาตั้งแต่สมัยปู่ย่าตายาย

นายอำพร ช่วยรัมย์ ผู้ใหญ่บ้านบ้านพิชัยพัฒนา บอกว่า ที่ผ่านมาเคยทำหนังสือร้องเรียนไปยังทางอำเภอสตึก และแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.สตึก เกี่ยวกับพฤติการณ์ของกลุ่มผู้มีอิทธิพลดังกล่าวแล้ว แต่จนถึงขณะนี้เรื่องยังเงียบหายไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาตรวจสอบ ทำให้นายทุนยังเดินหน้าบุกรุกตัดไม้อย่างต่อเนื่อง

จึงอยากเรียกร้องให้ทาง คสช.หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เร่งเข้ามาตรวจสอบข้อเท็จจริงและเอาผิดกับกลุ่มผู้มีอิทธิพลดังกล่าวโดยเร็วด้วย ก่อนที่ป่าผืนสุดท้ายดังกล่าวจะหมดไป

ด้าน นายชูชีพ ช่วยรัมย์ อายุ 33 ปี ชาวบ้าน บอกว่า ป่าสาธารณะแห่งนี้เป็นป่าผืนสุดท้ายของตำบลที่ชาวบ้านร่วมกันอนุรักษ์ไว้ให้เป็นสมบัติของส่วนรวม แต่หากปล่อยให้นายทุนหรือผู้มีอิทธิพลบุกรุกตัดต้นไม้ในป่าดังกล่าว โดยที่ไม่มีหน่วยงานใดเข้าตรวจสอบเอาผิด ป่าที่เคยอุดมสมบูรณ์ก็คงจะหมดไปอย่างแน่นอน ซึ่งชาวบ้านส่วนใหญ่ต้องการให้อนุรักษ์ผืนป่าแห่งนี้ไว้เพื่อเป็นสมบัติของส่วนรวม แต่ไม่มีใครกล้าออกมาทักท้วงหรือคัดค้าน เพราะต่างเกรงกลัวอิทธิพล

ขณะที่ นายวัชรินทร์ รุ่งโรจน์ นายอำเภอสตึก กล่าวว่า ได้รับรายงานเรื่องดังกล่าวแล้ว และขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างให้คณะกรรมการที่แต่งตั้งขึ้น เข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริงว่ามีการตัดไม้จริงหรือไม่ และป่าดังกล่าวเป็นป่าประเภทไหน หากพบว่าเป็นป่าสาธารณะและมีผู้ลักลอบเข้าไปบุกรุกตัดต้นไม้จริง ทางอำเภอจะได้ร่วมกับองค์การบริหารส่วนตำบลหนองใหญ่ ในฐานะเจ้าพนักงานผู้รับผิดชอบ ดำเนินการแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อทำการสอบสวนเอาผิดกลุ่มผู้บุกรุกตัดไม้ตามกฎหมาย





นายวัชรินทร์ รุ่งโรจน์ นายอำเภอสตึก
กำลังโหลดความคิดเห็น