อธิบดีกำชับคุมประพฤติทั่วประเทศ ทำงานเชิงรุกร่วมกับ คสช.

กาฬสินธุ์ - อธิบดีกรมคุมประพฤติชื่นชมการตัดสินใจทำงานเชิงรุกของสำนักงานคุมประพฤติจังหวัด ร่วมแผนปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นยาเสพติดในสำนักงาน ถือเป็นแนวทางสนองนโยบาย คสช. พร้อมยกเป็นแบบอย่างที่ดี

วันนี้ (8 ก.ค.) ที่สำนักงานคุมประพฤติจังหวัดกาฬสินธุ์ นางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล อธิบดีกรมคุมประพฤติ เข้าตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่สำนักงานคุมประพฤติจังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งที่ผ่านมาได้เปิดแผนปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นผู้ถูกคุมประพฤติ หลังพบมีการลักลอบเสพและค้ายาเสพติดภายในสำนักงาน มี พ.อ.จิรัตน์กฤษณ์ เหลืองจินดา เสนาธิการกองกำลังรักษาความสงบจังหวัดกาฬสินธุ์ รายงานสถานการณ์

ภายหลังจากนายเศวตนันท์ สุขพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดกาฬสินธุ์ ชี้แจงข้อเท็จจริงโดยเฉพาะเหตุการณ์เข้าตรวจค้น ได้มีการตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับจำนวนผู้ถูกคุมประพฤติ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้พักการลงโทษในจากเรือนจำ มีข้อมูลผู้ต้องโทษในทางคดีค้ายาเสพติดบางรายสูงกว่าหมื่นเม็ดได้ถูกปล่อยตัวออกมา ซึ่งอาจเป็นช่องทางของเครือข่ายเข้ามาปลุกปั่นให้ผู้ถูกคุมประพฤติกลับไปเสพและค้ายา

อธิบดีกรมคุมประพฤติได้กล่าวชื่นชมการทำงานในเชิงรุกของเจ้าหน้าที่คุมประพฤติจังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายของ คสช.ที่ต้องการปราบปรามยาเสพติด ทั้งยังมีหนังสือไปถึงสำนักงานคุมประพฤติ 100 แห่งทั่วประเทศ ให้รีบรายงานและเข้าร่วมปฏิบัติการกวาดล้างยาเสพติด กับทางกองกำลังที่ถือเป็นการร่วมกันป้องกันปัญหายาเสพติดในเชิงรุกได้เป็นอย่างดี

สำหรับการประชุมครั้งนี้ อธิบดีกรมคุมประพฤติยังได้ตรวจเยี่ยมสำนักงานและตรวจบริเวณห้องน้ำ ห้องขัง แนะนำให้มีการติดตั้งกล้องวงจรปิดภายในสำนักงาน เพื่อเป็นการปรามผู้ค้า ผู้เสพยา ไม่ให้เข้ามายุ่งเกี่ยวภายในสำนักงาน

ทั้งนี้ จะนำเสนอปัญหาต่อ คสช. กรณีการส่งตัวผู้พักการลงโทษจากเรือนจำ ในกลุ่มผู้ถูกจับคดียาเสพติดจำนวนมาก ว่าทำไมถึงมีการปล่อยตัวออกไปอยู่ในกลุ่มผู้พักการลงโทษ และในปัจจุบันจำนวนผู้ถูกคุมประพฤติภายในจังหวัดกาฬสินธุ์มีกว่า 5 พันคน ส่วนใหญ่เป็นคดียาเสพติดถึงร้อยละ 80 สามารถ แยกเป็น 4 กลุ่ม

ประกอบด้วย กลุ่มรอการลงโทษคดียาเสพติด กลุ่มพักการลงโทษจากกรมราชทัณฑ์ กลุ่มผู้เข้าฟื้นฟูคดียาเสพติด และกลุ่มเด็กตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดปี 2551 ที่นับวันจะเพิ่มจำนวนมากขึ้น