นครพนม - นรข.สนธิหน่วยทหารพรานยึดวีออสขณะแก๊งค้ารถเถื่อนกำลังลำเลียงข้ามแม่น้ำโขง เจ้าหน้าที่ยิงปืนขู่หนีกระเจิง เผย อ.ท่าอุเทนเป็นแหล่งพักรถที่ถูกยึดมาจากแหล่งรับจำนำจากบ่อนพนัน และตามบ้านผู้มีอิทธิพล ก่อนรอจังหวะลอบลำเลียงข้ามขายฝั่งลาว ล่าสุดเล็ดลอดขนออกไปได้กว่า 20 คัน
น.อ.สุรศักดิ์ สุวรรณเกษา ผบ.นรข.เขตนครพนม เปิดเผยว่า จากการสืบทราบจะมีขบวนการลักลอบลำเลียงรถยนต์เถื่อนทางเรือส่งออกไปประเทศเพื่อนบ้านชายแดนด้าน อ.ท่าอุเทน จึงสั่งการให้ ร.ท.สมเจตน์ ค้าทวี ผู้ควบคุมเรือ นรข.สน.เรือบ้านแพง วางแผนร่วมกับร.อ.ธีระ เส็กตากแดด ผบ.ร้อยทหารพรานที่ 208 ฉก.กรม ทพ.21 กกล.สุรศักดิ์มนตรี นำกำลังไปดักซุ่มตามจุดที่คาดว่าคนร้ายจะนำรถลงตลิ่งบริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขง บ้านนาข่าท่า หมู่ 7 ต.พะทาย
กระทั่งช่วงกลางดึกคืนที่ผ่านมา ขณะมีฝนตกหนัก ชุดปฏิบัติการได้พบกลุ่มคนร้ายประมาณ 10 คนนำรถยนต์ต้องสงสัยขับออกมาจากบ้านหลังหนึ่ง เจ้าหน้าที่จึงใช้กล้องตรวจจับความเคลื่อนไหว พบมีคนร้ายอีกกลุ่มราว 5-7 คนตระเวนดูต้นทาง
เจ้าหน้าที่ประมาณ 5-7 นายที่ดักซุ่มจึงแสดงตัวเข้าจับกลุ่ม แต่คนร้ายยังพยายามนำรถที่เตรียมไว้ขับลงตลิ่งโดยมีเชือกขนาด 2 นิ้วมัดผูกล้อโรยลงตลิ่ง โดยเจ้าหน้าที่พบเรือขนาดใหญ่แล่นมาจากฝั่ง สปป.ลาว บ้านโป่ง เมืองหินบูน แขวงคำม่วน ตรงข้ามกับฝั่งไทย มาจอดเทียบท่ารอรับรถ จึงใช้อาวุธปืน 11 มม.ยิงข่มขู่ 1 ชุด คนร้ายจึงล่าถอยหนีไปท่ามกลางความมืด ส่วนเรือที่มารอรับก็ขับหลบหนีไปฝั่งลาวอย่างรวดเร็วเช่นกัน
ตรวจสอบพบรถยนต์โตโยต้า วีออส สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน กย 7879 ขอนแก่น หัวทิ่มจมน้ำจนมิด ห่างจากตลิ่ง 20 เมตร รุ่งเช้าจึงนำนักประดาน้ำ นรข.และรถเครนมาช่วยกู้ขึ้น ซึ่งใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมง
น.อ.สุรศักดิ์กล่าวว่า จากการตรวจสอบภายในรถไม่พบเอกสารระบุผู้ครอบครองรถ ขณะที่กลุ่มคนร้ายใช้เลื่อยตัดเหล็กกั้นริมเขื่อนยาว 3 เมตร พร้อมขันนอตยึดเหล็กออกเพื่อลำเลียงรถได้ง่าย และยังพบเชือกขนาด 2 นิ้ว ยาว 50 เมตร ทิ้งไว้เป็นหลักฐาน จึงตรวจยึดเพื่อนำส่ง สภ.ท่าอุเทน และนำของกลางไปเก็บรักษาไว้ที่ศุลกากรนครพนม เนื่องจากเป็นรถที่ไม่ผ่านพิธีศุลกากร
จากการข่าวพบว่ามีรถเก๋งและรถกระบะหลายชนิดที่ คสช.กำลังอยู่ระหว่างติดตามตรวจสอบ ซึ่งถูกยึดมาตามแหล่งรับจำนำจากบ่อนการพนัน และตามบ้านผู้มีอิทธิพล ก่อนที่จะนำรถกว่า 20 คัน เช่น กระบะโตโยต้าวีโก้ แคมเมอรี่ ฟอร์จูนเนอร์ขับมาพักไว้ ก่อนรอจังหวะลำเลียงออกนอกประเทศ พรมแดนไทย-ลาว ด้าน อ.ท่าอุเทน
โดยมีราคาซื้อขายในฝั่งไทยคันละ 200,000-300,000 บาท หากข้ามไปฝั่งลาวจะมีราคาคันละ 300,000-400,000 แสนบาท และก่อนหน้านี้มีรถยนต์ถูกลำเลียงออกไปแล้วกว่า 20 คัน จึงต้องเฝ้าระวังเข้มข้นมากขึ้น