ชาวบ้านแขวงกลั่นโวยน้ำในลำคลองเน่าส่งกลิ่นเหม็น(ชมคลิป)

ฉะเชิงเทรา - ชาวบ้านคลองแขวงกลั่น โวยหลังใช้น้ำจากระบบประปาหมู่บ้านทำผดผื่นคันขึ้นเต็มตัว แถมยังส่งกลิ่นเหม็น เชื่อน้ำดิบในคลองต้นทุนจากกรมชลประทานเน่า เหตุมีการขยายตัวด้านอุตสาหกรรมรอบพื้นที่ทำโรงงาน และบ่อขยะผุดแทรกเข้ามาในชุมชน วอนหน่วยงานรับผิดชอบช่วยตรวจสอบแก้ปัญหา

วันนี้ (30 มิ.ย.) ชาวบ้านในหมู่บ้านคลองแขวงกลั่น พื้นที่ ม.7 ต.บางเตย อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ได้ออกมารวมตัวกันร้องเรียนผ่านสื่อให้ช่วยนำเสนอข่าวถึงกรณีน้ำในลำคลองสาธารณะคลองแพรกบางเตย คลองแขวงกลั่นบน และคลองสาขาต่างๆ ในพื้นที่มีสีดำ และส่งกลิ่นเหม็นเน่า หลังจากสูบน้ำขึ้นมาใช้อุปโภคชำระล้างร่างกายยังส่งผลต่อสุขภาพ ทำให้เกิดผดผื่นคันขึ้นตามลำตัว

จึงขอฝากวอนไปถึงยังหน่วยงานที่รับผิดชอบให้เข้ามาช่วยชาวบ้านแก้ไขปัญหา หลังจากได้รับความเดือดร้อนกันอย่างถ้วนหน้ามาตลอดแนวลำคลองมากถึงกว่า 500 ครัวเรือน

นายสมศักดิ์ ธูปพงษ์ อายุ 57 ปี อยู่บ้านเลขที่ 10/1 ม.7 ต.บางเตย กล่าวว่า น้ำในลำคลองได้เริ่มส่งกลิ่นเหม็นเน่ามานานถึงกว่า 2 สัปดาห์แล้ว โดยสภาพของน้ำนั้นมีสีดำขุ่นข้น โดยเฉพาะในช่วงเวลากลางคืนนั้นจะมีสีดำสนิทไหลเข้ามาในหมู่บ้านตามลำคลองเป็นจำนวนมาก แต่พอในช่วงสาย สีของน้ำจะค่อยๆ เปลี่ยนจางลงมาบ้าง จนทำให้ปูปลาในน้ำเริ่มขาดอากาศหายใจ และผุดขึ้นมารอรับออกซิเจนที่ด้านบนเหนือผิวน้ำ

ขณะเดียวกัน ลูกเด็กเล็กแดง รวมทั้งคนชรา ต่างพากันมีผดผื่นคันขึ้นตามลำตัว ได้รับผลกระทบกันอย่างถ้วนหน้า อีกทั้งยังส่งผลกระทบต่อสัตว์เลี้ยงของชาวบ้าน หลังจากสูบนำน้ำจากภายในคลองขึ้นมาเลี้ยงสัตว์ โดยสาเหตุของน้ำเสียนั้นเชื่อว่า สภาวะน้ำเสียที่เกิดขึ้นในลำคลองนี้ น่าจะถูกปล่อยทิ้งลงมาจากโรงงานอุตสาหกรรม ที่ขณะนี้ได้มีการก่อสร้างโรงงานขึ้นมาโดยรอบพื้นที่เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในเขต ต.หนามแดง ที่ปัจจุบันได้มีโรงงานเข้ามาก่อตั้งเพิ่มมากขึ้น

ขณะที่ นางจำเนียร จำเริญ อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 38 ม.7 ต.บางเตย กล่าวว่า หลังจากใช้น้ำประปาหมู่บ้าน ที่นำน้ำจากในคลองมาผลิต ปรากฏว่า ได้เกิดผดผื่นคันขึ้นมาจนเต็มลำตัว และแผ่นหลัง และลุกลามไปจนทั่วร่างกาย เมื่อเดินทางไปหาหมอพบแพทย์ ระบุว่า ให้เลิกใช้น้ำที่ทำให้เกิดผดผื่นคันนี้ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะเลิกใช้ได้อย่างไร เพราะว่าไม่มีน้ำจะใช้ จึงต้องทนใช้ต่อไป และผื่นคันก็ยังไม่ยอมหาย จึงอยากให้ผู้ที่เกี่ยวข้องได้เข้ามาช่วยเหลือชาวบ้านด้วย

ด้านนายสันต์ เกษมสุข อายุ 55 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 7 ต.บางเตย บ้านคลองแขวงกลั่น กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวผู้ใหญ่บ้านหลายหมู่บ้านได้เคยแจ้งให้กรมชลประทานโครงการพระองค์เจ้าไชยานุชิต ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบพื้นที่ทราบแล้ว ตั้งแต่วันที่เข้าไปร่วมประชุมยังที่ว่าการอำเภอเมืองฉะเชิงเทรา แต่ทางกรมชลประทานกลับบอกว่า สาเหตุที่น้ำในลำคลองเกิดการเน่าเสียนั้น มาจากบ้านเรือนของชาวบ้านเอง และร้านอาหารที่ปล่อยน้ำเสียในครัวเรือนทิ้งลงสู่คลอง

ทั้งที่ในพื้นที่โดยรอบข้างของตำบลบางเตยนี้ ได้มีโรงงานอุตสาหกรรม และบ่อขยะผุดเกิดขึ้นมาในพื้นที่เป็นจำนวนมาก และปัจจุบัน ชาวบ้านส่วนใหญ่ก็ทราบถึงการจัดการน้ำเสียในครัวเรือนตนเองดีว่าจะทำอย่างไร โดยมีถังพัก และบ่อบำบัดประจำครัวเรือน และไม่มีใครปล่อยน้ำทิ้งลงสู่ลำคลองกันแล้ว เพราะบ้านเรือนของชาวบ้านในขณะนี้ส่วนใหญ่ได้พากันย้ายออกมาปลูกสร้างอยู่ริมถนน มากกว่าการปลูกบ้านเรือนพักอาศัยอยู่ตามริมคลองกันหมดแล้ว