อ่างทอง - หนุ่มพิการ วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยหางานให้ทำ เหตุไม่อยากเป็นภาระให้ยายวัย 74 ปี ที่คอยหาเลี้ยง หลังพ่อติดเหล้า แม่ขอแยกทาง
วันนี้ (29 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก นายธนาวุฒิ โคกครุฑ อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 3/1 หมู่ 5 ต.หลักแก้ว อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง ว่า ตนเองพิการแขนขาไม่ค่อยมีแรง เนื่องจากเมื่อ 4 ปีก่อนประสบอุบัติเหตุโดนรถชนสมัยขับจักรยานยนต์รับจ้างที่ จ.นครปฐม และตนไม่มีเงินรักษาตัว จึงทำเรื่องย้ายมาที่โรงพยาบาลอ่างทอง เพราะหวังว่าจะได้อยู่ใกล้พ่อ และยาย แต่รักษาตัวได้ระยะหนึ่งรู้สึกว่าจะเป็นภาระของคนอื่น เช่น พี่ ป้า น้า อา จนวันนี้เหลือแต่ยายกับพ่อที่ช่วยดูแล
และเนื่องจากทางบ้านไม่ค่อยมีเงิน เพราะพ่อกับแม่แยกทางกันไปนานแล้ว ทำให้พ่อติดเหล้ามาจนถึงทุกวันนี้ จึงคิดที่จะหางานทำ หาเงินมาเลี้ยงพ่อ และยายเพื่อทดแทนบุญคุณตลอดเวลา 4 ปี ที่ยายต้องเป็นคนหาเลี้ยงตน และพ่อมาตลอด
นายธนาวุฒิ กล่าวว่า ตนกลายเป็นคนพิการไม่เป็นที่ยอมรับของสังคมมากนัก โดยเฉพาะการที่จะสมัครงาน อย่างไรก็ตาม แม้มีความพิการด้านการเคลื่อนไหว แต่สามารถทำงานได้ทุกอย่าง เพียงแต่ทำได้ช้าเท่านั้น ซึ่งการเปิดเผยเรื่องราวต่อสื่อมวลชนก็เพื่อขอความเมตตาหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่พอจะมีงานให้ตนทำ หรือเห็นว่าตนเหมาะที่จะทำอะไรได้ และมีรายได้พอเลี้ยงครอบครัวได้ ก็รับทำหมดทุกอย่าง ไม่ว่างานจะเหนื่อยยากแค่ไหนก็ไม่เกี่ยง
ด้านนางสำอาง โคกครุฑ อายุ 74 ปี กล่าวว่า รู้สึกสงสารหลานชาย เพราะพ่อแม่เขาได้แยกทางกันนานแล้ว ส่วนพ่อก็เมาทุกวันตั้งแต่ที่แยกทางกับเมีย ตนจึงได้แต่คอยหาเลี้ยง และหากินกัน 3 คน เงินที่ลูกให้มาได้เอามาซื้อข้าวสาร อาหารแห้งเพื่อเอาไว้กินกัน แต่ทางลูกเขาเห็นว่าเรามีเบี้ยคนชราเดือนละ 700 บาท ก็เลยให้อีกเดือนละ 200-300 บาท แต่ก็ต้องใช้จ่ายอย่างประหยัดที่สุด เพราะต้องจ่ายค่าน้ำค่าไฟอีกด้วย
“ยายอยากวอนหน่วยงานไหนก็ได้ ช่วยรับหลานไปทำงานที เพราะกลัวว่าถ้าสิ้นยายไปแล้วหลานจะลำบาก เนื่องจากช่วยเหลือตัวเองไม่ได้มากนัก จะไปหาหมอก็ต้องใช้เงินเยอะ ไหนจะค่ารถ ค่ายาก็ยังไม่มี และวันที่ 3 กรกฎาคมนี้ หมอก็นัดให้ไปตรวจอีก ก็คงไม่ได้ไปกันแน่ เพราะไม่มีเงินเลย แต่ยายกับหลานไม่ต้องการขอเงินจากหน่วยงานไหน เพียงแต่อยากจะให้หลานได้มีงานทำ เพื่อไม่ให้เป็นภาระของคนในบ้าน และสังคม”