กาญจนบุรี - รอง ผบ.จทบ.กาญจนบุรี เป็นประธานอบรมผู้ขับขี่รถ จยย.รับจ้าง และรถตู้โดยสารสาธารณะในพื้นที่เมืองกาญจนบุรีตามนโยบาย คสช.ย้ำห้ามเก็บค่าโดยสารจากผู้โดยสาร 2 กม.แรกเกิน 25 บาทเด็ดขาด ด้าน “ผกก.เมืองกาญจน์” เผยยังไม่พบมีผู้อิทธิพลเรียกเก็บค่าคุ้มครอง เตรียมเสนอ อบจ.กาญจนบุรีจัดเสื้อวินสีเดียว แบบเรียงเบอร์
เมื่อเวลา 11.30 น. วันนี้ (25 มิ.ย.) ที่ห้องประชุมสำนักงานขนส่งจังหวัดกาญจนบุรี พ.อ.ดร.ธนณัฐ ยังเฟื่องมนต์ รอง ผบ.จทบ.กาญจนบุรี เป็นประธานการอบรมผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างในเขตพื้นที่อำเภอเมืองกาญจนบุรี โดยย้ำห้ามเก็บค่าโดยสาร 2 กิโลเมตรแรกเกิน 25 บาท รับประทับใจรถตู้โดยสารที่พร้อมให้บริการตามนโยบาย คสช.โดยมี พ.ต.อ.พงษกร อุปพงษ์ ผกก.สภ.เมืองกาญจนบุรี น.ส.ชุติมา ไทยเจียมอารีย์ ผู้ช่วยสำนักงานขนส่งจังหวัดกาญจนบุรี เข้าชี้แจงทำความเข้าใจต่อผู้ให้บริการรถจักรยานยนต์ และรถตู้สาธารณะในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี ตามนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)
พ.อ.ดร.ธนณัฐ ยังเฟื่องมนต์ รอง ผบ.จทบ.กาญจนบุรี กล่าวว่า การจัดอบรมครั้งนี้ เพื่อชี้แจงและมอบนโยบายให้แก่ผู้ให้บริการรถจักรยานยนต์รับจ้าง และรถตู้สาธารณะ ซึ่งเป็นนโยบายของ คสช.ในการจัดระเบียบรถรับจ้างสาธารณะให้มีความเป็นระเบียบเรียบร้อย ให้ประชาชนได้รับความเป็นธรรม
โดยได้ขอความร่วมมือให้ปฏิบัติตามขั้นตอนของ คสช.ใน 3 ระยะแรก คือ จัดระเบียบที่จอดรถ จัดทำป้ายบอกราคา พฤติกรรมของผู้ขับขี่ เช่น การแต่งกายจะต้องสุภาพ มารยาทจะต้องมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดีต่อผู้ใช้บริการ ทุกคนต้องมีบัตรแสดงตน และใบอนุญาตต้องถูกต้องตามกฎหมาย รวมไปถึงสภาพรถจะต้องอยู่ในสภาพพร้อมให้บริการแก่ลูกค้า และการเก็บค่าโดยสารจะต้องเป็นธรรมต่อผู้ใช้บริการ โดยเฉพาะรถจักรยานยนต์ห้ามเก็บค่าโดยสาร 2 กิโลเมตรแรกเกิน 25 บาทเด็ดขาด
ระยะที่ 2 จะแบ่งออกเป็น 2 ระยะ คือ ภายในเดือนกรกฎาคมที่จะถึงนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องเร่งจัดระเบียบให้มีการลงทะเบียน สอบประวัติของผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างทุกราย จากนั้นให้ร่วมกันพิจารณาจำนวนวินรถจักรยานยนต์ที่มีอยู่ให้มีจำนวนที่เหมาะสม ระยะต่อไปจะต้องทำให้เสร็จภายในเดือนสิงหาคม ด้วยการจัดให้มีมาตรฐานการบริการในลักษณะเป็นส่วนย่อยของ บขส.
โดยเฉพาะรถตู้สาธารณะจะต้องมีสถานที่ขายตั๋ว มีที่พักผู้โดยสาร มีห้องน้ำให้บริการ และไม่จอดรถกีดขวางเส้นทางการการจราจร ปรับจุดรับ-ส่งผู้โดยสารให้เป็นระเบียบ รวมทั้งจะต้องมีการปรับเส้นทาง และจดทะเบียนให้ถูกต้อง มีการปรับปรุงมาตรการบังคับใช้กฎหมายให้มีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม
ระยะที่ 3 เป็นขั้นตอนการดำเนินการแก้ไขผลกระทบที่ยั่งยืน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องติดตามประเมินผลความเดือดร้อนของประชาชน และผู้ประกอบการอย่างต่อเนื่อง จะต้องแก้ไขข้อกำหนด และกฎหมายให้บังคับใช้กฎหมายอย่างต่อเนื่อง และจะต้องร่วมกันดำเนินงานตามนโยบายของ คสช.อย่างเคร่งครัด
ที่ผ่านมา เราได้มีการเจรจากับผู้ประกอบการรถตู้สาธารณะที่มีอยู่ในพื้นที่ตำบลลาดหญ้า ซึ่งได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี โดยจะมีบริการแก่ประชาชนที่มาใช้บริการ เช่น แจกอาหารว่าง และน้ำดื่ม ซึ่งไม่แตกต่างจากการใช้บริการเครื่องบินโดยสาร หวังว่ารถตู้สาธารณะในพื้นที่เขตเทศบาลเมืองกาญจนบุรี จะนำแนวทางดังกล่าวไปปฏิบัติเช่นกัน เพื่อความสุขของประชาชนทุกคน
ด้าน พ.ต.อ.พงษกร อุปพงษ์ ผกก.สภ.เมืองกาญจนบุรี กล่าวว่า ปัจจุบันพื้นที่เขตเทศบาลเมืองกาญจนบุรี มีผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างอยู่ประมาณ 200 คน และจากการสอบถามผู้ให้บริการรถจักรยานยนต์รับจ้างไม่พบว่ามีการจ่ายเงินค่าหัวคิวให้แก่ผู้มีอิทธิพลแต่อย่างใด
สำหรับการจัดระเบียบผู้ให้บริการรถจักรยานยนต์ และรถตู้สาธารณะในพื้นที่ตามนโยบายของ คสช. ซึ่งวันนี้เราได้เชิญผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้าง รวมทั้งผู้ประกอบการรถตู้สาธารณะ มารับฟังเพื่อทำความเข้าใจในแนวทางการปฏิบัติ
สำหรับรถตู้สาธารณะจะต้องมีบัตรประจำตัวระบุชื่อ นามสกุล เบอร์โทร. แสดงให้ผู้โดยสารเห็นได้อย่างชัดเจน และจะต้องไม่ขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด นอกจากนี้ จะต้องไม่บรรทุกผู้โดยสารเกินจำนวนที่นั่ง และทุกที่นั่งจะต้องมีเข็มขัดนิรภัยด้วย
สำหรับผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้าง พบว่ามีการแต่งกายที่หลากสี และหมายเลขที่ติดเอาไว้หลังเสื้อซ้ำกัน นั่นเป็นเพราะมีห้างร้านต่างๆ เป็นผู้ซื้อให้เพื่อโฆษณาร้านค้าของตนเอง ทำให้ยากต่อการติดตาม หากผู้ขับขีมีปัญหากับผู้ใช้บริการ เพื่อแก้ไขปัญหาเราจะขอความร่วมมือจากนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อจัดทำเสื้อวินขึ้นมาใหม่ โดยจะให้สวมเสื้อเป็นสีเดียวกันทั้งหมด
ส่วนหมายเลขก็จะเรียงไปตามลำดับตามจำนวนของผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างที่มีอยู่ทั้งหมด ส่วนผู้ที่ยังไม่มีใบขับขี่สาธารณะจะต้องเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 2 เดือน ซึ่งทางสำนักงานขนส่งทุกแห่งพร้อมที่จะอำนวยความสะดวกให้แก่ทุกคนอยู่แล้ว