พระนครศรีอยุธยา - นักเรียน ป.6 กรุงเก่า มีสำนึกพบต้นโพธิ์ ต้นไทร และต้นไม้ขึ้นบนเจดีย์สามปลื้ม หวั่นเจดีย์พังถ่ายภาพโพสต์ลงเฟซบุ๊กของตนเอง ปลุกสำนึกผู้ใหญ่ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรีบดูแลก่อนโบราณสถานพัง ระบุเป็นห่วงหากต้นไม้โตขึ้นเรื่อยๆ รากของต้นไม้จะชอนไชเข้าไปในอิฐแล้วอาจทำให้เจดีย์พังทลายลงมาก็ได้
วันนี้ (23 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวได้พบมีการโพสต์ภาพถ่ายลงในเฟซบุ๊ก เป็นภาพของเจดีย์สามปลื้ม ซึ่งตั้งอยู่บนถนนโรจนะ ต.ไผ่ลิง อ.พระนครศรีอยุธยา ภายในภาพที่โพสต์มีต้นไม้หลายชนิด เช่น ต้นโพธิ์ ต้นไทร และต้นไม้อื่นๆ ขึ้นอยู่บนเจดีย์ โดยมีข้อความเขียนแสดงความคิดเห็นว่า “ถ้ามีต้นไม้ขึ้นอย่างนี้เจดีย์ต้องพังแน่เพราะรากมัน...” ซึ่งโพสต์โดย ด.ช.ธนวิทย์ หรือ “น้องบุ๊ก" หวังวงศ์ศิริ อายุ 12 ปี เด็กนักเรียนชั้น ป.6/1 โรงเรียนอนุบาลพระนครศรีอยุธยา อยู่บ้านเลขที่ 8 หมู่ 2 ต.ลำไทร อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา
หลังจาก ด.ช.ธนวิทย์ หรือ “น้องบุ๊ก” หวังวงศ์ศิริ ได้มีการโพสต์ภาพถ่ายดังกล่าวออกไป ปรากฏว่า ได้รับความสนใจจากผู้ใหญ่ในหน่วยงานที่เกี่ยวข้องใน จ.พระนครศรีอยุธยา หลายคน และได้มีการสั่งการให้ตรวจสอบเรื่องนี้ตามที่มีการโพสต์ลงในเฟซบุ๊กว่า เจดีย์สามปลื้มที่ตั้งอยู่บนถนนโรจนะ ต.ไผ่ลิง อ.พระนครศรีอยุธยา มีต้นไม้ขึ้นบริเวณบนเจดีย์ ตามที่มีการโพสต์ลงในเฟซบุ๊ก จริงหรือไม่
ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้ไปตรวจสอบบริเวณเจดีย์สามปลื้ม บนถนนโรจนะ ต.ไผ่ลิง อ.พระนครศรีอยุธยา พบว่า มีต้นไม้ขึ้นจริงตามที่มีการโพสต์ภาพถ่ายลงในเฟซบุ๊ก หลังจากนั้นได้เดินทางไปพบกับ ด.ช.ธนวิทย์ หรือ “น้องบุ๊ก” หวังวงศ์ศิริ เจ้าของเฟซบุ๊กที่โพสต์ภาพถ่ายดังกล่าวที่โรงเรียนอนุบาลพระนครศรีอยุธยา
ด.ช.ธนวิทย์ หรือ “น้องบุ๊ก” หวังวงศ์ศิริ อายุ 12 ปี เด็กนักเรียนชั้น ป.6/1 โรงเรียนอนุบาลพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ก่อนที่ตนจะโพสต์ภาพถ่ายเจดีย์สามปลื้มมีต้นไม้ขึ้นบนยอดเจดีย์ วันหนึ่งตนได้นั่งรถกลับบ้านซึ่งจะต้องผ่านเจดีย์แห่งนี้ทุกวันโดยทุกเช้าและเย็น คุณแม่คือ นางมนิดา หวังวงศ์ศิริ อายุ 43 ปี จะเป็นคนขับรถมารับกลับบ้าน
จนกระทั่งก่อนหน้าที่จะโพสต์ภาพถ่ายดังกล่าว ขณะที่รถติดสัญญาณไฟจราจรอยู่บริเวณวงเวียนเจดีย์สามปลื้ม ตนสังเกตเห็นต้นโพธิ์ ต้นไทร และต้นไม้อื่นๆ ขึ้นที่ยอดเจดีย์ และเป็นห่วงว่าหากต้นไม้โตขึ้นเรื่อยๆ รากของต้นไม้จะชอนไชเข้าไปในอิฐแล้วอาจทำให้เจดีย์พังทลายลงมาก็ได้
“ผมอยากให้ผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้องได้เข้าไปดูแลเรื่องนี้ด้วย เพราะเจดีย์ดังกล่าวตั้งอยู่กลางถนนโรจนะ เป็นวงเวียนแยกไฟแดงที่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และต่างชาติต่างต้องผ่านเจดีย์นี้ก่อนเข้าตัวเมือง” ด.ช.ธนวิทย์ กล่าว
ด้าน นางอัจฉรีย์ คงเจริญเขตต์ อายุ 57 ปี ครูประจำชั้น ป.6/1 และครูสอนวิชาประวัติศาสตร์ของโรงเรียนอนุบาลพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า โรงเรียนอนุบาลพระนครศรีอยุธยา สอนตั้งแต่อนุบาลถึง ป.6 มีนักเรียนทั้งหมด 1,904 คน ครู 79 คน มีนายจำเนียร คุณเผือก เป็นผู้อำนวยการโรงเรียน สำหรับน้องบุ๊ก หรือ ด.ช.ธนวิทย์ เป็นเด็กช่างสังเกต และชอบวิชาประวัติศาสตร์มากเป็นเด็กที่เรียนเก่ง และกล้าแสดงออก สอบได้เกรดเฉลี่ย 3.5 เคยเรียนที่โรงเรียนสารศาสตร์ จ.ปทุมธานี แล้วย้ายมาอยู่ที่โรงเรียนนี้เมื่อตอน ป.4
“เข้าใจว่าการโพสต์ภาพดังกล่าวเกิดจากความหวงแหนในโบราณสถาน และซึมซับจากการได้เรียนวิชาประวัติศาสตร์ในชั้นเรียน จึงเกิดความรัก และหวงแหน คิดว่าเป็นเรื่องที่ดีที่เด็กได้แสดงออกทางความคิดเห็น และเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงความรักในโบราณสถาน หากมีผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้องเห็นก็น่าจะดูแลใส่ใจ” นางอัจฉรีย์ กล่าว
ด้านนายณรงค์ ด่านชัยวิโรจน์ นายกเทศมนตรีเมืองอโยธยา กล่าวว่า บริเวณวงเวียนเจดีย์สามปลื้ม เป็นพื้นที่ของเทศบาลเมืองอโยธยา ปกติจะปรับปรุงดูแลสภาพภูมิทัศน์รอบองค์เจดีย์ตลอด แต่ส่วนตัวองค์อยู่ในความดูแลของศิลปากร หากมีการร้องขอให้คนงานของเทศบาลเมืองอโยธยาไปดำเนินการก็พร้อมที่จะดำเนินการทันที