บุรีรัมย์ - นกอพยพหลายชนิดเริ่มกลับเข้ามาอาศัยหากินในพื้นที่ชุ่มน้ำ จ.บุรีรัมย์หลังมีฝนตกและแหล่งอาหารสมบูรณ์ ขณะสวนสัตว์นครราชสีมานำนกกระเรียนพันธุ์ไทยที่เคยสูญพันธุ์ไปแล้วมาปล่อยคืนสู่ธรรมชาติเพิ่มอีก 13 ตัว พร้อมขอประชาชน นักท่องเที่ยวร่วมดูแลอนุรักษ์ไม่ให้สูญพันธุ์
วันนี้ (22 มิ.ย.) หลังจากมีฝนตกในหลายพื้นที่ของจังหวัดบุรีรัมย์ ส่งผลให้พื้นที่ต่างๆ ตามธรรมชาติมีความชุ่มชื้นและอุดมสมบูรณ์มากขึ้น ทำให้นกหายากและนกอพยพหลายชนิด เริ่มกลับเข้ามาอาศัยหากินในพื้นที่ชุ่มน้ำ เขตห้ามล่าสัตว์ป่าอ่างเก็บน้ำสนามบิน อ.ประโคนชัย แล้วหลายพันตัว เช่น นกไอ้งั้ว เป็ดหงส์ เป็ดแดง กาบบัว ปากห่าง และนกอื่นๆ อีกหลายชนิด เนื่องจากมีแหล่งอาหารสมบูรณ์
ขณะที่ทางสวนสัตว์จังหวัดนครราชสีมาได้นำลูกนกกระเรียนพันธุ์ไทยมาปล่อยกลับคืนสู่พื้นที่ชุ่มน้ำเขตห้ามล่าสัตว์ป่าอ่างเก็บน้ำสนามบิน อ.ประโคนชัย เพิ่มอีกจำนวน 13 ตัว จากที่ก่อนหน้านี้ในช่วงปี 2554-2555 ได้นำมาทดลองปล่อยคืนสู่ธรรมชาติที่อ่างเก็บน้ำสนามบินดังกล่าวแล้ว 14 ตัวเพื่อเป็นการสร้างความสมดุลให้ระบบนิเวศ และแพร่ขยายพันธุ์ต่อไป
ทั้งนี้ เนื่องจากนกกระเรียนเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง 1 ใน 15 ชนิดที่เคยสูญพันธุ์ไปจากป่าธรรมชาติของไทย จึงเชิญชวนประชาชน นักท่องเที่ยว หรือผู้นิยมดูนกมาเที่ยวชมศึกษานกกระเรียน และนกหายากอีกหลายชนิดที่อพยพข้ามาอาศัยหากิน และทำรังวางไข่ ที่เขตห้ามล่าอ่างเก็บน้ำสนามบินในช่วงนี้
นายเทพ หวังคะพันธ์ ผู้ช่วยหัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าอ่างเก็บน้ำสนามบิน กล่าวว่า นกกระเรียนที่นำมาปล่อยคืนสู่ธรรมชาติทุกตัวจะมีการติดจีพีเอสและวิทยุติดตามตัวเพื่อติดตามพฤติกรรมการดำรงชีวิต ทั้งภาคพื้นดิน และทางอากาศ ว่าสามารถหากินอยู่ตามธรรมชาติได้ตามปกติหรือไม่ จากการติดตามพฤติกรรมที่ผ่านมาพบว่าสามารถดำรงชีวิต และหากินได้เองตามธรรมชาติ
“จึงขอความร่วมมือประชาชนหรือผู้พบเห็นอย่าได้ล่าหรือทำร้าย ให้ช่วยกันอนุรักษ์เพื่อไม่ให้นกกระเรียนสูญพันธุ์ไปจากประเทศไทยเหมือนที่ผ่านมาอีก หรือนกหายากอีกหลายชนิดให้ยังอยู่ตามธรรมชาติร่วมกันด้วย” นายเทพกล่าว