ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ทหารเชิญผู้ประกอบการภาคเอกชนเชียงใหม่ชี้แจงทำความเข้าใจกรณีจัดระเบียบแรงงานต่างด้าว ย้ำชัด คสช.ไม่มีนโยบายปราบปรามกวาดล้าง เพียงแต่ต้องการทำให้ถูกต้องตามกฎหมายทั้งระบบ ลั่นจัดการเด็ดขาดหากมีกรณี จนท.ข่มขู่รีดไถ
วันนี้ (21 มิ.ย.) ที่สโมสรกาวิละ มณฑลทหารบกที่ 33 จังหวัดเชียงใหม่ พล.ต.ศรายุธ รังษี ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 33 พร้อมด้วยตัวแทนตำรวจ จัดหางานจังหวัดเชียงใหม่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประชุมหารือร่วมกับหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ สภาอุตสาหกรรมจังหวัดเชียงใหม่ และผู้ประกอบการภาคเอกชนในจังหวัดเชียงใหม่ กรณีการจัดระเบียบแรงงานต่างด้าวตามนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อชี้แจงทำความเข้าใจที่ถูกต้องต่อผู้ประกอบการ เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมา มีกระแสข่าวที่ทำให้เกิดความเข้าใจผิดว่า คสช.จะทำการปราบปรามกวาดล้างแรงงานต่างด้าว จนกระทั่งส่งผลกระทบ และสร้างความเดือดร้อนให้แก่การประกอบกิจการต่างๆ ที่มีการใช้แรงงานต่างด้าว
ทั้งนี้ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 33 ยืนยันว่า คสช.ไม่มีนโยบายที่จะปราบปรามกวาดล้างแรงงานต่างด้าวที่ทำงานอยู่ในประเทศไทยแต่อย่างใด แต่การแก้ไขปัญหาแรงงานต่างด้าวตามนโยบายของ คสช.จะเป็นการบริหารจัดการแรงงานต่างด้าวให้เป็นไปตามหลักมาตรฐานสากล มีมนุษยธรรม และมีความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งในระยะแรกจะดำเนินการในเรื่องแรงงานเด็ก หรือกิจกรรมใดๆ ที่นำไปสู่การค้ามนุษย์ เพื่อจับกุมกิจกรรมผิดกฎหมายเหล่านี้อย่างต่อเนื่อง และเป็นไปตามหลักสากล
โดยการประชุมชี้แจงในครั้งนี้ก็ได้มีการพูดคุยทำความเข้าใจต่อผู้ประกอบการให้เข้าใจที่ถูกต้องแล้วว่า ในส่วนของการใช้แรงงานต่างด้าวที่ถูกกฎหมายอยู่แล้วไม่มีปัญหาอะไร และในส่วนที่อาจจะยังไม่ถูกต้องก็ให้เร่งดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมายโดยเร็วที่สุด ซึ่งเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่จะอนุโลมให้เป็นการชั่วคราว ทั้งเมื่อทางผู้ประกอบการได้รับทราบแล้วก็เกิดความสบายใจมากขึ้น เพื่อที่จะได้ร่วมมือกันในการแก้ไขปัญหาต่อไป
สำหรับกรณีที่มีผู้ประกอบการหลายรายระบุว่า มีผู้แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ทำการข่มขู่รีดไถเรียกรับผลประโยชน์เพื่อแลกกับการช่วยเหลือในการใช้แรงงานต่างด้าวนั้น ยอมรับว่า ที่ผ่านมาอาจจะมีกรณีดังกล่าวเกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ได้มีการเน้นย้ำกำชับเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายในการปฏิบัติหน้าที่แล้วไม่ให้กรณีดังกล่าวเกิดขึ้น ทั้งนี้ หากพบเจ้าหน้าที่เข้าไปเกี่ยวข้องกระทำผิดจะดำเนินการเด็ดขาด ซึ่งหากผู้ประกอบการมีข้อมูลสามารถแจ้งได้ และเร่งดำเนินการตรวจสอบทันที
นอกจากนี้ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 33 กล่าวถึงสถานการณ์ความเคลื่อนไหวต่างๆ ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ว่า ตลอดช่วงเดือนที่ผ่านมา ภาพรวมยังคงเป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อยโดยได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่ายเป็นอย่างดี ทางเจ้าหน้าที่มีการตรวจสอบกวาดล้างการทำผิดกฎหมายทุกรูปแบบอย่างต่อเนื่อง ทั้งยาเสพติด ผู้มีอิทธิพล และอาวุธสงคราม เป็นต้น ซึ่งในส่วนของอาวุธสงคราม และผู้มีอิทธิพล ไม่พบว่ามีปัญหาใดๆ ขณะที่การกวาดล้างอาชญากรรมต่างๆ เป็นไปตามปกติ
ด้านนายเฉลิมชาติ นครังกุล ประธานหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมากระแสข่าวการกวาดล้างแรงงานต่างด้าวส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการพอสมควร เนื่องจากต้องยอมรับความจริงว่า ผู้ประกอบการบางส่วนจำเป็นต้องใช้แรงงานกลุ่มนี้ และก็เป็นความจริงที่มีเจ้าหน้าที่บางส่วนใช้ช่องว่างตรงจุดนี้เข้าไปแสวงหาผลประโยชน์จากผู้ประกอบการ และแรงงานต่างด้าว อย่างไรก็ตาม เมื่อได้รับการชี้แจงจากเจ้าหน้าที่ก็เกิดความสบายใจขึ้นทุกฝ่าย
ทั้งนี้ เห็นด้วยที่จะมีการจัดระเบียบแรงงานต่างด้าวให้เข้าสู่ระบบถูกต้องตามกฎหมายทั้งหมด โดยที่ทางภาคเอกชนในจังหวัดเชียงใหม่ เตรียมที่จะประชุมหารือร่วมกันเพื่อรวบรวมประเด็นปัญหา และข้อเสนอแนะต่างๆ นำเสนอให้ทาง คสช.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้พิจารณาในการดำเนินการแก้ไขปัญหาแรงงานต่างด้าว
โดยประเด็นปัญหาสำคัญอย่างหนึ่งในช่วงที่ผ่านมา จะเป็นในเรื่องของต่ออายุใบอนุญาตทำงานที่จะต้องไปรายงานตัวทุก 3 เดือน ซึ่งเป็นระยะเวลาที่สั้นเกินไป และอยากจะมีการเสนอให้พิจารณาขยายระยะเวลาเป็น 5 ปี หรือ 10 ปี