หนองคาย - เจ้าหน้าที่ทรัพยากรธรรมชาติสนธิกำลังป่าไม้ ตรวจสอบโรงไม้หนองคาย หลังพบพิรุธซุกซ่อนไม้ประดู่ อาจลอบสวมสิทธิส่งประเทศที่สาม เจ้าของไม้โร่นำเอกสารแจง ระบุซื้อมาถูกต้อง ส่งให้โรงเลื่อยขายในไทยเท่านั้น
วันนี้ (19 มิ.ย.) นายพิชิต สมบัติมาก ผอ.สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดหนองคาย (ผอ.สนง.ทสจ.หนองคาย), นายวิระชัย อัคราช หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ นค.2 นำเจ้าหน้าที่สายตรวจปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายป่าไม้จำนวนหนึ่ง เข้าตรวจสอบ หจก.วีเอสเอสบางกอก แสงสุวรรณ เลขที่ 236 หมู่ 5 ถนนมิตรภาพ ต.หนองกอมเกาะ อ.เมืองหนองคาย ซึ่งมีนายชัยรัตน์ ปุณสุวรรณ อายุ 49 ปี เป็นเจ้าของ เจ้าหน้าที่ตรวจพบไม้ประดู่ท่อนเหลี่ยมจำนวนมาก ปริมาตรประมาณ 80-100 ลูกบาศก์เมตร อยู่ในช่องเตาอบไม้ 4 ตู้ ปิดประตูไว้อย่างดี
นายพิชิต สมบัติมาก ผอ.สนง.ทสจ.หนองคาย กล่าวว่า การนำกำลังตรวจสอบในครั้งนี้เป็นการดำเนินการตามคำสั่ง คสช.ที่ให้เร่งรัดปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับป่าไม้ โดยได้รับแจ้งว่าที่โรงไม้แห่งนี้มีไม้ต้องสงสัยซุกซ่อนอยู่ อาจมีการพักไว้เพื่อรอสวมสิทธิ นำเอกสารจากประเทศเพื่อนบ้านมาแจ้งต่อเจ้าหน้าที่ก่อนจะนำไม้ส่งออกไปยังประเทศที่สาม โดยเฉพาะประเทศจีนที่ต้องการไม้เป็นจำนวนมาก
ขณะตรวจสอบนายชัยรัตน์ ปุณสุวรรณ เจ้าของโรงไม้ได้เข้าให้ข้อมูลต่อเจ้าหน้าที่ ระบุว่า ไม้ที่อยู่ภายในโรงไม้ส่วนใหญ่เป็นไม้ยางพาราที่นำมาทำไม้เพลต และทำผงไม้
ส่วนไม้ประดู่ที่พบเป็นของลูกค้ามาจ้างให้เลื่อย ซึ่งทางโรงไม้อยู่ระหว่างการเคลียร์พื้นที่โรงไม้เพื่อจะนำเครื่องจักรสำหรับทำผงไม้ยางพาราลง จึงต้องนำไม้ประดู่ไปเก็บไว้ในเตาอบก่อน ไม่ได้มีเจตนาซุกซ่อนแต่อย่างใด
ด้านนายชูยศ โอจงเพียร อายุ 67 ปี อยู่บ้านเลขที่ 231 บ้านพานถม เขตพระนคร กรุงเทพฯ ได้นำเอกสารมาพบเจ้าหน้าที่ ชี้แจงว่าไม้ประดู่เป็นของตนเองที่ซื้อมาจากชาวบ้านในอำเภอรัตนวาปี จ.หนองคาย เพื่อต้องการช่วยเหลือเพื่อนที่เดือดร้อนเรื่องเงิน จึงซื้อไม้ต่อให้
จากนั้นได้มาจ้างให้โรงไม้แห่งนี้เลื่อยเป็นแผ่น ก่อนจะนำไปขายยังตลาดไม้ในประเทศ ซึ่งทำถูกกฎหมายทุกขั้นตอน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้อายัดไม้ประดู่ทั้งหมดไว้ตรวจสอบอย่างละเอียดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ. 2484 หากตรวจสอบแล้วเป็นไม้ถูกต้องจะคืนให้เจ้าของ แต่หากพบเป็นไม้มีปัญหาเจ้าของไม้จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายทันที