ประจวบคีรีขันธ์ - ปศุสัตว์ประจวบคีรีขันธ์ ร่วมกับชุดเฉพาะกิจปศุสัตว์เขต 7 สนธิกำลังออกตรวจสอบร้านจำหน่ายยา และอาหารสัตว์ พร้อมฟาร์มเลี้ยงสัตว์ และโรงฆ่าสัตว์ในประจวบฯ เพื่อป้องกันนำยาเถื่อนมาใช้ต่อสัตว์ ซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อสัตว์จนถึงตาย และตกค้างถึงมนุษย์ก่อให้เกิดปัญหาดื้อยา และสารตกค้างได้
วันนี้ (18 มิ.ย.) นายเศรษฐเกียรติ กระจ่างวงษ์ ปศุสัตว์จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า กรมปศุสัตว์ โดยชุดเฉพาะกิจเขต 7 จำนวน 5 ชุด ประกอบด้วยสำนักงานปศุสัตว์ จ.กาญจนบุรี ราชบุรี เพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์ ได้สนธิกำลังเจ้าหน้าที่กว่า 25 นาย เข้าตรวจสอบสถานที่จำหน่ายยาและอาหารสัตว์ในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อดำเนินการตรวจสอบฟาร์มเลี้ยงสัตว์ สถานที่จำหน่ายเนื้อสัตว์ สถานที่ผลิตอาหารสัตว์ โรงฆ่าสัตว์ สถานพยาบาลสัตว์ ในพื้นที่สำนักงานปศุสัตว์เขต 7 ตามพระราชบัญญัติโรคระบาด พ.ศ.2499 พระราชบัญญัติควบคุมคุณภาพอาหารสัตว์ และพระราชบัญญัติการฆ่าสัตว์และจำหน่ายเนื้อสัตว์ และพระราชบัญญัติยา พ.ศ.2510 เป็นต้น
โดยเฉพาะอาหารสัตว์และยาสัตว์ที่นำมาใช้โดยไม่ผ่านการขึ้นทะเบียน หรือไม่ผ่านการตรวจสอบจากหน่วยงานของรัฐ ทำให้มีความเสี่ยงสูงที่ทำให้สัตว์เลี้ยงตายได้ หากฟาร์มเลี้ยงสัตว์นำไปใช้อาจทำให้เกิดเชื้อดื้อยา และตกค้างในเนื้อสัตว์ และผลิตภัณฑ์สัตว์ต่างๆ ได้ เช่น เนื้อ นม ไข่ ซึ่งส่งผลอันตรายต่อผู้บริโภค และจะกระทบต่อการส่งออกผลิตภัณฑ์สัตว์ โดยเฉพาะเนื้อสัตว์ปีกส่งต่างประเทศ ซึ่งเป็นรายได้หลักของประเทศในขณะนี้ นอกจากนี้ ยังเป็นการเตรียมความพร้อมในการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ด้วย
นายเศรษฐเกียรติ กระจ่างวงษ์ ปศุสัตว์จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า เพื่อความปลอดภัยต่อสัตว์เลี้ยงของท่าน และป้องกันอันตรายสู่ผู้บริโภค โดยเฉพาะปัญหาสารตกค้างหรือเชื้อดื้อยา ขอให้ประชาชนเจ้าของสัตว์ หรือเกษตรกรซื้ออาหารสัตว์และยาสัตว์ที่มีทะเบียนและผ่านการรับรองจากหน่วยงานภาครัฐ มีการระบุสถานที่ผลิต แหล่งที่นำเข้าและวันหมดอายุที่ชัดเจน
นอกจากนี้ ร้านหรือสถานที่จำหน่ายจะต้องมีใบอนุญาตให้จำหน่ายอาหารสัตว์และยาสัตว์ โดยมีสัตว์แพทย์ หรือเภสัชภรอยู่ประจำร้านด้วย จากการออกตรวจสอบผลปรากฏว่า ไม่พบการกระทำผิดกฎหมาย