xs
xsm
sm
md
lg

เสริมสวยด้วย Growth Factor ไม่ได้ผลจริงทางสถิติ เสี่ยงติดเชื้อ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นพ.เวสารัช เวสสโกวิท แพทย์ผู้เชี่ยวชาญและคณะกรรมการอำนวยการ สมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย

จริงหรือไม่ที่มีการนำเลือดตัวเองมาปั่นให้ได้เกล็ดเลือด แล้วฉีดเข้าไปในผิวหนัง จะทำให้ผิวหนังดูอ่อนเยาว์ขึ้นมาได้ เนื่องจากมี Growth factors ที่สามารถชะลอวัย
ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต
ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับ Growth Factor กันก่อน ซึ่งเจ้า Growth Factor นี้คือ สารที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติในร่างกายของสิ่งมีชีวิตทุกชนิด สามารถกระตุ้นให้เซลล์มีการเพิ่มจำนวนการเจริญเติบโต และพัฒนาการของเซลล์ได้ เป็นสารที่มีความจำเป็นต่อการดำรงชีวิตของสิ่งมีชีวิต Growth Factor มีหลายชนิด แต่ละชนิดมีความจำเพาะต่อเซลล์หรืออวัยวะ เช่น Erythropoietin เป็น Growth Factor ที่กระตุ้นให้มีการสร้างเม็ดเลือดแดง Growth Factor ที่ผิวหนังทำให้ผิวหนังเจริญเติบโต Growth Factor ที่เป็น Growth Hormone ใช้รักษาในเด็กเล็กที่ขาด Growth Hormone หรือ Growth Factor ในไต ในกระดูก เป็นต้น

แหล่งที่มาของ Growth Factor อาจได้มาจากการผลิตโดยตรงจากเซลล์ชนิดต่างๆ ของร่างกาย เช่น เกล็ดเลือด ซึ่งมี Growth Factor อยู่ด้วย หรือได้มาโดยทางอ้อม เช่น อาจทำการตัดต่อทางพันธุกรรมในแบคทีเรียต่างๆ แล้วนำมาผลิต หรือ สกัดมาจากสัตว์บางชนิด เช่น หมู วัว เป็นต้น โดยการตัดต่อยีนของคนเข้าไปในแบคทีเรีย แล้วแบคทีเรียก็สร้าง Growth Factor ขึ้นมา และทำการสกัด Growth Factor จากแบคทีเรียอีกครั้ง หรือมีการตัดต่อทางพันธุกรรมเข้าไปในสัตว์บางชนิด เช่น หมู วัว แล้วทำให้นมที่หมูหรือวัวผลิตมี Growth Factor แล้วสกัด Growth Factor เหล่านี้มาใช้ ซึ่ง Growth Factor ส่วนใหญ่ในปัจจุบัน ได้มาจากการสังเคราะห์ ไม่ได้สกัดมาจากสิ่งมีชีวิตจริงๆ เพราะการสังเคราะห์ทำได้ง่ายกว่า และเป็นกระบวนการที่ปลอดเชื้อ

การใช้ Growth Factor ทางการแพทย์ที่เป็นการรักษามาตรฐาน เป็นการใช้รักษาโรคทางโลหิตวิทยา โรคมะเร็ง หรือ โรคทางระบบหลอดเลือดและหัวใจ เป็นหลัก ได้แก่ Human Growth Hormone เป็น Growth Factor ชนิดหนึ่งที่มีความสำคัญต่อร่างกาย โดยเฉพาะทำให้ส่วนสูงเพิ่มขึ้น และมีความสำคัญต่ออวัยวะต่างๆ มากมาย ทางการแพทย์ใช้รักษาโรคที่มีการพร่องของฮอร์โมนดังกล่าว หรือโรคทางอายุรกรรมบางชนิด เช่น ภาวะที่ร่างกายทรุดโทรมที่พบในโรคเอดส์ เป็นต้น มีการนำเอา Growth Factor ดังกล่าวมาใช้ในเวชศาสตร์ชะลอวัย (Anti-ageing Medicine) เนื่องจากพบว่าผู้สูงวัยที่ได้รับฮอร์โมนดังกล่าวมีน้ำหนักของมวลกล้ามเนื้อเพิ่มขึ้น แต่ไม่เพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ ทำให้น่าจะเชื่อว่าผลที่ได้เกิดจากการคั่งของน้ำในกล้ามเนื้อมากกว่าปริมาณกล้ามเนื้อที่เพิ่มขึ้นจริงๆ แต่การใช้ Growth Factor ดังกล่าว อาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงได้ เช่น มีการอักเสบบริเวณที่ฉีดยา แต่บางครั้งพบผลข้างเคียงอื่น เช่น ข้อบวมอักเสบ เสี่ยงต่อโรคเบาหวาน และมะเร็งโลหิตชนิด Hodgkin’s Lymphoma และพบว่าในเด็กที่ได้ยาดังกล่าวแล้วติดตามระยะยาว พบมีการเพิ่มของอัตราตายมากกว่าประชากรทั่วไปเล็กน้อย

Platelet-derived Growth Factor (PDGF) เป็น Growth Factor ที่ได้มาจากเกล็ดเลือด นำมาใช้รักษาแผลเรื้อรังที่เท้าที่เกิดจากเบาหวาน ซึ่งมีหลอดเลือดเสื่อม ซึ่งใช้ได้ผลดี แต่หากใช้ต่อเนื่องถึง 3 หลอดขึ้นไป โอกาสเสียชีวิตจากโรคมะเร็งจะเพิ่มมากกว่ากลุ่มควบคุมถึง 5 เท่า ปัจจุบันมีการลักลอบนำยาเถื่อนชนิดดังกล่าวเข้ามาใช้รักษาผู้ป่วยในประเทศไทยโดยไม่ได้รับอนุญาตจากองค์การอาหารและยา

น้ำเหลืองที่มีเกล็ดเลือดจำนวนมาก (Platelet Concentrate) เป็นการนำเลือดมาปั่นแยกเอาน้ำเหลืองส่วนที่มีเกล็ดเลือดจำนวนมากมาใช้ในการรักษาโรค เนื่องจากเชื่อกันว่าเกล็ดเลือดมี Growth Factor อยู่ การรักษามาตรฐานของน้ำเหลืองที่มีเกล็ดเลือดจำนวนมาก คือใช้ในภาวะที่ร่างกายขาดเกล็ดเลือด เช่น โรคไข้เลือดออก เป็นต้น แต่มีผู้นำน้ำเหลืองที่มีเกล็ดเลือดจำนวนมากดังกล่าว มาใช้ในการรักษาโรคอื่นๆ และเปลี่ยนชื่อเรียกใหม่ เป็น Platelet-Rich Plasma (PRP) เช่น นำมารักษาภาวะบาดเจ็บจากการเล่นกีฬา เป็นต้น จากการศึกษาวิเคราะห์อภิมาน (Meta-Analysis) ไม่สามารถแสดงให้เห็นว่า ผู้ป่วยที่ได้รับ PRP มีการหายจากการบาดเจ็บกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ทางผิวหนังมีผู้นำเอา PRP มาใช้ในการเสริมความงาม โดยตั้งชื่อว่า Vampire Facelift จากการศึกษาไม่พบว่าทำให้ผิวข้างที่ฉีด PRP ดูดีกว่าข้างที่ไม่ได้ฉีดอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ นอกจากนั้นกระบวนการเตรียม PRP อาจมีการปนเปื้อนเชื้อแบคทีเรีย ทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อน ติดเชื้อขึ้นมาได้ ด้วยเหตุผลดังกล่าว ในปัจจุบันเครื่องมือสำเร็จรูปที่ใช้ในการเตรียม PRP ยังไม่ได้รับอนุญาตให้นำมาใช้กับผู้ป่วยในประเทศไทย

การรักษาด้วย Growth Factor ควรจะสอบถามว่าเป็นการรักษามาตรฐานหรือไม่ ยาได้ผ่านการตรวจสอบขององค์การอาหารและยาหรือไม่ หรือเป็นยาลักลอบนำเข้า ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยของสุขภาพของท่านเอง


กำลังโหลดความคิดเห็น