ผู้ว่าฯ จันทบุรี ตรวจสอบน้ำทะเลกัดเซาะชายฝั่ง สร้างความเสียหายต่อป่าชายเลน

จันทบุรี - ผู้ว่าฯ จันทบุรี ลงพื้นที่ดูปัญหาน้ำทะเลกัดเซาะชายฝั่งใน 2 อำเภอ พบมีการกัดเซาะพื้นที่ยาวกว่า 35 กิโลเมตร ป่าชายเลนสูญหายกว่า 30 ไร่ ชาวบ้านกว่า 50 หลัง ต้องย้ายบ้านหนี

วันนี้ (17 มิ.ย.) นายสามารถ ลอยฟ้า ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี พร้อมคณะลงพื้นที่ดูปัญหาน้ำทะเลกัดเซาะชายฝั่งใน ต.บางชัน หมู่ที่ 2, 3 และหมู่ที่ 6 อำเภอขลุง ถูกน้ำทะเลกัดเซาะชายฝั่งกินพื้นที่ยาวกว่า 18 กิโลเมตร ตำบลเกาะเปริด หมูที่ 2, 4 , 6 และ 7 น้ำทะเลกัดเซาะชายฝั่งยาวกว่า 10 กิโลเมตร และ ต.หนองชิ่ม หมู่ที่ 7, 8, 9 และ 10 อ.แหลมสิงห์ จังหวัดจันทบุรี น้ำทะเลกัดเซาะชายฝั่งหมู่ 10 บ้านใหม่พัฒนา ยาวตลอดแนวชายหาดกว่า 8 กิโลเมตร รวมพื้นที่ได้รับความเสียหายทั้ง 2 ตำบล เป็นแนวกว่า 35 กิโลเมตร

นอกจากนั้น พื้นที่ป่าชายเลนถูกน้ำทะเลกัดเซาะเสียหายกว่า 30 ไร่ และแนวคันดินถูกน้ำทะเลกัดเซาะเสียหายเป็นแนวยาว ชาวบ้านที่อาศัยบริเวณพื้นที่ดังกล่าวกว่า 50 หลังต้องย้ายบ้านหนี

นายสามารถ กล่าวว่า แนวชายฝั่งใน 3 ตำบล 2 อำเภอเสียหายอย่างรุนแรง ซึ่งจะได้หาแนวทางแก้ไขอย่างยั่งยืนต่อไป โดยจะประสานกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง และของบประมาณแก้ปัญหาให้ต่อไป

นายชะนี ปลายเนิน อายุ 63 ปี อยู่บ้านเลขที่ 9/1 หมู่ที่ 10 ต.หนองชิ่ม กล่าวว่า ปัญหาน้ำทะเลกัดเซาะชายฝั่งมีมานานกว่า 20 ปีแล้ว บางบ้านต้องขายที่ดินหนีไปอยู่ที่อื่น ทำให้กลุ่มนายทุนได้โอกาสเข้ามากว้านซื้อที่ดินเทำนากุ้ง