xs
xsm
sm
md
lg

ชวนเที่ยวตลาดศาลเจ้าโรงทอง อายุกว่าร้อยปี ยุคฟื้นฟูหลังถูกเพลิงไหม้ใหญ่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


อ่างทอง - ชวนเที่ยวชมวิถีชีวิตตลาด 100 ปี ของชาวชุมชนศาลเจ้าโรงทอง ยุคฟื้นฟูหลังถูกเพลิงไหม้ใหญ่ เสน่ห์แบบบ้านๆ ตำนานจากยุค “บางระจัน” ยัน “ดิจิตอล”

หลังสิ้นศึกบางระจัน บ้านเมืองเริ่มเข้าสู่ความสงบ ผู้คนชาวแขวงเมืองวิเศษชัยชาญ (จ.อ่างทอง) ที่มีความขยันอดทนเป็นเลิศ เพราะต้องผจญกับศึกสงคราม ผู้คนล้มหายตายจากไปต่อหน้าต่อตา พืชพรรณธัญญาหารที่ปลูกเก็บสะสมไว้ในยุ้งฉางถูกทหารพม่าปล้นสะดมไปจนหมด บ้านเมืองต้องเผชิญกับปัญหาข้าวยากหมากแพงมายาวนาน

ก็เริ่มทำการก่อร่างสร้างตัว ด้วยการรวมตัวกันตั้งถิ่นฐานเป็นชุมชนแบบ “ใครใคร่ค้าค้า ใครใคร่ขายขาย” ที่มีความถนัดเรื่องเกษตรกรรม ก็หันไปหักร้างถางพงปลูกข้าว ที่ถนัดทางการค้าก็มารวมกันอยู่เป็นชุมชนเรียกกันว่า “ชุมชนไผ่จำศีล” ปัจจุบัน คือ “ชุมชนศาลเจ้าโรงทอง” อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง

ชุมชนศาลเจ้าโรงทองรุ่งเรืองขึ้นมาตามลำดับกระทั่งเป็นชุมขนาดใหญ่ และพัฒนาตัวเองขึ้นมาเป็นตลาดศาลเจ้าโรงทอง ซึ่งมีด้วยกัน 3 ตลาด (ยุคนี้เรียกว่า 3 ซอย) แต่ก็เดินได้รอบ เรียกกันว่าตลาดเหนือ ตลาดกลาง และตลาดใต้ ตลาดทั้งหมดถูกสร้างด้วยไม้สักและไม้แดง หรือไม้เนื้อแข็งขนาด 2 ชั้นกว่า 300 ห้อง ชั้นล่างเป็นสถานที่ค้าขาย ชั้นบนเป็นที่พักอาศัย ด้านหน้าตลาดอยู่ติดแม่น้ำน้อย ตลาดที่เจริญมากที่สุด คือ ตลาดที่อยู่ใกล้แพจอดเรือยนต์โดยสาร

แต่ปัจจุบัน ความเจริญของบ้านเมืองกลับตาลปัตร จากริมน้ำมาเป็นริมถนน ตลาดริมน้ำจึงซบเซาไปตามกาลเวลา แต่ผู้รับมรดกตกทอดก็ยังคงเอกลักษณ์รูปแบบของตลาดไว้ได้เหมือนในอดีด จนเมื่อคืนวันที่ 6 ธันวาคม 2548 เกิดเพลิงไหม้ใหญ่ ทำให้ตลาดศาลเจ้าโรงทองวอดไปกว่า 100 คูหา

ยุคปัจจุบัน นายปัญญา งานเลิศ ปลัดจังหวัดอ่างทอง อดีตนายอำเภอวิเศษชัยชาญ นายวิชัย ลิมป์วัฒนชัย หรือเสี่ยเถร ชาวไทยเชื้อสายจีนในตลาดศาลเจ้าโรงทอง ได้พัฒนาตลาดศาลเจ้าโรงทองให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว ด้วยการสร้างตลาดในส่วนที่ถูกไฟไหม้ขึ้นมาใหม่ทั้งหมด ด้วยการหาแหล่งเงินกู้ให้แก่เจ้าของร้านค้าที่ถูกไฟไหม้ โดยยังคงอนุรักษ์รูปแบบเก่าแก่ไว้ให้เหมือนเดิมมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ พร้อมทั้งก่อสร้างเขื่อน และถนนเลียบแม่น้ำบริเวณหน้าตลาดด้านริมน้ำ พัฒนาเขื่อนให้เป็นตลาดน้ำย้อนยุค

มาถึงนายวิศว ศะศิสมิต เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง ได้ระดมส่วนราชการ และเอกชนพัฒนาตลาดศาลเจ้าโรงทอง ปรับปรุงภูมิทัศน์สองฝั่งแม่น้ำน้อย ซึ่งส่วนใหญ่แล้วประชาชนยังคงใช้ประโยชน์อยู่ เช่น อาบน้ำ ทอดแห ยกยอหาปลา พร้อมกับให้เทศบาลตำบลศาลเจ้าโรงทอง จัดสร้างเรือนำเที่ยวขนาด 40 ที่นั่งไว้บริการนักท่องเที่ยว หากเดินทางไปท่องเที่ยวด้วยรถยนต์ส่วนตัว ขอแนะนำให้ขับเข้าไปจอดที่ในวัดนางใน จากนั้นก็เดินเข้าไปตลาดร้อยปีที่สร้างขึ้นมาใหม่ ที่ขาดไม่ได้ คือ ให้เดินไปตามซอยริมน้ำ ไปที่ศาลเจ้าซึ่งเป็นอาคารคอนกรีตสวยงามมาก

ที่มีศาลเจ้าเพราะเดิมทีคนจีนโพ้นทะเล อพยพเข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภารประกอบสัมมาชีพในแผ่นดินสยาม บางส่วนก็มาปักหลักอยู่ในแขวงเมืองวิเศษชัยชาญเมื่อปี 2420 ตรงกับปีฉลู หนึ่งในหัวหน้าคณะ คือ นายสิ่งฮะ แซ่ฉั่ว ชักชวนชาวจีนที่มาตั้งถิ่นฐานอยู่ในชุมชนศาลเจ้าโรงทอง ร่วมกันก่อตั้งศาลเจ้าขึ้นที่ริมแม่น้ำน้อย ไว้เป็นที่ประดิษฐานเทพเจ้าทุกองค์ที่คนจีนโพ้นทะเลเคารพนับถือ ศาลเจ้าจึงอิงศิลปะจีนที่สวยงามมาก

จากนั้นก็นั่งเรือจ้างข้ามฝั่งด้วยเรือพลังน้ำ ไม่ได้ใช้เครื่องยนต์ หรือมอเตอร์ขับเคลื่อน แต่ใช้พลังน้ำผลักดันหางเสือให้เรือข้ามฝั่งไปด้วยแรงดันน้ำ ชมทิวทัศน์ตลาดศาลเจ้าโรงทอง และฝั่งหมู่บ้านไผ่จำศีล จากนั้นลงเรือท่องเที่ยวทางน้ำในแม่น้ำน้อย โดยเรือเริ่มออกจากตลาดศาลเจ้าโรงทองล่องไปตามแม่น้ำน้อย ชมวิถีชีวิตสองฝั่งแม่น้ำ บ้านเรือนที่ส่วนใหญ่ยังคงเป็นบ้านเรือนไม้สักหรือไม้เนื้อแข็งแบบโบราณ ล่องไปจนถึงวัดสี่ร้อย ขึ้นไปนมัสการพระพุทธรูปปูนปั้นปางป่าเลไลย์ สูง 21 เมตร หน้าตักกว้าง 6 เมตรเศษ โดยเรือใช้เวลาเดินทางไป-กลับ 2 ชั่วโมง

ขากลับเรือจะไปส่งที่วัดวิเศษชัยชาญ จากนั้นนั่งรถรางพาชมอนุสาวรีย์นายดอก นายทองแก้ว เสร็จแล้วรถรางจะวิ่งเข้าหมู่บ้านไผ่จำศีล ไปส่งลงเรือข้ามฝั่งริมแม่น้ำน้อย กลับไปที่ตลาดศาลเจ้าโรงทอง พอได้เวลาหิวก็มีอาหารจานเดียวให้เลือกรับประทานกันในแพ ราคาถูกมาก เวลาที่เหลือก็ตระเวนเที่ยวสถานที่อื่นต่อไป เพราะที่อ่างทองวันเดียวเที่ยวได้ทั้งจังหวัด

นางบุญนาค ฉัตรเฉลิมวิทย์ อยู่บ้านเลขที่ 430/1 ม.6 ต.ศาลเจ้าโรงทอง อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง ซึ่งยึดอาชีพค้าขายอยู่ในตลาด บอกว่า หลังจากเพลิงไหม้ใหญ่เมื่อปี 2548 เทศบาลได้บรูณะตลาดใหม่ทั้งหมด โดยขยายถนนให้ใหญ่ขึ้น ทำให้รถวิ่งเข้ามาได้ง่ายขึ้น ส่วนการค้าขายนั้น ตอนที่ปรับปรุงใหม่ๆ มีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวกันเยอะมาก แต่พอนานไปก็เริ่มซบเซาลง โดยตอนนี้จะมีนักท่องเที่ยวเฉพาะวันหยุดเท่านั้น


กำลังโหลดความคิดเห็น