พระนครศรีอยุธยา - หนุ่มต้องสงสัยฆ่าเด็กนักเรียนหญิงเมืองกรุงเก่าวัย 11 ปี ให้การรับสารภาพแล้วว่าเป็นผู้ลงมือฆ่าด้วยการกดน้ำจนเสียชีวิต และได้พยายามจะข่มขืน แต่ไม่สำเร็จ เผยเหตุเพราะถูกผู้ตายจะนำเอาเรื่องที่ตนเองดมกาวไปแจ้งตำรวจ จึงจัดการปิดปาก ขณะที่ จนท.คุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดนญาติ และ ปปช.รุมประชาทัณท์เละ
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีพบศพ ด.ญ.พรอุษา จันทร์สิงห์ หรือน้องตาล อายุ 11 ขวบ นักเรียนชั้น ป.5 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา เสียชีวิตอยู่บริเวณท่าน้ำริมแม่น้ำป่าสัก หมู่ 8 ต.ท่าช้าง อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา โดยหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวนายอำพล แย้มพจน์ อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 23/4 ม.8 ต.ท่าช้าง อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา ผู้ต้องสงสัยซึ่งเป็นเพื่อนบ้านรายหนึ่งลักษณะท่าทางมีพิรุธไปทำการสอบสวน และให้การว่า อยู่กับผู้ตายเป็นคนสุดท้ายก่อนผู้ตายจะเสียชีวิต โดยเหตุเกิดเมื่อเวลา 00.30 น.ของวันนี้ (29 พ.ค.)
ต่อมา เมื่อเวลา 13.00 น. วันนี้ (29 พ.ค.) ร.ต.ท.วีรชัย การสมเพียร ร้อยเวร สภ.ท่าช้าง เจ้าของคดีเปิดเผยว่า หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวนายอำพล แย้มพจน์ อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 23/4 ม.8 ต.ท่าช้าง อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อนบ้านซึ่งตกเป็นผู้ต้องสงสัยมาสอบปากคำตลอดทั้งคืน กระทั่งล่าสุด นายอำพล ยอมรับสารภาพว่าได้จับ ด.ญ.พรอุษา กดน้ำจนเสียชีวิต เนื่องจากโกรธแค้นที่เด็กขู่ว่าจะนำเรื่องที่นายอำพล ดมกาวไปบอกผู้ใหญ่ จึงผลักน้องตาลตกลงน้ำก่อนที่จะกระโดดลงไปกดน้ำซ้ำ และข่มขืน แต่ไม่สำเร็จ จึงหนีขึ้นมา โดยผลตรวจพิสูจน์จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เบื้องต้นพบว่าผู้ตายมีร่องรอยถูกข่มขืน และถูกบีบคอ
ด้านนางอำไพร ป้าของน้องตาล เปิดเผยว่า หลานสาวมักจะเดินผ่านบ้านนายอำพล เป็นประจำ และสังเกตพบว่า นายอำพล มักจะมองหลานสาวด้วยสายตาแปลกๆ แต่ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุร้ายขึ้น ทั้งนี้ หลังพบว่าน้องตาลหายตัวไป จึงออกตามหา และพบนายอำพล มีสีหน้ากังวล ไม่ยอมพูดจาเดินวนเวียนอยู่ใกล้จุดที่พบรองเท้าเด็กตกอยู่ริมแม่น้ำ ก่อนจะพบศพน้องตาล นายอำพลก็เคยอาสาไปส่งเด็กเป็นประจำ เพราะบ้านอยู่ห่างกันแค่ 100 เมตร แต่ไม่คิดว่าจะทำร้ายได้ ส่วนน้องตาลพ่อแม่เสียชีวิตทั้งสองคนตั้งแต่ยังเด็ก ตนจึงเลี้ยงดูมาตั้งแต่เล็ก
ต่อมา เวลา 13.30 น. วันเดียวกัน พล.ต.ต.เสริมคิด สิทธิชัยกานต์ ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา ได้เดินทางไปยัง สภ.ท่าช้าง เพื่อร่วมสอบสวน และควบคุมตัวนายอำพล พร้อมเปิดเผยว่า นายอำพล ได้ให้การรับสารภาพว่า ก่อนเกิดเหตุพบผู้ตายเดินวนเวียนอยู่ใกล้กับบ้านเข้ามาขอกาวของตนเอง นายอำพล จึงบอกว่าไม่มี ผู้ตายจึงข่มขู่ว่าจะนำเรื่องไปแจ้งต่อผู้ใหญ่บ้าน และตำรวจ นายอำพล จึงเกิดความกลัวว่าจะถูกตำรวจจับกุมจึงได้ผลักเด็กตกแม่น้ำป่าสักแล้วกระโดดตามลงไปจับกดน้ำจนเสียชีวิต และเกิดอารมณ์จึงได้พยายามข่มขืนผู้ตายแต่ไม่สำเร็จ จึงทิ้งผู้ตายทิ้งไว้ภายในน้ำ
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้คุมตัวนายอำพล ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในจุดเกิดเหตุบริเวณริมแม่น้ำป่าสัก ท่ามกลางกลุ่มญาติของผู้ตาย และชาวบ้านกว่า 200 คน มามุงดูการทำแผนตะโกนสาปแช่งต่างๆ นานา โดยตลอดการทำแผนประกอบคำสารภาพ ประชาชน และญาติของผู้ตายที่มารออยู่ได้พยายามจะเข้าไปรุมประชาทัณท์ตลอดเวลา ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องทำการกันประชาชนไม่ให้เข้ามารุมประชาทัณท์ผู้ต้องหาอย่างเข้มงวด แต่ในที่สุด ช่วงจะนำตัวผู้ต้องหากลับก็ถูกประชาชน และญาติเข้ารุมประชาทัณท์จนได้เป็นเวลาหลายนาที ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะนำตัวผู้ต้องหากลับไปดำเนินคดีต่อไป
สำหรับนายอำพล เป็นลูกพี่ลูกน้องกับผู้ตาย เคยถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมในคดียาเสพติดหลายครั้ง และพ้นโทษมาได้ไม่นาน
