ชาวนาเขตแผ่นดินไหวแห่รับเงินจำนำข้าวใช้หนี้-ซ่อมบ้าน

เชียงราย - ชาวนา อ.พาน พื้นที่แผ่นดินไหวพากันรับเงินจำนำข้าวกันอย่างคึกคัก ส่วนใหญ่ชำระหนี้แล้ว ยังต้องซ่อมแซมบ้านอีกด้วย

รายงานข่าวจาก จ.เชียงรายแจ้งว่า วันนี้ (28 พ.ค.) ที่สำนักงานธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) สาขา อ.พาน นายพงษ์ศักดิ์ วังเสมอ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย พ.อ.ภานุวัตร เหนียวแน่น รอง ผบช.กกล.รส.จทบ.เชียงราย พล.ต.ต.วันชัย สุวรรณศิริเขต ผบก.ภ.จว.เชียงราย นายพิเชียน จอมพงษ์ ผู้อำนวยการ ธ.ก.ส.สาขาเชียงราย ร่วมกันมอบเงินจำนำข้าวแก่ชาวนา

โดยมีนายศักดิ์ชาย ธงไชย ผู้จัดการ ธ.ก.ส.สาขา อ.พาน นำชาวนาพร้อมใบประทวนตามโครงการเข้ารับเงินท่ามกลางความดีใจ บางส่วนนำเงินที่ได้ไปใช้หนี้เก่าและต่อยอดทำนาปีในฤดูกาลถัดไป เนื่องจากส่วนใหญ่ผ่านพ้นฤดูการทำนาปรังไปแล้ว รวมทั้งนำไปซ่อมแซมบ้านเรือนที่เกิดจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวรุนแรงตามมาตราวัดริกเตอร์ 6.3 แมกนิจูด เมื่อวันที่ 5 พ.ค.ที่ผ่านมาด้วย

นายศักดิ์ชายกล่าวว่า ที่ผ่านมา อ.พานมีชาวนาที่ยังรอเงินจากโครงการรับจำนำข้าวดังกล่าวจำนวน 767 ราย วงเงิน 46 ล้านบาท กระทั่งในครั้งนี้ได้รับการอนุมัติจาก คสช.ให้จ่ายเงินให้ชาวนา 265 ราย วงเงิน 15.6 ล้านบาท สำหรับวันนี้แบ่งจ่ายให้ชาวนาชุดแรกก่อน 192 ราย วงเงิน 11.5 ล้านบาท และวันที่ 29 พ.ค.จะจ่ายให้อีก 74 ราย วงเงิน 5.1 ล้านบาท คงเหลืออีกประมาณ 31 ล้านบาท คาดว่าจะได้รับเร็วๆ นี้

นางคำ ใจมูล ชาวบ้านสันกำแพง ม.9 ต.ดอยงาม อ.พาน กล่าวว่า ทำนาจำ 8 ไร่เศษ โดยเป็นนาเช่า ที่ผ่านมาต้องกู้หนี้ยืมสินไปทำ กระทั่งเมื่อราว 5 เดือนก่อนก็นำข้าวไปจำนำ คาดหวังจะได้รับเงินจำนวน 89,000 บาท แต่เมื่อไม่ได้จึงเดือดร้อนหนัก แต่ก็ฝืนทำนาปรังในฤดูกาลที่ผ่านมา ขายข้าวนาปรังได้เงิน 32,000 บาท ขาดทุนไปกว่า 12,000 บาท ดังนั้นเงินที่ได้ในครั้งนี้ก็จะนำไปชดใช้หนี้สินเก่า จึงขอบคุณทาง คสช.มากที่ช่วยเร่งรัดการจ่ายเงินให้

รายงานข่าวแจ้งว่า วันเดียวกัน พ.อ.ดำรงค์ คงเดช ผบ.หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 35 นายธนวัฒน์ ประกอบศรีกุล ผู้จัดการ ธ.ก.ส.สาขา อ.เวียงเชียงรุ้ง มอบเงินให้ชาวนา 165 ราย 14.1 ล้านบาท สำหรับพื้นที่นี้มีชาวนาเข้าร่วมโครงการ 3,655 ราย วงเงิน 318 ล้านบาท จ่ายเแล้ว 1,876 ราย วงเงิน 169.6 ล้านบาท

ด้านนายอุดมศักดิ์ หมายฤกษ์ดี ชาวนา อ.เวียงเชียงรุ้ง กล่าวว่า ดีใจมากที่ได้รับเงิน เพราะสำหรับชาวนาแล้วระยะเวลา 5-6 เดือนถือเป็นการรอคอยที่ยาวนาน ซึ่งต้องขอขอบคุณ คสช.ที่ได้เห็นความเดือดร้อนของประชาชนเป็นอันดับแรก