เชียงราย - ผบ.จทบ.เชียงรายเชิญหัวหน้าส่วนราชการ พร้อม ตร.ทุก สภ.เข้ารับฟังแนวปฏิบัติต่อเนื่อง เล็งเชิญกลุ่มต่อต้านเข้าค่ายทำความเข้าใจ หลังเสื้อแดงบางกลุ่มชูป้ายต้านกฎอัยการศึก บอกถ้าไม่มาจะสั่งให้มา ขณะที่แดงบางกลุ่มตีเนียนหอบดอกไม้ให้ทหาร พร้อมชูป้ายค้านนายกฯ ม.7-การเมืองสูตร 70:30
วันนี้ (21 พ.ค.) พล.ต.พัฒนา มาตร์มงคล ผู้บังคับการจังหวัดทหารบกเชียงราย เป็นประธานการประชุมกองอำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (กอ.รส.) จังหวัดทหารบกเชียงราย ที่ห้องประชุมศูนย์ฝึกนักศึกษาวิชาการ จทบ.เชียงราย โดยเชิญหัวหน้าส่วนราชการ-ตำรวจทุก สภ.เข้าร่วมประชุมเพื่อชี้แจงกรณีมีการประกาศใช้กฎอัยการศึกทั่วประเทศไทย รวมทั้งแนวทางปฏิบัติในพื้นที่
เนื้อหาการประชุมยังคงเป็นการชี้แจงทำความเข้าใจว่าการประกาศใช้กฎอัยการศึกดังกล่าวถูกต้องตามกฎหมายและอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ ดังนั้นหน่วยงานในพื้นที่ก็จะได้ร่วมมือกันเพื่อดำเนินการให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ กรณีการลาดตระเวนดูแลรักษาความปลอดภัยก็จะมีการจัดกำลังทหารและตำรวจร่วมกันดำเนินการ รวมทั้งดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยสถานที่ราชการต่างๆ เช่น ศาลากลางจังหวัด ฯลฯ
พล.ต.พัฒนากล่าวว่า เชียงรายมีกลุ่มมวลชนที่มีความคิดเห็นทางการเมืองแตกต่างกัน และก็มีเครือข่ายโยงใยไปถึงกลุ่มใหญ่ที่อยู่เบื้องหลัง สถานการณ์ก็จะมีมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งเรื่องมวลชนแนวร่วม นปช.-กปปส.
ซึ่งวันนี้ก็มีกลุ่มคนจัดกิจกรรมบริเวณห้าแยกพ่อขุนเม็งรายมหาราช โดยถือป้ายต่อต้านกฎอัยการศึก ทางเจ้าหน้าที่ก็จะเชิญตัวมาพบเพื่อทำความเข้าใจในกฎหมายนี้ แต่ถ้าไม่มาก็จะออกคำสั่งให้เข้ามาพบต่อไป
โดยมวลชนที่ออกมาเคลื่อนไหวและชูป้ายต่อต้านกฎอัยการศึกชัดเจนดังกล่าวคือ กลุ่ม นปช.เชียงราย 52
อย่างไรก็ตาม ในช่วงบ่ายวันเดียวกัน เสื้อแดงกลุ่มลูกคนเมืองรักชาติเชียงราย นำโดย น.ส.จิรนันท์ จันทวงษ์ ได้นำมวลชนไปบริเวณหน้าประตูค่ายเม็งรายมหาราช โดยแจ้งวัตถุประสงค์ว่าต้องการแสดงพลังเพื่อให้กำลังใจทหารในการประกาศกฎอัยการศึก
โดยแจ้งแถลงการณ์มีเนื้อหาว่า ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.ได้ประกาศใช้พระราชบัญญัติกฎอัยการศึกนั้น ทางกลุ่มลูกคนเมืองรักชาติขอสนับสนุน และขอสรรเสริญที่มีความตั้งใจเพื่อระงับความรุนแรงต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นจากเหตุความวุ่นวาย และเมื่อสถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติก็ขอให้คืนอำนาจแก่ประชาชนเจ้าของประเทศเพื่อปูทางไปสู่การเลือกตั้ง แต่ก็ขอคัดค้านนายกรัฐมนตรีที่มาจากมาตรา 7 รวมถึงการเมืองใหม่ระบบ 70:30 รวมถึงการนิรโทษกรรมให้กบฏทุกกรณี
ต่อมาทาง พล.ต.พัฒนา มาตร์มงคล ผู้บังคับการจังหวัดทหารบก ได้ออกมาพบปะกลุ่มคนเสื้อแดงดังกล่าว ซึ่งทาง น.ส.จิรนันท์ ได้นำอ่านแถลงการณ์และมอบดอกไม้แก่ พล.ต.พัฒนา และทหารภายในค่ายเม็งรายมหาราชก่อนจะสลายตัวกลับ
พล.ต.พัฒนากล่าวว่า กรณีมวลชนมาแสดงเจตนาดีให้ประเทศชาติมีความสงบนับเป็นสิ่งที่ดี และทาง ผบ.ทบ.ก็ได้มีการประกาศพระราชบัญญัติกฎอัยการศึก เพื่อมุ่งหวังให้ประเทศชาติไปสู่ความสงบและยับยั้งไม่ให้เหตุการณ์ที่เป็นอยู่บานปลายออกไป
ทั้งนี้ ยืนยันว่าทหารไม่ได้มีการปฏิวัติยึดอำนาจ เพราะถ้าเป็นการปฏิวัติยึดอำนาจก็จะต้องมีการยกเลิกการบังคับใช้รัฐธรรมนูญ แต่ปัจจุบันยังคงอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับเดิม และวันเดียวกันนี้ก็ได้มีการประชุมหารือกับรัฐบาล ตัวแทน นปช. พรรคประชาธิปัตย์ ฯลฯ กันอยู่เพื่อหาทางแก้ไขปัญหาของประเทศ