ชาวประมงจันทบุรี จอดเรือหลบคลื่นลมแรง ทำขาดรายได้

จันทบุรี - เรือประมง 4 อำเภอต้องจอดเทียบท่าหลบคลื่นลมแรงกว่า 1 สัปดาห์ ทำขาดรายได้ อาหารทะเลแพงเพราะขาดตลาด

วันนี้ (19 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวสำรวจตามท่าเทียบเรือใน อ.แหลมสิงห์ ท่าใหม่ ขลุง และนายายอาม จ.จันทบุรี พบว่า จากที่มีฝนตกต่อเนื่อง และมีคลื่นลมแรง ส่งผลทำให้ชาวประมงต่างนำเรือมาจอดเทียบท่าเพื่อหลบคลื่นลมกันจำนวนมาก เพราะไม่กล้าเสี่ยงนำเรือออกไปทำการประมง เนื่องจากอาจถูกคลื่นซัดเรือประมงอับปาง รวมทั้งไม่คุ้มทุน และอาจจะไม่ได้ปลากลับมา ทำให้ต้องยอมสูญเสียรายได้มากว่า 1 สัปดาห์แล้ว

นอกจากนี้ ยังส่งผลกระทบทำให้อาหารทะเลแพงขึ้นเพราะขาดตลาด เช่น ปลาลัง จากกิโลกรัมละ 50-60 บาท ขึ้นเป็น 70-80 บาท ปลาโอจาก 50 บาท ขึ้นเป็น 70 บาท ปลาสาก จาก 70 บาท ขึ้นเป็น 90 บาท หมึกเล็ก จาก 80 บาท ขึ้นเป็น 120 บาท และหมึกใหญ่ จาก 140 บาท ขึ้นเป็น 170-180 บาท

ด้านอุตุนิยมวิทยาจังหวัดจันทบุรี เปิดเผยถึงสภาพอากาศในภาคตะวันออกว่า ช่วงวันที่ 18-19 พ.ค. ประเทศไทยตอนบนยังคงมีอากาศร้อนโดยทั่วไป ในขณะที่ลมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน และด้านตะวันตกของประเทศไทย ทำให้ภาคเหนือ ภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้น และมีฝนหนักบางแห่งบริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันตก

ส่วนลมตะวันออกเฉียงใต้ พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้เข้ามาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้บริเวณดังกล่าวจะมีฝนเพิ่มขึ้นในระยะนี้ หลังจากนั้น ในช่วงวันที่ 20-24 พ.ค. ลมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางจะพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ทำให้บริเวณประเทศไทยเริ่มมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง และอากาศจะคลายความร้อนลง

สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันจะมีกำลังปานกลาง โดยบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองจะมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร เกือบตลอดช่วง สรุปการคาดหมายในช่วงวันที่ 18-23 พ.ค. บริเวณประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มมากขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันตก

ในส่วนนี้อุตุนิยมวิทยาจังหวัดจันทบุรี ฝากเตือนเรือประมงขนาดเล็ก และขนาดใหญ่ ควรงดการออกเดินเรือในระยะนี้ เพราะคลื่นลมในทะเลสูงถึง 2 เมตร