ลำปาง - ตามรอย “หมูเจ้าพ่อ” พิสูจน์ความเชื่อความศรัทธาของชาวบ้านริมเส้นทางเถิน-ทุ่งเสลี่ยม ที่มีต่อ “ศาลเจ้าพ่อผีปันน้ำ” หลังก่อปาฏิหาริย์หลายครั้ง จนไม่มีใครกล้าจับไปกิน และเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็ว
วันนี้ (17 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คนที่เคยขับรถผ่านเส้นทางสาย อ.เถิน จ.ลำปาง - อ.ทุ่งเสลี่ยม จ.สุโขทัย ซึ่งต้องผ่านบ้าน ม.3 บ้านกุ่มเนิ้ง ต.แม่มอก อ.เถิน ที่เป็นทางขึ้นเขาคดเคี้ยวหลายโค้ง จะพบว่า ริมเส้นทางก่อนขึ้นเขา ที่มี “ศาลเจ้าพ่อผีปันน้ำ” ตั้งอยู่ จะมีป้ายเขียนบอกให้ใช้ความระมัดระวัง และให้ใช้ความเร็วลดลง ว่า “ระวัง หมูเจ้าพ่อ”
เมื่อเข้าไปตรวจสอบที่บริเวณศาลเจ้าพ่อผีปันน้ำ ก็จะพบว่า มีไก่ และหมูป่าสีดำ หรือที่ชาวบ้านเรียกหมูดอย อยู่จำนวนมาก คอยกินผัก ผลไม้ที่คนนำมาวางทิ้งไว้ ซึ่งหมูดอยเหล่านี้ ไม่กลัวคน พอเห็นคนเข้ามาก็จะวิ่งเข้ามาหาด้วยความคุ้นเคย
จากการสอบถามผู้เฒ่าผู้แก่ถึงที่มาของ “หมูเจ้าพ่อ” ทราบว่า เมื่อประมาณ 200 ปีก่อน ได้มีแม่ทัพทหารชื่อขุนเหล็ก นำกองทัพเดินทางจากจังหวัดเชียงใหม่ มุ่งหน้าจะไปจังหวัดสุโขทัย แต่ระหว่างทาง น้ำที่นำมาด้วยหมด ขณะที่ทุกคนก็รู้สึกหิวน้ำ และตลอดทางก็ไม่มีแหล่งน้ำให้กินเลย จึงได้พากันนั่งพักที่ดอยปั๋นน้ำ (จุดที่ตั้งของศาลเจ้าพ่อผีปันน้ำปัจจุบัน) ซึ่งเป็นดอยกั้นระหว่างตำบลแม่ปะ กับตำบลแม่มอก อ.เถิน จ.ลำปาง (คำว่า ปั๋น แปลว่า แบ่งปัน)
เมื่อกองทัพมาหยุดพักดอยแห่งนี้ แม่ทัพขุนเหล็ก จึงได้ใช้ดาบเชือดแขนตัวเอง ใช้เลือดมาดื่มแทนน้ำ เพื่อจะได้นำทหารเดินทัพต่อไป แต่ทว่าเลือดที่ไหลออกมามากจนเกินไป จนในที่สุดแม่ทัพขุนเหล็ก ก็ต้องเสียชีวิตลง ณ ที่แห่งนี้
หลังจากนั้นไม่นานก็พบว่า บริเวณดอยแห่งนี้จะมีน้ำไหลลงมาจนกลายเป็นลำห้วย หล่อเลี้ยงชาวบ้านในพื้นที่แถบนี้มาจนถึงปัจจุบัน
ผู้เฒ่าผู้แก่ ยังได้เล่าอีกว่า ที่ผ่านมาผู้ที่เดินทางผ่านบริเวณดังกล่าวมักจะเห็นปาฏิหาริย์หลายอย่าง จึงได้นำสิ่งของ ธูปเทียน ดอกไม้ และข้าวปลาอาหารมาถวาย กราบไหว้-สักการะ ซึ่งของที่นำมาถวายก็รวมถึง ไก่มีชีวิต และหมูดอยมีชีวิต หลังจากนั้นหมูดอยก็ออกลูกออกหลานเพิ่มขึ้น
“แรกๆ มีคนมาเอาหมู เอาไก่ ที่มีคนนำมาถวายกลับไปบ้าน เพื่อทำเป็นอาหาร แต่ก็ประสบอุบัติเหตุจนเสียชีวิตหลายครั้ง จากนั้นจึงไม่มีใครกล้ามาจับไก่ จับหมูเหล่านนี้ไปกินอีก เนื่องจากเชื่อว่าเป็นหมูของเจ้าพ่อ หากใครมาลัก หรือนำไปกิน ก็จะมีอันเป็นไปทุกราย”
อย่างไรก็ตาม บางคนก็เล่าว่า หมูที่อยู่บริเวณศาลเจ้าพ่อผีปันน้ำ มาจากหมูป่าที่มากินอาหารที่คนผ่านทางนำมาเซ่นไหว้ ช่วงแรกก็ยังกลัวคน แต่หลังจากมีคนมานำไปกินแล้วก็เกิดอาเพศขึ้น จึงทำให้ไม่มีใครกล้ามาเอาหมูแห่งนี้ไปฆ่ากิน ทำให้หมูป่าแพร่พันธุ์เพิ่มมากขึ้นจนถึงปัจจุบัน
ขณะเดียวกัน ในช่วงที่ผ่านมามักมีประชาชนมาบนบานศาลกล่าว เพื่อขอโชคลาภ ขอพรรวมถึงบนบานศาลกล่าวในเรื่องต่างๆ มากมาย และชาวบ้านบางคนยังเล่าด้วยว่า ศาลเจ้าพ่อผีปันน้ำ เคยแสดงปาฏิหาริย์ให้เห็นหลายครั้ง ล่าสุดทางหน่วยราชการ ผู้นำชุมชน ตำรวจ ได้จับกุม และตั้งข้อหาชาวบ้าน รวมถึงแกนนำชาวบ้านกลุ่มอนุรักษ์ที่ออกมาเปิดโปงขบวนการตัดไม้ทำลายป่า ซึ่งชาวบ้านเห็นว่าถูกหน่วยงานรัฐกลั่นแกล้ง และไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงได้ไปบนบานศาลกล่าวขอให้เจ้าพ่อผีปันน้ำ ช่วยเหลือชาวบ้านผู้บริสุทธิ์
ปรากฏว่า หลังจากนั้นไม่นาน ผู้นำชุมชน และผู้ที่เกี่ยวข้องกับการจับกุมชาวบ้าน ได้เสียชีวิตไปหลายคน ทั้งจากอุบัติเหตุ และโรคที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน ส่วนชาวบ้านทุกคนที่ถูกตั้งข้อหา ก็หลุดคดีทั้งหมด จึงทำให้ชาวบ้านเลื่อมใสศรัทธามากยิ่งขึ้น
เมื่อสิ่งที่ไปบนบานศาลกล่าวสำเร็จ ชาวบ้านก็จะนำอาหารนำไก่ นำหมูมาถวายให้เจ้าพ่อตลอด ทำให้ปัจจุบันมีไก่ ประมาณ 50 ตัว หมูดอยจำนวนประมาณ 40 ตัว ที่อยู่ในบริเวณศาล ซึ่งชาวบ้านก็จะแวะเวียนนำผัก ผลไม้มาวางไว้ให้กิน
โดย “หมูดอย” เหล่านี้ จะคุ้นเคยกันคนมากเมื่อเห็นคนเข้าไปก็จะรับวิ่งมาหาไม่กลัวเหมือนกับหมูดอยทั่วๆ ไป และบางครั้งก็จะวิ่งลงไปยังถนน ทำให้ชาวบ้านต้องเขียนป้ายติดไว้บนไหล่ทางเป็นระยะ ก่อนถึงศาลประมาณ 1 กิโลเมตร เพื่อเตือนให้ผู้ขับขี่ระวัง เนื่องจากเกรงจะเกิดอันตราย หากหมูวิ่งลงมาอาจจะถูกรถชนได้