เชียงราย - “นิวัฒน์ธำรง” บินลงพื้นที่ภัยพิบัติแผ่นดินไหววันนี้ ขณะที่ครู-นร.-ภารโรง หลายโรงเรียนต้องลงแรงทำห้องเรียนชั่วคราวใช้ในการเรียนการสอนในช่วงเปิดเทอมใหม่แทน หลังโรงเรียนทั่วเชียงรายแตกร้าว-เสียหายกว่า 35 โรง
วันนี้ (16 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ครู-นักเรียน-นักการภารโรง หลายโรงเรียนในเขตภัยพิบัติแผ่นดินไหวของ จ.เชียงราย ที่เริ่มเปิดภาคเรียนกันแล้ว ต้องลงแรงก่อสร้างอาคารเรียนชั่วคราวกันถ้วนหน้า เพราะเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่เมื่อวันที่ 5 พ.ค.ที่ผ่านมาได้ทำให้โรงเรียนในเชียงรายเสียหายกว่า 35 โรง
โดยที่โรงเรียนธารทองวิทยา ต.ธารทอง อ.พาน บรรดาครู อาจารย์ นักเรียน นักการภารโรง ต่างช่วยกันจัดทำห้องเรียนชั่วคราวใต้อาคารเรียนหลังเก่า เพื่อจะได้ทำการเรียนการสอนได้ตามกำหนด เนื่องจากอาคารเรียนเดิมที่มีขนาด 2 ชั้น 8 ห้อง เสียหายแตกร้าวจนต้องกั้นพื้นที่เอาไว้เพื่อความปลอดภัย
นายกวางจักร จันต๊ะคาด ผู้อำนวยการโรงเรียนธารทอง กล่าวว่า หลังเกิดแผ่นดินไหวจนทำให้อาคารเรียนเสียหาย เบื้องต้นทางสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเขต 3 ได้ส่งวิศวกรเข้ามาสำรวจ พบว่าโครงสร้างแตกร้าวหนักจนเกรงว่าจะเป็นอันตรายต่อนักเรียน จึงสั่งงดใช้อาคารอย่างไม่มีกำหนด
ดังนั้น ทางโรงเรียนจึงได้ย้ายนักเรียนจำนวน 221 คน ตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาล-มัธยมศึกษาปีที่ 3 ไปเรียนในสถานที่เรียนชั่วคราว แต่ปัญหาที่พบคือสภาพอากาศที่ร้อนเพราะไม่มีพัดลม และเกิดเสียงดังจากภายนอกเนื่องจากไม่มีฝากั้น
ด้านนายเอกชัย ภาพชัย ผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษาเขต 3 ซึ่งดูแลพื้นที่ อ.พาน อ.แม่ลาว อ.แม่สรวย อ.เวียงป่าเป้า และ อ.ป่าแดด ที่ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ประสบภัยแผ่นดินไหว กล่าวว่า จากการตรวจสอบโรงเรียนทั้ง 184 โรง พบว่ามีโรงเรียนในสังกัดที่เสียหายอยู่กว่า 30 แห่ง แม้สามารถเปิดทำการเรียนการสอนได้ทั้งหมด แต่หลายโรงเรียนต้องมีการจัดหาห้องเรียนชั่วคราวไปก่อน ส่วนการแก้ปัญหาระยะยาวก็จะแจ้งไปยังกระทรวงศึกษาธิการต่อไป
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า วันเดียวกันนี้ นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรีรักษาการในตำแหน่งรักษาการนายกรัฐมนตรี มีกำหนดเดินทางลงตรวจพื้นที่ประสบภัยแผ่นดินไหวใน จ.เชียงราย โดยมีการแจ้งกำหนดการเบื้องต้นว่าจะเข้ารับฟังสรุปความเสียหายเหตุแผ่นดินไหวที่ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย
จากนั้นจะเดินทางรับทราบสถานการณ์ที่สำนักงานเทศบาลป่าก่อดำ อ.แม่ลาว และไปดูถนนสายเชียงราย-เชียงใหม่ พื้นที่บ้านห้วยส้านยาว ม.13 ต.ดงมะดะ อ.แม่ลาว ที่เสียหายหนัก และศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยในหมู่บ้านเดียวกัน ก่อนจะเดินทางไปตรวจเยี่ยมวัดอุดมวารี ต.ทรายขาว อ.พาน รวมทั้งโรงเรียนพานพิทยาคม อ.พาน และวัดร่องขุ่น ต.ป่าอ้อดอนชัย ที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักเช่นกัน ก่อนเดินทางกลับกรุงเทพฯ ในช่วงเย็น