หนองคาย-จับสองสาวชาวลาวซุกยาบ้า จำนวน 382,000 เม็ด และยาไอซ์ 1 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 120 ล้านบาท ไว้ในช่องท้ายรถที่มีการติดตั้งเครื่องเสียงปิดไว้ สารภาพอ้างคนว่าจ้างหลอกว่าเป็นเหล้า ได้ค่าจ้าง 10,000 บาท
วันนี้ (13 พ.ค.) ที่ด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-ลาว อ.เมือง จ.หนองคาย นายราฆพ ศรีศุภอรรถ อธิบดีกรมศุลกากร นายวรวุฒิ วิบูลย์ศิริชัย ผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรที่ 2 นายอัสนี เรืองบุญ นายด่านศุลกากรหนองคาย พล.ต.ต.ชูรัตน์ ปานเหง้า ผบก.สส.ภาค 4 พ.ต.อ.เกษม มุทาพร ผกก.สส.2.บก.สส.ภาค 4 พล.ต.ต.ชาติชาย เอี่ยมแสง ผบก.ตม.4 และ พ.ต.อ.พัลลภ สุริยกุล ณ อยุธยา ผกก.ตม.หนองคาย
พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสนธิกำลังสกัดกั้นยาเสพติดจังหวัดหนองคาย ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุม นางทมมา ไม่มีนามสกุล อายุ 30 ปี และนางทิพพาพอน ชาวดาลา อายุ 20 ปี ทั้งสองเป็นชาวลาวที่ลักลอบซุกซ่อนยาบ้า จำนวน 382,000 เม็ด และยาไอซ์ จำนวน 1 กิโลกรัม ไว้ในช่องท้ายรถยนต์
การจับกุมครั้งนี้มีขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 07.00 น. ขณะที่เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานภายในด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1 ตามปกติ ได้มีรถยนต์ยี่ห้อเกีย หมายเลขทะเบียน กจ 6066 กำแพงนคร ได้วิ่งจากฝั่ง สปป.ลาว เข้ามาภายในด่านฯ เพื่อผ่านพิธีทางศุลกากร และทางตรวจคนเข้าเมือง ผู้ต้องหามีท่าทางพิรุธ เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจรถอย่างละเอียด พบว่ารถคันดังกล่าวมีการติดตั้งเครื่องเสียงปิดช่องเก็บของท้ายรถ ไม่สามารถเปิดจากด้านท้ายรถได้
เจ้าหน้าที่จึงได้เปิดจากด้านในโดยการพับเบาะ และรื้อไม้ที่ปิดกั้นไว้ถึง 2 ชั้นออก จนพบยาบ้าที่ซุกซ่อนอยู่บริเวณช่องเก็บของท้ายรถ จำนวน 30 ห่อใหญ่ 11 ห่อเล็ก รวมยาบ้าทั้งหมด 382,000 เม็ด และยาไอซ์ อีก 1 ห่อ น้ำหนัก 1 กิโลกรัม จึงได้ทำการจับกุมตัวไว้
จากการสอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหาทั้ง 2 คนให้การว่า ได้รับจ้างขนยาบ้าดังกล่าวจากนายต้า ไม่ทราบนามสกุล ชาวลาวที่รู้จักกันเป็นเงิน 10,000 บาท โดยบอกว่าให้นำกระเป๋าที่อยู่ช่องเก็บของท้ายรถข้ามมายังฝั่งไทย เมื่อข้ามมาแล้วจะโทรศัพท์มานัดหมายสถานที่ส่งมอบของอีกครั้ง และบอกเพียงว่า ของที่อยู่ในกระเป๋าเป็นสุราต่างประเทศ ตนไม่รู้ว่าเป็นยาบ้า และยาไอซ์ ค่าจ้างขนก็ยังไม่ได้รับ
นายราฆพ ศรีศุภอรรถ อธิบดีกรมศุลกากร เปิดเผยว่า ในรอบปีงบประมาณ 2557 ด่านศุลกากรหนองคาย มีผลการจับกุมยาเสพติด จำนวน 20 คดี เป็นยาบ้าถึง 426,132 เม็ด ยาไอซ์ 9.35 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 160 ล้านบาท
