xs
xsm
sm
md
lg

บุรีรัมย์ยังแล้ง เกษตรกรปลูกพืชใช้น้ำน้อยหารายได้เป็นทุนทำนา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


บุรีรัมย์ - จ.บุรีรัมย์ยังประสบปัญหาภัยแล้ง เกษตรกรหลายหมู่บ้านต้องปลูกพืชอายุสั้นและใช้น้ำน้อยเพื่อรอฝน ทั้งหารายได้เป็นทุนซื้อปัจจัยการผลิตในการทำนาฤดูกาลนี้ เนื่องจากหลายรายยังไม่ได้รับเงินจากโครงการจำนำข้าว ขณะหลายรายต้องเสี่ยงไถหว่านข้าวรอฝนที่จะตกลงมา

วันนี้ (7 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จังหวัดบุรีรัมย์ยังประสบปัญหาภัยแล้งต่อเนื่อง หลายพื้นที่ยังไม่มีฝนตก ทำให้แหล่งน้ำลำคลองต่างๆ มีสภาพตื้นเขินแห้งขอด จากกรณีดังกล่าวเกษตรกรหลายหมู่บ้านในเขตอำเภอเมืองบุรีรัมย์จึงยังไม่ไถหว่านข้าวเพราะเกรงได้รับความเสียหาย แต่ได้หันมาปลูกพืชอายุสั้นที่ใช้น้ำน้อย เช่น แตงไทย แตงโม แตงกวา หรือพืชอายุสั้นชนิดอื่นที่สามารถเก็บผลผลิตได้ภายใน 1-2 เดือนแทน เพื่อรอให้ฝนตกลงมาเพียงพอที่จะทำการเพาะปลูกข้าวซึ่งเป็นพืชที่ต้องการน้ำมาก

อีกทั้งเพื่อเป็นการเก็บผลผลิตขายหารายได้ไว้เป็นค่าจ้างรถไถและซื้อปัจจัยการผลิต สำหรับทำนาในฤดูกาลนี้ เนื่องจากเกษตรกรหลายรายไม่มีทุนในการทำนาเพราะยังไม่ได้รับเงินในโครงการรับจำนำข้าวปีที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม ยังมีเกษตรกรหลายรายที่ยอมเสี่ยงไถหว่านข้าวเพื่อรอฝนที่คาดว่าจะตกลงมาในช่วงนี้ ซึ่งจากข้อมูลพบว่าในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ส่วนใหญ่จะทำนาหว่านมากกว่านาดำ เพราะส่วนใหญ่เป็นนาดอนไม่มีน้ำเพียงพอในการทำนาดำ

นางรุ่งอรุณ ศรีสุวรรณ อายุ 43 ปี เกษตรกรบ้านหนองไผ่น้อย ต.ชุมเห็ด อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ กล่าวว่า จากภาวะฝนที่ตกล่าช้าจึงได้ตัดสินใจปรับพื้นที่นาหันมาปลูกแตงไทยซึ่งเป็นพืชอายุสั้นและใช้น้ำน้อยเพื่อรอให้ฝนตกลงมาเพียงพอจึงจะทำการเพาะปลูกข้าว

อีกทั้งต้องการหารายได้เป็นทุนสำหรับซื้อปัจจัยการผลิตในการลงทุนทำนา เนื่องจากเพิ่งได้รับเงินจำนำข้าวเมื่อเดือนเมษายน 2557 ที่ผ่านมา แต่ต้องนำไปชำระหนี้สิน ธ.ก.ส. และหนี้นอกระบบที่กู้ยืมมาใช้จ่ายในครอบครัวช่วงที่รัฐบาลจ่ายเงินจำนำข้าวล่าช้า ทั้งได้ประสบปัญหาภัยแล้งต่อเนื่องมาหลายปี ทำให้ได้ผลผลิตไม่เต็มที่เท่าที่ควรบางปีต้องขาดทุน จึงได้เรียกร้องให้รัฐบาลแก้ปัญหาการจ่ายเงินจำนำข้าวให้เร็วกว่านี้ และให้ราคาข้าวอยู่ที่กิโลกรัมละ 20 บาท เพื่อช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนแก่ชาวนาด้วย



กำลังโหลดความคิดเห็น