เชียงราย - จังหวัดเชียงรายประกาศให้พื้นที่ 7 อำเภอเป็นเขตภัยพิบัติแผ่นดินไหวแล้ว ย้ำอย่าเชื่อข่าวลือ ยันอ่างเก็บน้ำ-เขื่อนแม่สรวยยังแข็งแรง ด้านชาวบ้านยังผวาไม่กล้ากลับเข้าบ้าน เผยระหว่างเกิดเหตุพบน้ำร้อน-กลิ่นกำมะถันพวยพุ่ง แต่พอหยุดบ่อน้ำตื้นแห้งเหือด “ชัชชาติ” รับห่วงอาคารสร้างก่อนปี 49 ไร้กฎหมายควบคุม
วันนี้ (6 พ.ค.) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รมว.กระทรวงคมนาคม, นายพงษ์ศักดิ์ วังเสมอ ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย ได้เรียกประชุมกองอำนวยการแก้ไขปัญหาแผ่นดินไหวขึ้น ที่ห้องประชุมจอมกิตติ ศาลากลาง จ.เชียงราย โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกหน่วยเข้าร่วม
ที่ประชุมได้สรุปสถานการณ์ว่า หลังเกิดแผ่นดินไหวตามมาตราวัดริกเตอร์ได้ 6.3 ริกเตอร์ เมื่อเย็นวันที่ 5 พ.ค.ที่ผ่านมา จังหวัดฯ ได้ประกาศให้พื้นที่ 7 อำเภอ คือ อ.เมือง อ.พาน อ.แม่ลาว อ.ป่าแดด และบางส่วนของ อ.แม่สรวย อ.พญาเม็งราย และ อ.เวียงชัย ให้เป็นพื้นที่ที่ประสบภัยพิบัติจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว เพื่อจะจัดสรรงบประมาณ และกำลังพลเข้าให้การช่วยเหลืออย่างเต็มที่
นายชัชชาติกล่าวว่า ช่วงคืนที่ผ่านมาตนได้เข้าไปสำรวจความเสียหายของถนนสายเชียงราย-เชียงใหม่ บริเวณบ้านห้วยส้านยาว ม.13 ต.ดงมะดะ พบว่าจำเป็นต้องมีการปิดเส้นทางในระยะเวลาอันใกล้นี้เพื่อจะได้ทำทางเบี่ยงให้ประชาชนสัญจรได้ จากนั้นจึงทำการก่อสร้างใหม่ และแจ้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสำรวจถนนสายรองและสะพานต่างๆ ให้ละเอียดด้วย เพราะบางจุดอาจไม่เห็นผลทันที แต่อาจมีรอยร้าวได้เช่นกัน
“สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือ อาคารที่สร้างก่อนปี 2549 ซึ่งยังไม่มีกฎหมายควบคุมอาคาร”
ด้านนายพงษ์ศักดิ์กล่าวว่า ได้แจ้งให้ทุกพื้นที่ลงไปสรุปความเสียหายให้ละเอียดถึงระดับหมู่บ้านและตำบลให้ถี่ถ้วนแล้ว ซึ่งเหตุดังกล่าวทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวน 1 ราย ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยจำนวน 23 คน
นอกจากนี้ยังเกิดข่าวลือทางสื่อสาธารณะ หรือโซเชียลมีเดียอย่างครึกโครม ทั้งการแจ้งการเสียชีวิต สถานที่ประสบภัย ฯลฯ ดังนั้น กองอำนวยการฯ จะสรุปข้อมูลโดยรวบรวมตามความเป็นจริง จึงขอให้ทุกฝ่ายรับทราบข้อมูลจากจังหวัดให้ตรงกันเพื่อไม่ให้เกิดการตื่นตระหนก
สำหรับการช่วยเหลือหลังการสำรวจก็จะมีทั้งการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า การจ่ายค่าชดเชยแก่ผู้เสียหายโดยเฉพาะบ้านเสียหายทั้งหลัง มีจำนวน 4 หลังคาเรือนในเขต อ.แม่ลาว จะได้รับค่าชดเชยหลังคาละ 33,000 บาท ที่เหลือก็ลดหลั่นกันลงไปแล้วแต่ความเสียหาย ส่วนผู้เสียชีวิต ถ้าเป็นหัวหน้าครอบครัวรายละ 50,000 บาท สมาชิกในครอบครัวรายละ 25,000 บาท เป็นต้น
นายพีรัตน์ เรืองสุกใส ผู้อำนวยการสถานีอุตุนิยมวิทยา จ.เชียงราย กล่าวว่า หลังแผ่นดินไหว 6.3 ริกเตอร์ ได้เกิดอาฟเตอร์ช็อกตามมา โดยมีความแรงช่วงแรกตั้งแต่ 2-4 ริกเตอร์ติดต่อกันหลายครั้ง จากนั้นเวลา 04.00 น. มีความแรง 5.1 ริกเตอร์ ศูนย์กลางที่ อ.พาน เวลา 06.04 น. มีความแรง 5.2 ริกเตอร์ มีศูนย์กลางที่ อ.แม่สรวย เวลา 07.50 น. มีความแรง 5.6 ริกเตอร์ ศูนย์กลางที่ อ.พาน และเวลา 07.58 น. สั่นสะเทือนแรง 5.6 ริกเตอร์ ศูนย์กลางที่ อ.แม่สรวย ซึ่งตามปกติแผ่นดินจะเริ่มเข้าที่ใน 1-2 วัน และหยุดโดยปริยายไม่เกิน 3 วัน
ขณะที่นายประสพ ศรีสายเชื้อ ผอ.โครงการชลประทานเชียงราย กล่าวว่า เชียงรายมีอ่างเก็บน้ำจำนวน 102 แห่ง เป็นขนาดกลาง 4 แห่ง และเล็ก 102 แห่ง สำหรับเขื่อนแม่สรวย ต.แม่สรวย อ.แม่สรวย ซึ่งกั้นแม่น้ำสรวยนั้น หลังเกิดแผ่นดินไหวได้มีการสำรวจแล้วพบว่า มีความมั่นคงแข็งแรง โดยยังมีความจุได้จำนวน 73 ล้านลูกบาศก์เมตร ปัจจุบันมีน้ำอยู่ 42 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 57% แต่เพื่อความมั่นใจวิศวกรใหญ่จากกรมชลประทานจะเข้าตรวจสอบอีกครั้ง
ที่ประชุมยังได้สรุปความเสียหายของสถานพยาบาลในพื้นที่อีกว่า มีสถานพยาบาลได้รับผลกระทบอย่างน้อย 3 แห่ง คือ โรงพยาบาลแม่ลาว ซึ่งเสียหายเล็กน้อย, โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ อาคาร 68 ปีอนุสรณ์เกิดรอยร้าว และต้องย้ายผู้ป่วยไปยังอาคารผู้ป่วยนอก, โรงพยาบาลแม่สรวย ส่วนโรงงานอุตสาหกรรม มีโรงอบผลไม้ที่ อ.พาน เสียหาย 1 แห่ง โรงโคนม อ.พาน 1 แห่ง โรงปุ๋ยที่ อ.แม่สรวย 1 แห่ง และโรงแปรรูปผลผลิตการเกษตรที่ อ.แม่สรวย 1 โรง
ทั้งนี้ ตลอดทั้งวันที่ผ่านมาประชาชนต่างออกมาซ่อมแซม และเก็บข้าวของต่างๆ โดยมีเจ้าหน้าที่ทั้งฝ่ายพลเรือน ตำรวจ และทหารเข้าช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง
โดยเฉพาะบ้านเลขที่ 7 บ้านท่ามะโอ ม.8 ต.จอมหมอกแก้ว อ.แม่ลาว ของนายอุดม สันดอนทอง อายุ 56 ปี ซึ่งเป็นบ้านไม้ราคาแพง เสาสูงถึง 2.5 เมตร ถูกรอยแยกผ่านเข้ากลางตัวบ้านจนทรุดติดดินเสียหายทั้งหลัง โชคดีช่วงเกิดเหตุนายอุดมวิ่งไปอุ้มสุนัขนอกบ้าน และคนในครอบครัวออกไปเที่ยวนอกบ้าน ทำให้ไม่มีใครได้รับอันตราย
ส่วนที่บ้านเลขที่ 120 บ้านห้วยหวาย ม.2 ต.จอมหมอกแก้ว พบมีรูน้ำพุรั่วผ่านชั้นดินตรงจุดที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน โดยชาวบ้านระบุว่าระหว่างเกิดแผ่นดินไหวมีน้ำร้อน และกลิ่นกำมะถันได้พวยพุ่งขึ้นมาจากพื้นดินโดยที่ไม่มีใครรู้มาก่อนว่าบริเวณนี้มีน้ำพุร้อนอยู่ หลังแผ่นดินไหวน้ำได้หยุดพุ่ง แต่บ่อน้ำตื้นทั่วบริเวณกลับเหือดแห้งไปหมด ทำให้ชาวบ้านไม่มีน้ำเพื่ออุปโภคบริโภคเลย
เช่นเดียวกับที่บ้านห้วยหวาน ต.ดงมะดะ อ.แม่ลาว ชาวบ้านกว่า 200 หลังคาเรือนไม่มีน้ำเพื่ออุปโภคบริโภค ฯลฯ และไม่กล้ากลับไปนอนในตัวบ้านเพราะเสียหายหนัก จนต้องไปกางเต็นท์นอนข้างถนนกันหลายราย
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า สำหรับผู้ประสบภัยเสียชีวิตคือ นางแสง รินคำ อายุ 83 ปี อยู่บ้านเลขที่ 136 บ้านหนองลึก ม.8 ต.โป่งแพร่ อ.แม่ลาว ที่ถูกฝาบ้านทับเสียชีวิตนั้น นายสุทัศน์ นันตรัตน์ อายุ 47 ปี และนางพิศวาส นันตรัตน์ ลูกสาว พร้อมญาติๆ ได้นำศพไปทำพิธีบำเพ็ญกุศลที่บ้านเลขที่ 36 ซึ่งเป็นพี่สาวของนายสุทัศน์ เพราะจุดเกิดเหตุได้รับความเสียหายจนไม่สามารถจัดพิธีศพได้ และยังมีอาฟเตอร์ช็อกเกิดขึ้นอยู่ โดยมีกำหนดจัดพิธีฌาปนกิจศพในวันที่ 8 พ.ค.นี้
วันเดียวกัน มีผู้บริหารจากหลายหน่วยงานทั้ง รมว.มหาดไทย, รมว.ศึกษาธิการ, แม่ทัพภาคที่ 3 พร้อมหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 35 ฯลฯ ลงพื้นที่เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ประสบเหตุตามจุดต่างๆ