ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - เจ้าอาวาสวัดพระธาตุดอยสุเทพยืนยันองค์พระธาตุไม่ได้รับความเสียหายจากแผ่นดินไหว 6.3 ริกเตอร์วานนี้ (5 พ.ค.) แม้ช่วงเกิดเหตุยอดฉัตรจะมีการสะบัดไปมา ชี้เพราะผ่านการบูรณะเสริมโครงสร้างความแข็งแรงแล้ว
จากกรณีที่ช่วงเย็นวานนี้ (5 พ.ค.) ที่เกิดเหตุแผ่นดินไหวขนาด 6.3 ริกเตอร์ ศูนย์กลางอยู่ที่อำเภอพาน จังหวัดเชียงราย และจังหวัดเชียงใหม่ รับรู้ได้ถึงแรงสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง รวมทั้งปรากฏว่ามีผู้โพสต์ภาพยอดฉัตรขององค์พระธาตุดอยสุเทพ จังหวัดเชียงใหม่ ได้รับความเสียหายด้วยนั้น
วันนี้ (6 พ.ค.) พระเทพวรสิทธาจารย์ เจ้าอาวาสวัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร จังหวัดเชียงใหม่ ได้นำสำรวจความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นหลังจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว และยังมีอาฟเตอร์ช็อกตามมาอีกหลายครั้งรวมทั้งเช้านี้
โดยเจ้าอาวาสเล่าว่า ขณะเกิดเหตุการณ์เมื่อวานนี้ คณะสงฆ์ และเกจิอาจารย์ดังจากวัดปากน้ำ วัดพระธาตุศรีจอมทอง และพระเถระชั้นผู้ใหญ่ของภาคเหนือกำลังอยู่ในช่วงสวดเจริญพระพุทธมนต์ถวายแด่ในหลวงเนื่องในวันฉัตรมงคล
โดยหลังสวดเสร็จก็เกิดเหตุแผ่นดินไหวทันที พระ เณร และประชาชนที่ทำพิธีอยู่บริเวณลานรอบองค์พระธาตุถึงกับแตกตื่นเนื่องจากแผ่นดินไหวมีความรุนแรงมาก ทำให้พื้นสั่นมีลักษณะเหมือนกับเป็นคลื่นแรง
ขณะที่องค์พระธาตุ และฉัตรทั้ง 4 ด้านสั่นไหวรุนแรงเหมือนกับมีคนโยกเขย่ารุนแรง โดยยอดฉัตรขององค์พระธาตุซึ่งมีลูกแก้วพระราชทานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวสั่นไหวและสะบัดไปมาอย่างรุนแรง
อย่างไรก็ตาม ภาพที่มีประชาชนถ่ายไว้แล้วนำไปโพสต์นั้นน่าจะเป็นช่วงที่ยอดฉัตรกำลังสะบัดงอ แต่หลังจากเหตุการณ์สงบก็กลับมาอยู่ในลักษณะเดิม โดยลูกแก้วพระราชทานยังอยู่ปกติ และจากการสำรวจเช้านี้พบว่ายังไม่มีความเสียหายกับองค์พระธาตุ ยอดฉัตร หรือบริเวณฐานโดยรอบ จะมีแต่เพียงกระเบื้องมุงหลังคาที่อยู่ในช่วงซ่อมแซมตกลงมาไม่กี่แผ่นเท่านั้น
สำหรับองค์พระธาตุได้รับการบูรณะจากกรมศิลปากร ทั้งในส่วนของการเสริมแกนกลางองค์พระธาตุ ไปจนถึงการบูรณะทองจังโกศโดยรอบ รวมทั้งยอดฉัตรที่ได้รับพระราชทานลูกแก้วดวงใหม่มาประดิษฐานก็มีการยึดด้วยลวดสลิงทั้ง 4 ด้านอย่างแข็งแรง ทั้งนี้ ก่อนหน้าที่จะมีการบูรณะเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหว 2 ครั้ง
โดยแผ่นดินไหวครั้งแรกเมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2532 ทำให้ยอดฉัตรหัก แต่ไม่ตกลงพื้น และครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2538 แผ่นดินไหวทำให้ลูกแก้วบนยอดฉัตรเจดีย์วัดพระธาตุดอยสุเทพตกลงมาจึงต้องทำการบูรณะอีกครั้ง แต่ทั้ง 2 ครั้งไม่ได้มีแรงสั่นสะเทือนเท่าครั้งล่าสุดเมื่อวานนี้ที่มีขนาดถึง 6.3 ริกเตอร์ แต่ด้วยการบูรณะที่เสริมตั้งแต่ฐานถึงยอดฉัตรทำให้รับแรงสั่นสะเทือนได้เป็นอย่างดี