ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - คืบหน้าคดีลูกหนี้แสบรวมหัวสามีวางระเบิดรถอดีตนายทหารในบ้านกลางเมืองโคราช หวังฆ่าล้างหนี้ 3 ล้าน แต่พลาดบึ้มตัวเองสาหัส ล่าสุด ตำรวจแจ้ง 3 ข้อหาหนัก หลังสอบสวนพบมีการวางแผนฆ่าเจ้าหนี้ โดยหวังนัดหมายไปรับเงินต่างจังหวัด แต่เปลี่ยนมาเป็นวางระเบิดรถยนต์ติดแก๊สในบ้านแทน
วันนี้ (5 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าคดีวางระเบิดรถยนต์ในบ้านอดีตนายทหารกลางเมืองโคราช ทำให้ นางวิไลพรรณ หุตะวัน อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 3122 ซอย 24 ถ.เดชอุดม เขตเทศบาลนครนครราชสีมา ซึ่งเป็นผู้วางระเบิดได้รับบาดเจ็บสาหัสมือขาด หน้าท้องเป็นแผลฉกรรจ์ และเจ้าหน้าที่ตำรวจอายัดตัวไว้ดำเนินคดีพร้อมสามีผู้ประกอบระเบิด เหตุเกิดเมื่อวานนี้ (4 มี.ค.) นั้น
ล่าสุด ช่วงบ่ายวันนี้ พ.ต.อ.สมร ทองกลาง พนักงานสอบสวนผู้ทรงคุณวุฒิ สภ.เมืองนครราชสีมา พร้อมด้วย พ.ต.ท.พิษณุ กองทองนอก พนักงานสอบสวนชำนาญการ สภ.เมืองนครราชสีมา เจ้าของคดี ได้เรียกตัว พ.อ.บุญญฤทธิ์ จันทร์สูงเนิน นายทหารนอกราชการ และนางพิมพกานต์ จันทร์สูงเนิน สองสามีภรรยาเจ้าของบ้าน และเจ้าของรถมาสอบสวนที่ สภ.เมืองนครราชสีมา หาสาเหตุการก่อเหตุวางระเบิดดังกล่าว เพื่อประกอบสำนวนดำเนินคดีกับผู้ที่ก่อเหตุ
นางพิมพกานต์ เปิดเผยว่า รู้จักสนิทสนมกันเป็นอย่างดีกับ นางวิไลพรรณ ผู้วางระเบิด และผู้บาดเจ็บ ซึ่งรักเหมือนลูกคนหนึ่ง ที่ผ่านมา นางวิไลพรรณ ได้มาขอยืมเงินไปลงทุนหลายครั้งรวมแล้วประมาณ 3 ล้านบาท และยังติดต่อมาตลอด
ล่าสุด นางวิไลพรรณ บอกว่า สามีกำลังขายที่ดินอยู่ จ.นครสวรรค์ จำนวน 15 ล้านบาท หากขายได้แล้วจะนำเงินมาใช้หนี้ ทำให้ตนไม่คิดว่าจะถูกปองร้าย ซึ่งในวันเกิดเหตุ นางวิไลพรรณ ได้ไปหาที่บ้านเมื่อเข้าไปถึงในบ้านบอกว่าจะขอยืมลูกแก้วพญานาคที่ตนนับถืออยู่เพื่อนำไปสวดมนต์ขอพรให้โชคดี พร้อมกับบอกว่าจะทำความสะอาดรถยนต์ให้
จากนั้นตนขึ้นไปบนบ้านเพื่อนำลูกแก้วมามอบให้ระหว่างที่ทำพิธีไหว้ลูกแก้วก็ได้ยิงเสียงระเบิดดังขึ้น ตอนแรกคิดว่าหม้อไฟฟ้าระเบิด เมื่อลงมาดูจึงเห็นว่า นางวิไลพรรณ ถูกระเบิดได้รับบาดเจ็บสาหัส และมาทราบภายหลังว่า นางวิไลพรรณ หมายปองที่จะนำระเบิดมาวางทำร้ายตนเอง
พ.ต.อ.สมร ทองกลาง พนักงานสอบสวนผู้ทรงคุณวุฒิ สภ.เมืองนครราชสีมา เปิดเผยความคืบหน้าของคดีว่า ได้เชิญผู้เสียหายมาสอบปากคำเพื่อประกอบสำนวนดำเนินคดีต่อผู้ก่อเหตุ
โดยเบื้องต้น นายศิริกร ซาเวียง อายุ 42 ปี สามีผู้บาดเจ็บ และเป็นผู้ประกอบระเบิดแสวงเครื่องถูกแจ้งความดำเนินคดีในข้อหา “ประกอบวัตถุระเบิดโดยไม่รับอนุญาตและทำให้เกิดการระเบิดจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส” ขณะนี้อยู่ระหว่างสอบสวนเพิ่มเติม
ด้าน พล.ต.ต.พงษ์เดช พรหมมิจิตร ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) นครราชสีมา เปิดเผยว่า จากการสอบสวนผู้เสียหายเชื่อว่า 2 สามีภรรยา มีการวางแผนล่วงหน้าในการเตรียมการวางระเบิด และรถยนต์คันที่จะนำระเบิดไปวางนั้นติดตั้งแก๊สเป็นน้ำมันเชื้อเพลิง และยังมีการชวนเจ้าหนี้ไปรับเงินจากการขายที่ดินที่ต่างจังหวัด ซึ่งอาจเป็นเตรียมการวางแผนเพื่อลวงไปฆ่าก็เป็นได้ แต่ได้มีการเปลี่ยนแผนมาเป็นวางระเบิดรถแทน เจ้าหน้าที่ได้แจ้งความ 2 สามีภรรยา ในข้อหาพยายามฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน เพิ่มอีก 1 ข้อหาหนัก และส่งตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ส่วนอาการของ นางวิไลพรรณ ผู้วางระเบิดได้รับบาดเจ็บสาหัส มือขวาขาด และหน้าท้องเป็นแผลฉกรรจ์นั้น ล่าสุด อาการพ้นขีดอันตรายแล้ว แต่ยังพักรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู ของโรงพยาบาลค่ายสุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้อายัดตัวไว้ดำเนินคดีตามกฎหมายแล้ว