พระนครศรีอยุธยา - อากาศร้อนจัดหนุ่มเมืองอ่างทอง เจ้าของพลุ “กัมปนาทดอกไม้ไฟ” กลับมาทำพลุในบ้านที่พระนครศรีอยุธยา เกิดระเบิดเสียงดัง ฉีกร่างขาดเป็นชิ้นดับสยอง
เมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. วันนี้ (3 พ.ค.) ร.ต.ท.หญิง ฤดีสรวง ธาระเลิศ ร้อยเวร สภ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับแจ้งมีเหตุระเบิดที่บ้านเลขที่ 53 หมู่ 3 ต.บ้านเกาะ อ.พระนครศรีอยุธยา มีผู้เสียชีวิต จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.สุเทพ ชนะสิทธิ์ ผกก.สส.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.ต.อรรถพล วงศ์นรเศรษฐ์ สว.สส.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา และหน่วยกู้ภัยสมาคมอยุธยารวมใจไปยังที่เกิดเหตุ
พบบ้านที่เกิดเหตุเป็นบ้านสร้างด้วยปูนทั้งหลัง ทรงบังกะโล 2 ชั้นสีชมพูหรูหรา มีรั้วรอบบริเวณบ้านเนื้อที่กว่า 1 ไร่ โดยจุดที่เกิดเหตุอยู่บริเวณห้องด้านข้างบ้างด้านขวา ซึ่งเป็นห้องที่ต่อเติมออกมาแรงระเบิดทำให้ห้องทั้งห้องพังเสียหาย หลังคา และเพดานหายไปทั้งหมด
นอกจากนี้ แรงระเบิดยังทำให้ตัวบ้านด้านใน และเพดานด้านในบ้านพังเสียหายอย่างมาก กระจกประตูหน้าต่างแตก บริเวณห้องที่ต่อเติมดังกล่าวยังพบชิ้นส่วนของมนุษย์กระจัดกระจายแขนขา และศรีษะหลุดเป็นชิ้น ทราบชื่อต่อมาคือ นายกัมปนาท งามพรหม อายุ 46 ปี บ้านเดิมอยู่ 104 ม. 10 ต.ยางซ้าย อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง ในที่เกิดเหตุยังพบเศษวัสดุสำหรับทำประทัด และไข่ก๊องสำหรับใช้ในงานลอยกระทงจำนวนมากกระจัดกระจาย และยังพบหลุมลึกประมาณ 10 ซม.กว้างกว่า 30 ซม.
จากการตรวจสอบยังพบว่า ที่หลังบ้านซึ่งเป็นห้องยังมีถุงใส่วัสดุสำหรับทำประทัด พลุ ระเบิดปิงปอง และประทัดที่สำเร็จแล้ว รวมทั้งดินประสิว ดินปืนจำนวนมาก แยกออกไปจากตัวบ้านมีบ้านหลังเล็กๆ ก็มีวัสดุทำประทัด และพลุจำนวนมากเก็บซ่อนอยู่ มีนายอุดม อิ่มสุวรรณ อายุ 67 ปี อดีตพ่อตาของนายกัมปนาท นั่งอยู่ด้วยอาการตกใจ
จากการสอบถาม นายอุดม ทราบว่า นายกัมปนาท เลิกกับลูกสาวมานานหลายปี และบ้านหลังดังกล่าวให้ลูกๆ อยู่ โดยนายกัมปนาท เป็นเจ้าของพลุดอกไม้ไฟที่อ่างทองชื่อ “กัมปนาทดอกไม้ไฟ” จะแวะเวียนไปมาที่บ้านหลังดังกล่าว โดยไม่ทราบว่านั่งทำประทัดอยู่ข้างบ้าน ก่อนเกิดเหตุไม่มีใครอยู่บ้าน นายกัมปนาท เข้ามาตอนเช้าแล้วออกไปแล้วก็กลับเข้ามาอีกครั้งจนเกิดระเบิดดังกล่าว
ด้านนายวิทยา ผิวผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้แจ้งให้ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ร่วมกับตำรวจลงไปตรวจสอบสาเหตุการระเบิดและหาผู้ที่เกี่ยวข้องรวมทั้งดูว่ามีใบอนุญาตหรือไม่ เพื่อมาดำเนินคดีต่อไป