xs
xsm
sm
md
lg

เอกชนบ่อไร่แห้วหลังกระทรวง ตปท.ไทย-กัมพูชา ยังไม่ยกระดับจุดผ่อนปรนบ้านมะม่วง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวศรีราชา - ภาครัฐ-เอกชนในอำเภอบ่อไร จังหวัดตราด ต้องผิดหวังไปตามกัน หลังกระทรวงการต่างประเทศของไทย และกัมพูชา ยังไม่เห็นชอบให้ยกระดับจุดผ่อนปรนการค้าบ้านมะม่วง เป็นจุดผ่านแดนถาวรตามคำร้องขอของหอการค้าจังหวัด

ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีที่จังหวัดตราด และผู้ประกอบการในอำเภอบ่อไร่ รวมถึงภาคเอกชนได้เสนอให้หอการค้าจังหวัดตราด ผลักดันให้มีการยกระดับจุดผ่อนปรนการค้าบ้านมะม่วง ที่ตั้งอยู่ในตำบลนนทรีย์ อำเภอบ่อไร่ และจุดผ่านแดนชั่วคราวบ้านท่าเส้น ตำบลแหลมกลัด อำเภอเมืองตราด เป็นจุดผ่านแดนถาวรที่จะเชื่อมต่อกับจังหวัดพระตะบอง และจังหวัดโพธิสัต ของประเทศกัมพูชา แต่ที่ผ่านมา รัฐบาลทั้ง 2 ประเทศ โดยกระทรวงการต่างประเทศ ได้บันทึกลงนามให้มีการยกระดับจุดผ่านแดนชั่วคราวบ้านท่าเส้น ที่เชื่อมต่อกับบ้านทมอดา อำเภอเวียงเวล จังหวัดโพธิ์สัต ให้เป็นจุดผ่านแดนถาวรเพียงแห่งเดียว ทำให้ผู้ประกอบการ และภาคเอกชนผิดหวังไปตามๆ กัน

ล่าสุด นายคมศักดิ์ ศักดิ์เพชรพลอย ตัวแทนผู้ประกอบการค้าในอำเภอบ่อไร่ ได้ออกมาเปิดเผยว่า การที่จังหวัดตราด และหอการค้าจังหวัด รวมทั้งภาคเอกชนทั้งในระดับจังหวัด และอำเภอได้ผลักดันให้มีการยกระดับจุดผ่อนการค้าบ้านมะม่วงเป็นจุดผ่านแดนถาวรมาเป็นเวลานานกว่า 10 ปี และทางจังหวัด ก็ได้กำหนดเป็นยุทธศาสตร์ของจังหวัดกระทั่งได้รับการตอบสนองจากรัฐบาลในช่วงที่เดินทางมาประชุม ครม.สัญจร และได้อนุมัติงบประมาณในการพัฒนาถนนเชื่อมชายแดนจนดำเนินการเสร็จแล้ว

แต่ในวันนี้รัฐบาลทั้ง 2 ประเทศ กลับทำบันทึกข้อตกลงให้ยกระดับจุดผ่านแดนชั่วคราวบ้านท่าเส้น เป็นจุดผ่านแดนถาวรเพียงแห่งเดียว ทั้งที่บ้านมะม่วง มีความพร้อมมากกว่า และยังมีตัวเลขการค้าขายเป็นจำนวนมาก ย่อมสร้างความผิดหวังให้แก่ผู้ที่มีส่วนผลักดันเป็นอย่างมาก

นายคมศักดิ์ กล่าวอีกว่า โดยข้อเท็จจริงแล้วศักยภาพของบ้านมะม่วง มีความพร้อมมากกว่าบ้านท่าเส้น เนื่องจากบ้านมะม่วงมีพื้นที่ติดต่อกับจังหวัดพระตะบอง ที่มีประชากรมากกว่า 1.2 ล้านคน และเป็นเมืองใหญ่อันดับ 2 ของกัมพูชา ที่สำคัญกำลังเจริญเติบโต และมีความต้องการสินค้าจากไทยเป็นจำนวนมาก และยังมีการตั้งด่านของส่วนราชการชายแดนในเส้นทางครบทุกหน่วยแล้ว แต่กลับไม่ได้รับการพิจารณา

เช่นเดียวกับ นายคมพัชร์ ทักษิณ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลนนทรีย์ ที่กล่าวว่า ในอดีตอำเภอบ่อไร่ เคยเฟื่องฟูจากการเป็นแหล่งขุดพลอยที่สำคัญของประเทศ แต่เมื่อพลอยหมดไปเศรษฐกิจของอำเภอบ่อไร่ ก็แย่ลง และในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา เศรษฐกิจของอำเภอบ่อไร่ ได้กลับมาฟื้นตัวอีกครั้งจากการเป็นเมืองเกษตรกรรม และเมื่อมีข่าวว่าจะได้รับการผลักดันให้เปิดเป็นจุดผ่านแดนถาวร ก็ทำให้มีความคึกคักของเศรษฐกิจมากขึ้น แต่เมื่อในวันนี้ไม่สามารถเปิดได้ ก็ย่อมส่งผลกระทบต่อการวางแผนในการพัฒนาท้องถิ่นบ้างไม่มากก็น้อย

“องค์การบริหารส่วนตำบลนนทรีย์ มีแผนในการรองรับการพัฒนาพื้นที่หลายโครงการ เช่น การพัฒนาน้ำตกทับกระไดให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว ซึ่งปัจจุบันทางอุทยานฯ น้ำตกคลองแก้ว ได้เข้ามาปรับปรุบสภาพพื้นที่ในการเดินทางเข้าออกแล้ว ขณะที่บริเวณลานจอดรถยนต์หน้าองค์การบริหารส่วนตำบลนนทรีย์ ก็จะปรับปรุงให้เป็นตลาดอินโดจีน รองรับการจำหน่ายสินค้าระหว่าง 2 ประเทศ อย่างไรก็ดี แม้จะไม่สามารถเปิดเป็นจุดผ่านแดนถาวรได้ แต่ยังมีการค้าขายระหว่างกัน ซึ่งก็คงต้องปล่อยให้ดำเนินไปก่อน เมื่อเชื่อว่าเมื่อมูลค่าการค้าสูงขึ้นวันข้างหน้าก็อาจได้รับการยกระดับ” นายคมพัชร์ กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น