xs
xsm
sm
md
lg

ไฟไหม้บ้านสักทองหรูอดีต ส.ว.แพร่ วอดนับ 100 ล้าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


แพร่ - ไฟไหม้บ้านไม้สักทองหลังงามของอดีต ส.ว.เมืองแพร่ พร้อมทรัพย์สินวอดทั้งหลังกลางดึก แม้ระดมรถดับเพลิงเข้าระงับเหตุกว่า 20 คันแต่เอาไม่อยู่ ทำได้เพียงสกัดเปลวเพลิงไม่ให้ลามไหม้บ้านนายกเล็กเมืองแพร่ ผู้เป็นน้องชายที่อยู่ติดกันเท่านั้น คาดเสียหายนับร้อยล้าน

พ.ต.ท.ณรงค์ ซ้อนกลิ่น พนักงานสอบสวน สภ.เมืองแพร่ ได้รับแจ้งว่า มีเหตุเพลิงไหม้ขึ้นที่บ้านเลขที่ 7/8 ถนนศศิบุตร เขตเทศบาลเมืองแพร่ ซึ่งเป็นบ้านของนายขวัญชัย พนมขวัญ อดีต ส.ว.แพร่ ในสมัยที่ผ่านมา และภรรยาคือ นางจิตรภัทร พนมขวัญ เมื่อเวลาประมาณ 22.30 น.คืนที่ผ่านมา (30 เม.ย.) จึงได้แจ้งรถดับเพลิงเทศบาลเมืองแพร่ และจากหลายหน่วยงานที่อยู่ใกล้เข้าระงับเหตุโดยเร่งด่วน

แต่เนื่องจากบ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านไม้สักขนาดใหญ่ แม้จะมีการระดมรถดับเพลิง พร้อมรถบรรทุกน้ำกว่า 20 คันช่วยกันฉีดน้ำสกัดการลุกลามของเปลวเพลิงที่ลุกไหม้อย่างรุนแรงนานกว่า 1 ชั่วโมง สุดท้ายบ้านหลังดังกล่าวก็ยังถูกไฟไหม้หมดไปทั้งหลัง พร้อมทรัพย์สินมีค่าจำนวนมาก รถดับเพลิงทำได้เพียงสกัดไม่ให้เปลวเพลิงลุกลามไปถึงบ้านของนายโชคชัย พนมขวัญ นายกเทศมนตรีเมืองแพร่ ซึ่งอยู่ติดกันเท่านั้น

สำหรับบ้านของนายขวัญชัยที่ถูกไฟไหม้หมดทั้งหลังนั้น เฉพาะตัวบ้านเป็นไม้สักทองทั้งหลังสร้างมานานกว่า 20 ปีแล้ว มูลค่ากว่า 40 ล้านบาท ส่วนทรัพย์สินที่อยู่ในบ้านก็ถูกไฟไหม้ไปทั้งหมดไม่สามารถขนย้ายออกมาได้เลย มูลค่ารวมกว่า 100 ล้านบาท

นายขวัญชัยกล่าวว่า ก่อนหน้าที่จะเกิดไฟไหม้ มีพายุฝนรุนแรง หลังจากลมพายุสงบตนได้ออกไปทำธุระในตลาด มีคนโทรศัพท์บอกว่าบ้านไฟไหม้จึงได้รีบเข้ามา แต่ก็ไม่สามารถเก็บข้าวของได้ทันเนื่องจากไฟลุกไหม้รุนแรงมาก ยังโชคดีที่ออกจากบ้านไปพร้อมกัน ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ หรือเป็นอันตรายแต่อย่างใด

ด้านนายโชคชัย พนมขวัญ นายกเทศมนตรีเมืองแพร่ ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านหลังติดกัน และเป็นน้องชายของนายขวัญชัย กล่าวว่า ตอนนั้นตนอยู่ในบ้าน เห็นมีเปลวไฟลุกไหม้บริเวณห้องชั้นล่างก่อน จากนั้นลุกลามไปอย่างรวดเร็ว รถดับเพลิงของเทศบาลเมืองแพร่ และจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่อยู่ใกล้ๆ เข้ามาช่วยกันดับเพลิง แต่ไม่ทัน เนื่องจากบ้านเป็นไม้ทั้งหลัง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะเกิดเหตุเป็นที่น่าสังเกตว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองแพร่มีไม่เพียงพอในการเข้ามาช่วยจัดการจราจร และอำนวยความสะดวกให้รถดับเพลิงเข้าดับไฟ เนื่องจากกำลังตำรวจส่วนใหญ่ถูกส่งไปปฏิบัติหน้าที่ใน กทม. ทำให้รถดับเพลิงเข้าถึงที่เกิดเหตุได้ช้ากว่าปกติ เพราะมีประชาชนขับรถเข้ามาช่วย-มุงดูจำนวนมาก

กำลังโหลดความคิดเห็น