ฉะเชิงเทรา - บ่อดินมรณะเมืองแปดริ้วยังถล่มไหลลงอย่างต่อเนื่อง พบมีการพังทลายขยายวงกว้างเพิ่มมากขึ้น ด้านชาวบ้านเฝ้าติดตามดูเหตุการณ์ โดยมีสื่อมวลชนให้ความสนใจติดตามข่าวอย่างใกล้ชิด ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ตั้งข้อกล่าวหาผู้ประกอบการ ต้องรอผลพิสูจน์หลักฐานให้ชัดเจน
วันนี้ (30 เม.ย. 57) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีบ่อดินกลางท้องนา ในพื้นที่บ้านเกาะดอน หมู่ 5 ตำบลคลองเปรง อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา พังถล่มทับคนงานเสียชีวิต พร้อมเครื่องจักรกลหนักจมลงสู่ใต้ธรณีรวม 9 คัน ว่า ในวันนี้มีเจ้าหน้าที่จากกองพิสูจน์หลักฐานภูธรจังหวัดฉะเชิงเทรา เจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองกำกับการ 2 ประจำจังหวัดฉะเชิงเทรา เจ้าหน้าที่จากสำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัด ได้ลงพื้นที่เข้าตรวจสอบบริเวณที่เกิดเหตุ เพื่อหารายละเอียด และหาสาเหตุของอุบัติเหตุดินถล่มที่เกิดขึ้นในครั้งนี้เพิ่มเติม
ด้าน พ.ต.อ.ธนาวุฒิ จงจิระ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองฉะเชิงเทรา กล่าวหลังร่วมตรวจสอบกับเจ้าหน้าที่หลายฝ่ายว่า ความเห็นเบื้องต้นเชื่อว่าสาเหตุของการเกิดเหตุดินสไลด์พังถล่มในครั้งนี้ น่าจะมาจากการที่คนงานบ่อดินได้นำรถบรรทุก 10 ล้อ 2 คัน และรถแบ็กโฮ อีกจำนวน 3 คัน รวมถึงรถไถดันดิน และรถยนต์กระบะอีก 3 คัน ขึ้นไปจอดเรียงรายกันอยู่ที่ด้านบนขอบบ่อ จึงทำให้เกิดแรงกดทับที่ขอบบ่อ ซึ่งยังคงเป็นดินอ่อนที่ยังไม่แข็งตัว จึงเกิดการไหลสไลด์เคลื่อนตัวพังถล่มลงมา เนื่องจากน้ำหนักรวมของเครื่องจักรกล พร้อมรถยนต์ทั้งหมดน่าจะมากถึงเกือบ 100 ตัน
สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ จึงน่าจะเกิดจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของคนงานในบ่อดินนั่นเอง แต่ขณะนี้คงยังไม่ได้ตั้งข้อกล่าวหาอะไรต่อใคร หรือผู้ประกอบการ เนื่องจากยังคงต้องรอผลจากการตรวจพิสูจน์หลักฐานก่อน
บ่อดินแห่งนี้ทางเจ้าของแจ้งว่าได้รับการอนุญาตให้ดำเนินการอย่างถูกต้องจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อบต.) คลองเปรง ซึ่งทางพนักงานสอบสวนจึงยังต้องรอการตรวจสอบหลักฐาน และสอบพยานเพิ่มอีกหลายปาก ซึ่งขณะนี้ได้ทำการเรียกเอกสารที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ทั้งจาก อบต.คลองเปรง และทางฝ่ายเจ้าของบ่อดิน เพื่อนำมาทำการตรวจสอบแล้ว
ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากชาวบ้าน ที่เดินทางมาเฝ้าจับตามุงดูเหตุการณ์ ในบริเวณที่เกิดเหตุจำนวนหลายรายว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาได้เกิดแผ่นดินสไลด์พังถล่มลงไปยังเบื้องล่างเพิ่มเติมอีก โดยได้ขยายกินพื้นที่เข้ามาในเขตท้องนา และถนนเส้นทางสายเกาะดอนพังเพิ่มมากขึ้นเป็นระยะทางหลาย 10 เมตร จนมองเห็นเป็นหน้าผามสูงชัน หรือเหวลึก เป็นแนวดิ่งลงไปทั้งที่อยู่กลางท้องนา
นอกจากนี้ ยังได้มีสำนักข่าวจากสื่อต่างๆ ได้ต่างพากันนำเฮลิคอปเตอร์ เข้ามาบินวนรายงานข่าวอย่างต่อเนื่อง เหนือท้องฟ้าที่ด้านบนปากบ่ออีกด้วย