อุบลราชธานี - ชาวบ้านรวมตัวประท้วง ต้านตัดต้นไม้สวนสาธารณะทำลานอนุสาวรีย์ท้าวคำผงแห่งใหม่
วันนี้ (30 เม.ย.) ที่สวนสาธารณะทุ่งศรีเมือง เขตเทศบาลนครอุบลราชธานี ประชาชนที่ใช้บริการสวนสาธารณะ รวมตัวประท้วงเทศบาลนครอุบลราชธานี ให้หยุดตัดและเคลื่อนย้ายต้นไม้เพื่อทำลานอนุสาวรีย์ท้าวคำผงผู้สร้างเมือง เพราะสงสัยทำไมไม่สร้างในจุดที่เป็นลานโล่ง ไม่กระทบพื้นที่สีเขียวที่เหลืออยู่เพียง 40% ขณะเทศบาลฯ ชี้แจงว่าต้องสร้างในจุดดังกล่าว เพราะอนุสาวรีย์ต้องหันหน้าไปทางกรุงเทพมหานคร พร้อมจะชี้แจงผู้ประท้วงให้เข้าใจ
โดยประชาชนให้ความเห็นว่า ปัจจุบันมีพื้นที่เป็นปูนซีเมนต์คิดเป็นร้อยละ 60 ของพื้นที่กว่า 30 ไร่ จึงเหลือต้นไม้ให้ร่มเงาและเป็นปอดให้ประชาชนเฉพาะบริเวณรอบสนามทั้ง 4 ด้าน ซึ่งที่ทำเป็นลู่วิ่งให้ออกกำลังกาย เมื่อมีการตัดต้นไม้ย้ายออกไปทำให้มีพื้นที่สีเขียวลดลงอีก ซึ่งไม่ถูกลักษณะของสวนสาธารณะ
และได้ทำหนังสือให้ทางเทศบาลนครอุบลราชธานีทำประชาพิจารณ์ก่อนที่จะมีการก่อสร้าง เพราะประชาชนล่ารายชื่อผู้มาใช้บริการและไม่เห็นด้วยกับการก่อสร้างในจุดดังกล่าวกว่า 500 คน แต่เทศบาลนครก็ยังไม่หยุด ยังคงเดินหน้าก่อสร้างต่อ จึงรวมตัวกันมาประท้วงและทำการบวชต้นไม้
ข่าวแจ้งว่า ระหว่างที่กลุ่มผู้ประท้วงรวมตัวกันอยู่มีผู้รับเหมาที่รับจ้างตัดและเคลื่อนย้ายต้นไม้อายุกว่า 30-40 ปีออกไปจากจุดก่อสร้างจะเข้ามาตัดต้นไม้อีก กลุ่มประชาชนจึงมารวมตัวขัดขวาง ทำให้ผู้รับเหมาต้องล่าถอยกลับไป
น.ส.ชนนิกานต์ อุตรมาตร พยาบาลวิชาชีพ กล่าวว่า ที่มาประท้วงไม่ได้ขัดขวางการก่อสร้างอนุสาวรีย์แห่งใหม่ของท้าวคำผง แต่ต้องการให้สร้างฝั่งตรงข้าม ซึ่งเป็นพื้นที่โล่งติดกับศาลหลักเมือง เมื่อมีคนมากราบไหว้ก็สะดวก ไม่ต้องเดินข้ามถนนไปมา และไม่เสียพื้นที่สีเขียวที่ใช้เป็นปอดให้คนที่มาออกกำลังกาย และใช้ประโยชน์นั่งเล่นหลบแดดด้วย
ด้านนายศักดิ์ เลรุ่งรดิส รองนายกเทศมนตรีนครอุบลราชธานี กล่าวถึงสาเหตุที่ต้องย้ายอนุสาวรีย์ท้าวคำผง ผู้สร้างเมืองอุบลราชธานี ที่ตั้งอยู่ในสวนสาธารณะออกมาริมถนน เพราะมีจุดประสงค์ให้ประชาชนที่ขับรถผ่านไปมากราบไหว้ได้สะดวก รวมทั้งดูเด่นเป็นสง่า สมศักดิ์ศรีของผู้สร้างเมืองเหมือนในหลายจังหวัด
และที่ต้องเลือกจุดดังกล่าวแทนอีกฝั่งที่เป็นลานโล่งเพราะต้องหันหน้าอนุสาวรีย์ไปทางทิศกรุงเทพมหานคร เพื่อรับสนองพระบรมราชโองการให้เป็นผู้ครองเมืองตามโบราณราชประเพณี เมื่อมีประชาชนไม่เห็นด้วยก็จะต้องทำความเข้าใจ โดยโครงการดังกล่าวใช้งบก่อสร้างกว่า 15 ล้านบาท