xs
xsm
sm
md
lg

รพ.กาฬสินธุ์แนะวิธีเลี้ยงเด็กพิเศษหน้าร้อน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

บรรดาผู้ปกครองนำบุตรหลาน ซึ่งเป็นเด็กพิเศษ หรือเด็กออทิสติก เข้ารับบริการภายในคลินิกกระตุ้นพัฒนาการเด็ก โรงพยาบาลกาฬสินธุ์กันจำนวนมาก โดยมีแพทย์ พยาบาลและด้วยเจ้าหน้าที่ประจำคลินิกฯคอยให้บริการรักษา พร้อมกับได้แนะนำวิธีการสังเกต และเลี้ยงดูบุตรหลานของตนเองในช่วงสภาพอากาศที่ร้อนจัด เนื่องจากเด็กพิเศษไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้
กาฬสินธุ์ - คลินิกกระตุ้นพัฒนาการเด็ก โรงพยาบาลกาฬสินธุ์ แนะนำผู้ปกครองดูแลเลี้ยงบุตรพิเศษ หรือเด็กออทิสติก ในช่วงหน้าร้อน หลังอุณหภูมิพุ่งสูงถึง 40 องศา

จากการติดตามสภาพอากาศในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์พบว่า ปัจจุบันทุกพื้นที่มีสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าวตลอดทั้งวัน โดยมีอุณหภูมิเฉลี่ยสูงถึง 39-40 องศา ซึ่งปัญหาดังกล่าวนอกจากจะส่งผลให้ปริมาณแหล่งน้ำต่างๆ ลดลงอย่างรวดเร็วแล้ว ยังส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนอีกด้วย

โดยเฉพาะเด็ก ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคประจำตัว เนื่องจากร่างกายไม่สามารถทนต่อสภาพอากาศที่ร้อนจัดได้จึงเกิดล้มป่วยด้วยโรคไข้หวัดและโรคลมแดด และเข้ารักษาตัวในสถานพยาบาลกันเป็นจำนวนมาก

ล่าสุด วันนี้ (29 เม.ย.) มีบรรดาผู้ปกครองนำบุตรหลาน ซึ่งเป็นเด็กพิเศษ หรือเด็กออทิสติก เข้ารับบริการภายในคลินิกกระตุ้นพัฒนาการเด็ก โรงพยาบาลกาฬสินธุ์กันจำนวนมาก

โดยมีนางสมคิด สุทธิพรม พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ หัวหน้าคลินิกกระตุ้นพัฒนาการเด็ก โรงพยาบาลกาฬสินธุ์ ในฐานะประธานมูลนิธิออทิสติกไทย สาขากาฬสินธุ์ พร้อมด้วยแพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ประจำคลินิกฯ คอยให้บริการรักษา

พร้อมกับได้แนะนำวิธีการสังเกต และเลี้ยงดูบุตรหลานของตนเองในช่วงสภาพอากาศที่ร้อนจัด เนื่องจากเด็กพิเศษไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ บางรายไม่แสดงอาการ ไม่สามารถพูดได้ ซึ่งจะทำให้เด็กเกิดอาการเครียด หงุดหงิด ก้าวร้าว และอาจเป็นสาเหตุที่ล้มป่วยได้ง่าย

นางสมคิดกล่าวว่า ปกติคลินิกกระตุ้นพัฒนาการเด็ก โรงพยาบาลกาฬสินธุ์จะเปิดบริการแก่ประชาชน โดยภารกิจหลักจะดูแลรักษาและให้ความรู้แก่ผู้ปกครองในการเลี้ยงดูบุตรหลานที่เป็นเด็กพิเศษ ทั้งเด็กออทิสติก เด็กสมองพิการ เด็กดาวน์ซินโดรม เด็กบกพร่องด้านสติปัญญา และเด็กพัฒนาการล่าช้าโดยไม่ทราบสาเหตุ ปัจจุบันมีผู้ป่วยที่อยู่ในความดูแลมากถึง 1,500 คน

ทั้งนี้ จากสภาพอากาศที่ร้อนจัดในปัจจุบัน บางวันอุณหภูมิสูงถึง 40 องศา ซึ่งสภาพอากาศดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อเด็กพิเศษ ประกอบกับเด็กไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ไม่แสดงอาการ บางรายพูดไม่ได้ ซึ่งมักจะเกิดอาการเครียด หงุดหงิด ก้าวร้าว ไม่ยอมกินข้าว และร้องไห้ไม่หยุด

ดังนั้น ผู้ปกครองควรที่จะดูแลอย่างใกล้ชิดและหมั่นสังเกตบุตรหลานของตัวเองอยู่ตลอดเวลา โดยจะต้องให้เด็กพักผ่อนอย่างเพียงพอ กินอาหารเช้า สวมใส่เสื้อให้เด็กที่บางหรือระบายอากาศได้ดี และให้เด็กดื่มน้ำมากๆ อยู่ในสถานที่อากาศถ่ายเทสะดวก

แต่หากวันไหนที่มีอากาศร้อนจัดควรที่จะใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดตัวบ่อยๆ และไม่ควรน้ำเด็กออกไปตากแดดเป็นเวลานาน เพราะจะทำให้เด็กล้มป่วยได้ง่าย

อย่างไรก็ตาม หากพบว่าเด็กมีอาการป่วยก็ให้นำมาพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอย่าซื้อยาไปกินเอง และหากผู้ปกครองมีปัญหาหรือต้องการข้อแนะนำเลี้ยงเด็ก โดยเฉพาะเด็กพิเศษก็สามารถเข้ารับบริการและขอคำปรึกษาได้ที่คลินิกกระตุ้นพัฒนาการเด็ก โรงพยาบาลกาฬสินธุ์


กำลังโหลดความคิดเห็น