ศรีสะเกษ - แม่นำญาติพี่น้องรุมกระทืบฆาตกรโหดฆ่าเมียนักศึกษา รับสารภาพเหตุหึงหวงเมียติดเล่นเฟซบุ๊กและโทร.ไปแล้วไม่รับสายจึงระแวงมีชายอื่น ปฏิเสธไม่ได้สะกดวิญญาณเล่นไสยศาสตร์ตามข่าวลือ
วันนี้ (27 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเย็นวานนี้ ที่ สภ.เมืองศรีสะเกษ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ พ.ต.ท.เสกสรร อุทโธ รอง ผกก.สส.สภ.อ.เมืองศรีสะเกษ ได้แถลงข่าวการจับกุม นายสมเกียรติ หรือเหน่ง อุทัยอินทร์ อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 21 ม.7 บ้านหนองตุกหลุก ต.นาแก อ.คำเขื่อนแก้ว จ.ยโสธร ผู้ต้องหาฆ่า น.ส.เดือน เบ็ญขันธ์ อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 85 ม.2 ต.ซำ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ นศ.ชั้นปีที่ 3 มหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ ซึ่งเป็นภรรยาของตัวเอง โดยสภาพศพของ น.ส.เดือนมีบาดแผลฉกรรจ์หลายตำแหน่ง ถูกเชือดคอ กรีดศีรษะ กกหู หัวเข่า ขมับซ้ายและขวา และใต้คาง เหตุเกิดเมื่อวันที่ 11 เม.ย.ที่ผ่านมา กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมได้และนำตัวมาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน
พ.ต.ท.เสกสรร อุทโธ รอง ผกก.สภ.เมืองศรีสะเกษ กล่าวว่า หลังจากเกิดเหตุ พ.ต.อ.วินัย เกตุพันธ์ ผกก.สภ.เมืองศรีสะเกษ ได้สั่งการให้ตนและเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองศรีสะเกษ เร่งติดตามหาเบาะแสของคนร้ายรายนี้ ต่อมาสืบทราบว่านายสมเกียรติ หลบหนีไปอยู่ที่บ้านญาติคนหนึ่งที่ ต.บุฤาษี อ.เมือง จ.สุรินทร์ จึงรายงานให้ ผกก.สภ.เมืองศรีสะเกษทราบ และนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำราวจชุดสืบสวนไปติดตามจับกุมได้เมื่อเวลาประมาณ 14.00 น. ของวันนี้ (26 เม.ย.) ซึ่งเป็นการจับกุมตามหมายจับของศาลจังหวัดศรีสะเกษ ที่ 98/2557 ลงวันที่ 12 เม.ย. 2557 ในข้อหา ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้นั้นถึงแก่ความตาย และสอบสวนเบื้องต้นนายสมเกียรติให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
นายสมเกียรติ หรือเหน่ง อุทัยอินทร์ อายุ 24 ปี ผู้ต้องหาฆ่าภรรยาของตัวเอง รับสารภาพว่า ทำงานเป็นลูกจ้างโรงงานทำลูกชิ้น ได้จดทะเบียนสมรสกับ น.ส.เดือนเมื่อปี 2556 อยู่กินฉันสามีภรรยาที่บ้านของ น.ส.เดือน และทุกวันที่ขับขี่รถจักรยานยนต์ไปทำงานโรงงานลูกชิ้นจะมี น.ส.เดือนนั่งซ้อนท้ายไปด้วย จากนั้น น.ส.เดือนจะขับขี่รถจักรยานยนต์ไปเรียนหนังสือที่มหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ ตนและ น.ส.เดือนมีปากเสียงทะเลาะกันมาโดยตลอดเนื่องจากตนระแวงว่า น.ส.เดือนจะตีตัวออกห่างเพราะมีชายคนอื่น โดยสังเกตจากการที่ น.ส.เดือนเล่นเฟซบุ๊กกับเพื่อนชาย
กระทั่งวันเกิดเหตุได้โทรศัพท์ไปหา น.ส.เดือนหลายครั้ง แต่ น.ส.เดือนไม่รับสาย และมีการตัดสายโทรศัพท์ที่โทร.ไปทิ้งหลายครั้ง ทำให้สงสัยและระแวงว่า น.ส.เดือนมีชายอื่น
นายสมเกียรติกล่าวต่อว่า วันเกิดเหตุหลังจากที่ตนและ น.ส.เดือนกลับมาถึงบ้านได้มีปากเสียงกันอย่างรุนแรงเรื่องที่ น.ส.เดือนเล่นเฟซบุ๊ก และชอบตัดสายโทรศัพท์ทิ้งตลอด และ น.ส.เดือนได้เดินหนีเข้าไปในบ้าน ตนจึงได้เข้าไปลากตัว น.ส.เดือนออกมาจากบ้าน จากการที่บันดาลโทสะสุดขีดเนื่องจากระแวงว่า น.ส.เดือนจะปันใจให้ชายอื่น จึงใช้ไม้ไผ่ที่เหลาเป็นกับดักหนู และมีคมเชือดที่คอ ศีรษะ และมือของ น.ส.เดือน รวมทั้งแทงที่หัวเข่าของ น.ส.เดือนล้มฟุบจมกองเลือดที่หน้าบ้าน
จากนั้นตนรีบวิ่งหลบหนีไป โดยเดินไปตามทางรถไฟ มุ่งหน้าไปยัง จ.สุรินทร์ เพื่อไปหาญาติที่ อ.เมือง จ.สุรินทร์ จนกระทั่งถูกตำรวจจับกุมได้ในที่สุด
ส่วนรอยบาดแผลของ น.ส.เดือนบริเวณขมับทั้งสองข้างมีการแทงในรูปแบบไม้ไขว้กันที่คิดว่าเป็นการสะกดวิญญาณ และยังมีข่าวลืออีกว่าตนศึกษาวิชาไสยศาสตร์จนสามารถล่องหนได้นั้น ขอยืนยันว่าตนไม่ใช่คนมีคาถาอาคม ไม่เคยเรียนไสยาศาสตร์ ไม่มีรอยสักตามร่างกาย และไม่ได้ทำพิธีสะกดวิญญาณของ น.ส.เดือนตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด การทำร้าย น.ส.เดือนเป็นการกระทำที่เกิดจากความหึงหวงกัน และไม่คิดว่า น.ส.เดือนภรรยาจะถึงความตาย ซึ่งตนเสียใจ อยากจะขอขมาศพของ น.ส.เดือน และขอขมาพ่อแม่ของ น.ส.เดือนด้วย และพร้อมรับโทษความผิดครั้งนี้ตามกฎหมาย
ทางด้าน นางสิทธิ์ ราชบุตร อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 85 ม.2 บ้านโพธิ์ ต.ชำ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ แม่ของ น.ส.เดือน ผู้ตายกล่าวว่า ดีใจที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมคนร้ายที่ฆ่าลูกสาวตนได้ ตนไม่อยากให้นายสมเกียรติติดคุก เพราะหากติดคุกไม่นานก็จะออกมาก่อกรรมกับคนอื่นอีก จึงอยากให้ประหารชีวิต ส่วนนายสมเกียรติจะมาขอขมาตนนั้น ตนไม่รับขอขมา เพราะทำกับลูกของตนขนาดนี้แล้วมาขอขมาไม่ได้ทำให้ชีวิตลูกของตนฟื้นคืนขึ้นมาได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ พ.ต.ท.เสกสรร อุทโธ รอง ผกก.สภ.เมืองศรีสะเกษ นำตัวนายสมเกียรติ ฆาตกรโหดฆ่าเมียของตนเองไปที่ห้องควบคุมผู้ต้องหาของ สภ.เมืองศรีสะเกษ ปรากฏว่าระหว่างที่นำตัวผู้ต้องหาเดินออกจากงานสืบสวน นางสิทธิ์ และญาติพี่น้องที่มาเฝ้ารออยู่หน้า สภ.เมืองศรีสะเกษ ร่วม 30 คนได้กรูกันเข้าไปรุมประชาทัณฑ์นายสมเกียรติอย่างโกลาหลวุ่นวาย เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องช่วยกันดึงตัวของนายสมเกียรติออกมาอย่างทุลักทุเลและนำตัวเข้าไปไว้ในห้องควบคุมตัวผู้ต้องหาเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป โดยมีญาติพี่น้องของ น.ส.เดือนยังคงจับกุมเฝ้าอยู่ที่บริเวณลานจอดรถของ สภ.เมืองศรีสะเกษ