xs
xsm
sm
md
lg

“ปวีณา” ร่วมดีเอสไอนำกำลังทลายแก๊งค้ามนุษย์รายใหญ่ในเมืองพัทยา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวศรีราชา- “ปวีณา” ร่วมกับดีเอสไอ นำกำลังทลายแก๊งค้ามนุษย์รายใหญ่ในเมืองพัทยา หลังจากสืบทราบว่า มีขบวนการนำเด็กมาเร่ขายของ และขอทานในเมืองพัทยาเป็นจำนวนมาก

วันนี้ (25 เม.ย.) นางปวีณา หงสกุล รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และประธาน “มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี” (องค์กรสาธารณประโยชน์) ได้รับการประสานจาก นายศุภชัย ลิ้มพิพัฒน์โสภณ เจ้าหน้าที่ธุรการศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษภาค 2 (ภาคตะวันออก) หรือดีเอสไอ ว่า มีขบวนการนำเด็กมาเร่ขายของ และขอทานในเมืองพัทยาเป็นจำนวนมาก จึงเดินทางลงพื้นที่ และพร้อมด้วยกำลังบุกตรวจค้นเป้าหมายรวม 3 จุด

โดยจุดแรกตรวจค้นบ้านเลขที่ 245/70 หมู่บ้านพาราไดซ์ฮิลล์ 2 ซอยบุญสัมพันธ์ (เขาน้อย) หมู่ 13 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง พบว่าสถานที่ดังกล่าวเป็นบ้านหรู 2 ชั้น ภายในบ้านทั้งชั้นบนและชั้นล่าง แบ่งเป็นห้องให้เช่า พบผู้เช่าอาศัยเป็นชาวไทยรวม 6 คน และนางเกีย อายุ 42 ปี ชาวกัมพูชา ซึ่งไม่มีเอกสารพาสปอร์ตมาแสดง โดยมีนายสุทธิ สบายแท้ อายุ 40 ปี รับเป็นผู้ดูแลบ้าน จากการตรวจสอบตามห้องต่างๆ ในบ้านพบมีเสื้อผ้าเด็กเป็นจำนวนมาก เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวทั้งหมดไว้ ส่วนจุดที่ 2 ตรวจค้นห้องแถวให้เช่าชั้นเดียว เลขที่ 107 ในซอยเดียวกัน พบนางเอ (ขอสงวนชื่อ-นามสกุลจริง) อายุ 45 ปี อยู่ในห้องกับลูกสาววัย 7 ขวบ จึงเชิญตัวไปให้ปากคำที่ดีเอสไอ

จุดที่ 3 เดินทางไปที่ห้องแถวให้เช่าไม่มีเลขที่ ซึ่งปลูกเรียงรายกันรวม 10 ห้อง ภายในซอยหนองเกตุใหญ่ 6 หมู่ 1 ต.หนองปลาไหล อ.บางละมุง พบว่าห้องเป้าหมาย จำนวน 2 ห้อง ไม่มีคนอยู่ แต่เมื่อตรวจค้นพบเสื้อผ้า และของเล่นเด็กเป็นจำนวนมาก

สอบถาม น.ส.ขวัญเรือน ศรีอร่าม อายุ 33 ปี ชาวบ้านในละแวกนั้นทราบว่า ทั้ง 2 ห้องมีผู้ใหญ่และเด็กๆ ทั้งชาย-หญิง เช่าอาศัยอยู่รวมกันประมาณ 20 กว่าคน บางวันจะได้ยินเสียงเด็กร้องไห้คล้ายถูกทำร้าย โดยขณะนี้ทั้งหมดพากันเดินทางไปงานศพที่วัดสว่างฟ้าพฤฒาราม ย่านนาเกลือ

ต่อมา คณะได้เดินทางไปที่วัดดังกล่าว พบเด็กชาย และเด็กหญิง อายุระหว่าง 1-15 ปี รวม 23 คน กำลังวิ่งเล่นอยู่หน้าศาลาอย่างสนุกสนาน จากการสังเกตพบว่า เกือบทุกคนจะย้อมสีผมให้เป็นสีแดงคล้ายๆ กันหมด

นอกจากนี้ ภายในศาลายังพบชาย และหญิงชาวไทยที่อ้างว่าเป็นผู้ปกครองของเด็กนั่งอยู่ประมาณ 6 คน หนึ่งในนั้นมีนายสมชาย หงษ์ชฎา อายุ 43 ปี ที่ตามข้อมูลระบุว่าเป็นคนคอยขับรถจักรยานยนต์พ่วงข้างพาเด็กๆ ไปนั่งขอทานในย่านสถานบันเทิงในเมืองพัทยา เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวทั้งหมดไว้เพื่อสอบปากคำ และทำการคัดแยก พร้อมกับตรวจสอบว่าเด็กเป็นลูกของตัวเองจริงหรือไม่ เพราะสามี-ภรรยาบางคู่มีลูกอายุไล่เลี่ยกันมากถึง 4-5 คน

นางปวีณา หงสกุล เปิดเผยว่า หลังได้รับการประสานงานจากดีเอสไอ ภาค 2 จึงส่งเจ้าหน้าที่ออกสืบสวนหาข้อมูล และใช้เวลาในการติดตามพฤติกรรมของขบวนการนี้มาระยะหนึ่ง จนพบว่ามีหญิงชาวเขมรคนหนึ่งนำเด็กเล็กๆ ไปส่งตามตลาดนัด และย่านสถานบันเทิงในเมืองพัทยา

ซึ่งต่อมา เจ้าหน้าที่ได้ทำการช่วยเหลือเด็กหญิงชาวกัมพูชาวัย 5 ขวบ ไว้ได้จำนวน 2 คน จากการพูดคุยสอบถามทราบว่า มารดาของทั้งคู่เป็นชาวกัมพูชา ชื่อนางเกีย หรือเล็ก โดยทุกวัน นางเกีย จะพาไปขอทาน และเร่ขายของอยู่เป็นประจำ เมื่อได้เงินมา นางเกีย ก็จะนำไปซื้อยาบ้าและสุราดื่ม แต่หากวันไหนไม่ได้เงินเด็กๆ ก็จะถูกตีอย่างทารุณ

ส่วนแนวทางการสืบสวนยังทราบอีกว่า แก๊งค้ามนุษย์รายนี้ทำกันเป็นขบวนการ ซึ่งมีทั้งชาวไทยและกัมพูชารวมอยู่ด้วย โดยพฤติกรรมจะทำการจัดหาเด็ก และคนพิการ ส่งมาจากประเทศกัมพูชา แล้วแบ่งกันเช่าบ้านอยู่รวม 3 จุด ตามที่ทางเจ้าหน้าที่ได้บุกไปตรวจค้นในวันนี้

นางปวีณา เผยอีกว่า จากการเข้าตรวจค้นช่วยเหลือเหยื่อค้ามนุษย์ในครั้งนี้ เป็นการทำงานร่วมกันแบบบูรณาการของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ตำรวจท่องเที่ยว กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ เป็นการบังคับใช้กฎหมายต่อผู้ค้า หาผลประโยชน์จากเหยื่อ และหลังจากนี้จะเข้าสู่กระบวนการคัดแยกเหยื่อ ช่วยเหลือ ฟื้นฟู ฝึกอาชีพ และส่งกลับ ซึ่งบุคคลเหล่านี้ควรได้รับสิทธิในการดำรงชีวิตให้อยู่ได้ต่อไป โดยไม่ต้องกลับมาขอทานอีก ทั้งนี้ เป็นการส่งเสริมภาพลักษณ์การท่องเที่ยวที่ดีต่อสายตาของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ต่อเมืองพัทยา และประเทศไทยที่มีความมุ่งมั่นในการปราบปรามการค้ามนุษย์อย่างจริงจัง

กำลังโหลดความคิดเห็น