บุรีรัมย์ - คุรุสภาเตรียมลงพื้นที่สอบจรรยาบรรณ ผอ.โรงเรียนหนองไทร และครูบุรีรัมย์อีก 2 คนมีชื่อเข้าสอบบรรจุครูผู้ช่วย หากพบประพฤติมิชอบต่อวิชาชีพหรือทุจริตสอบบรรจุครูผู้ช่วยจริง ลงโทษสถานหนักถึงขั้นเพิกถอนใบประกอบวิชาชีพครู หลังผลสอบเบื้องต้นพบผิด 3 กระทง
วันนี้ (24 เม.ย.) ความคืบหน้ากรณีที่คณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง ที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) บุรีรัมย์ เขต 1 แต่งตั้งขึ้น ได้สรุปผลการสอบข้อเท็จจริง และชี้มูลว่า นายพิทักษ์ ศุภเลิศ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านหนองไทร ต.ลุมปุ๊ก อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ เข้าสอบบรรจุครูผู้ช่วยที่สนามสอบ จ.สมุทรสาคร ได้กระทำผิดจริง 3 กระทง คือ ไปสอบบรรจุครูผู้ช่วยโดยไม่ขออนุญาตต้นสังกัด ซึ่งผิดระเบียบแบบแผนของทางราชการ, เปิดติวข้อสอบโดยขัดคำสั่งผู้บังคับบัญชา เนื่องจากตามระเบียบห้ามข้าราชการครูหรือผู้บริหารโรงเรียนเปิดติวข้อสอบโดยเด็ดขาด และยังมีพฤติการณ์ปกปิดสถานะของตัวเองในการกรอกเอกสารประกอบการสมัครสอบ โดยเตรียมตั้งคณะกรรมการสอบเอาผิดวินัยต่อนายพิทักษ์นั้น
ล่าสุดทางสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นฐาน (สพฐ.) ได้สั่ง สพป.บุรีรัมย์ เขต 1 ชะลอการตั้งกรรมการสอบเอาผิดวินัยต่อนายพิทักษ์ไว้ก่อน เพราะทาง สพฐ.จะแต่งตั้งคณะกรรมการฯ ลงมาสอบข้อเท็จจริงเชิงลึกในพื้นที่อีกครั้งว่ามีการกระทำทุจริตสอบครูผู้ช่วยเป็นขบวนการหรือไม่ก่อนจะพิจารณาบทลงโทษ
นายสุพจน์ เจียมใจ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (ผอ.สพป.)บุรีรัมย์ เขต 1 กล่าวว่า ถึงแม้ทาง สพฐ.จะสั่งให้ชะลอการตั้งคณะกรรมการสอบเอาผิดวินัยต่อนายพิทักษ์ไว้ก่อนเพื่อจะส่งกรรมการลงมาสอบในเบื้องลึกอีกครั้ง แต่ล่าสุดทราบว่าทางสำนักงานเลขาธิการคุรุสภา กระทรวงศึกษาธิการ ก็จะมีการส่งเจ้าหน้าที่ลงมาสอบสวนด้านจรรยาบรรณต่อ นายพิทักษ์ ศุภเลิศ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านหนองไทร และนายชุมพล ศุภเลิศ ครูโรงเรียนเมืองแฝกพิทยาคม อ.ลำปลายมาศ ซึ่งเป็นน้องชายของนายพิทักษ์ และนายธนกฤต ศุภเลิศ ครูโรงเรียนบ้านหนองกระทุ่ม อ.คูเมือง ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้อง ทั้ง 3 คนว่าประพฤติผิดจรรยาบรรณครูหรือไม่
“หากพบข้อมูลหลักฐานว่าทั้ง 3 ประพฤติผิดร้ายแรง หรือกระทำทุจริตสอบบรรจุครูจริง ก็จะถูกลงโทษสถานหนักถึงขั้นเพิกถอนใบประกอบวิชาชีพครู” นายสุพจน์กล่าว
