กาญจนบุรี - รวบแล้วไอ้โหดฆ่าข่มขืนหญิงชราวัย 75 ปี สารภาพเมาเข้าบ้านกลางดึกหวังฉกทรัพย์ เห็นคนตายนอนอยู่ลำพังจึงเกิดอารมณ์ทางเพศ กระโดดขึ้นคร่อมหวังข่มขืน แต่หญิงชราคว้ามีดใต้หมอนสู้แต่โดนตนแย่งมีดได้ก่อนจ้วงดับคาที่แล้วลงมือข่มขืน 1 ครั้ง ก่อนเผ่นไปทำงานตามปกติ ส่วนเพื่อนวัย 17 ปี ยังปฏิเสธ
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีคนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธมีดกระหน่ำแทงนางสมไทร ดาปาน หญิงชราวัย 75 ปี เสียชีวิตบนเตียงนอน บ้านเลขที่ 78 /1 หมู่ 8 บ้านสามัคคีธรรม ต.ลุ่มสุ่ม อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ต่อมา นายวิศาล ดาปาน อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 175 หมู่ 5 ต.สิงห์ อ.ไทรโยค ลูกชายเดินทางมาเยี่ยมในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา จึงพบว่าแม่ถูกคนร้ายแทงเสียชีวิตจึงรีบแจ้งให้ตำรวจ สภ.ไทรโยค มาตรวจสอบ เหตุเกิดวันที่ 16 เม.ย.ที่ผ่านมา และจากการชันสูตรพลิกศพพบมีร่องรอยของการข่มขืน ภายในห้องพบสิ่งการรื้อค้นจนสิ่งของตกกระจัดกระจาย เงินสด จำนวน 1,200 บาท และโทรศัพท์มือถือยี่ห้อซัมซุง ฮีโร่ ของผู้ตายหายไป
หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.กมลสันติ กลั่นบุศย์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) กาญจนบุรี ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.วีระ วิจิตรหงส์ ผกก.สส.ภ.จว.กาญจนบุรี พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน กก.สส.ภ.จว.กาญจนบุรี ร่วมกับ พ.ต.อ.บัณฑิต ม่วงสุขำ ผกก.สภ.ไทรโยค พ.ต.ท.วัตรชัย รอดไหม รอง ผกก.สส.สภ.ไทรโยค พ.ต.ท.เชาวฤทธิ์ อินทรกอุดม พงส.ผู้ชำนาญการพิเศษ สภ.ไทรโยค พ.ต.ท.สนธยา ฉายเกียรติขจร สว.สส.สภ.ไทรโยค พ.ต.ท.อิทธิพัตร์ เอกตาแสง สวป.สภ.ไทรโยค พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องเร่งลงพื้นที่หาพยาน และหลักฐานเพื่อติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว เนื่องจากผู้บังคับบัญชาระดับสูง และประชาชนในพื้นที่ให้ความสนใจในคดีดังกล่าวเป็นอย่างมาก
ล่าสุด เมื่อเวลา 11.30 น. วันนี้ (21 เม.ย.) พล.ต.ต.กมลสันติ กลั่นบุศย์ ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี เปิดเผยว่า สำหรับแนวทางการสืบสวนเพื่อติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุนั้น เจ้าหน้าที่ขอปิดเอาไว้เป็นความลับเนื่องจากเกรงว่าจะส่งผลกระทบต่อข้อมูลแนวทางการสืบสวนในอนาคต และเจ้าหน้าที่สามารถติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุดังกล่าวได้แล้ว คือ นายสมร หรือมอญ สาระทอง อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 11 หมู่ 3 ต.บ้านดู อ.ปางกู จ.ศรีสะเกษ เป็นลูกจ้างร้านขายวัสดุก่อสร้างชื่อดังแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.ท่าม่วง และมีเยาวชนเป็นชาย อายุ 17 ปี อีก 1 รายที่คาดว่าจะมีส่วนเกี่ยวข้อง แต่ขอปิดรายชื่อเอาไว้ก่อนเนื่องจากเป็นเยาวชน
โดยก่อนเข้าจับกุมได้ประสานไปที่ พ.ต.อ.ชูยศ ทองอยู่ ผกก.สภ.ท่าม่วง และ ร.ต.ท.ยุทธนา เมตตา หน.นปพ.ภ.จว.กาญจนบุรี ให้นำกำลังไปสมทบกับเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจังหวัดกาญจนบุรี เดินทางไปที่ร้านขายวัสดุก่อสร้างที่คนร้ายทำงานอยู่ เมื่อพบตัวนายสมร หรือมอญ และนายบี (นามสมมติ) อายุ 17 ปี บ้านอยู่หมู่ 3 ต.บ้องตี้ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี จึงเชิญตัวทั้ง 2 คนมาสอบปากคำที่ สภ.ไทรโยค โดยขณะที่นายสมร เห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางไปถึง ถึงกับตกใจหน้าซีด พร้อมทั้งกล่าวยอมรับแต่โดยดีว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุใช้อาวุธมีดแทงนางสมไทร ดาปาน จนเสียชีวิตจริง
จากการสอบสวนนายสมร หรือมอญ ผู้ต้องหาสารภาพว่า เมื่อวันที่ 14 เม.ย.ที่ผ่านมา ตนกับเพื่อนคือนายบี ได้นั่งรถไฟจากสถานีรถไฟอำเภอท่าม่วง มาลงที่สถานีรถไฟวังโพธิ์ อ.ไทรโยค จากนั้นตนทั้งสองได้นั่งรถจักรยานยนต์รับจ้างไปที่บ้านนายบี หลังจากทำธุระเสร็จ ตนกับนายบี ได้จ้างรถจักรยานยนต์รับจ้างให้ไปส่งที่บ้านแฟนสาว ที่อยู่ หมู่ 3 ต.ลุ่มสุ่ม อ.ไทรโยค
เมื่อไปถึงก็ได้ซื้อสุรา และกับแกล้มมานั่งดื่มกันที่บ้านแฟนสาว จนเมาได้ที่ เวลาประมาณ 3 ทุ่มเศษ ตนกับนายบี จึงเดินทางกลับ ส่วนแฟนสาวเข้านอนที่บ้าน ขากลับไม่มีรถจึงตัดสินใจเดินเท้ากลับบ้านพร้อมกับนายบี โดยวางแผนว่าจะไปนอนบ้านเพื่อนที่อยู่หมู่ 8 บ้านสามัคคีธรรม ต.ลุ่มสุ่ม อ.ไทรโยค ระหว่างทางเมื่อเห็นบ้านผู้ตาย จึงบอกให้นายบี ยืนรอต้นทางอยู่ข้างนอก โดยตนบอกว่าจะเข้าไปหาเงินใช้
จากนั้นตนจึงปีนเข้าไปทางห้องครัวหลังบ้านแล้วเข้าไปในห้องนอน และเห็นผู้ตายนอนอยู่บนเตียงเพียงลำพังจึงเกิดอารมณ์ทางเพศขึ้นมา และลงมือหวังจะข่มขืน ด้วยการขึ้นคร่อม แล้วใช้มือปิดปาก และกระซิบบอกผู้ตายห้ามโวยวาย เมื่อผู้ตายลืมตาขึ้นมาเห็นพยายามร้องโวยวาย จึงใช้มือขวาบีบเข้าที่คอเพื่อไม่ให้ส่งเสียง จากนั้นผู้ตายได้คว้ามีดปลายแหลมที่ซุกเอาไว้ใต้หมอนออกมาแล้วแทงใส่ตนแต่ไม่โดน
ด้วยความโมโหจึงแย่งมีดที่อยู่ในมือหลังจากแย่งมาได้ตนได้จ้วงแทงผู้ตายไป 2 ครั้ง จนผู้ตายแน่นิ่ง และเสียชีวิต จากนั้นอุ้มร่างที่โชกไปด้วยเลือดไปที่ห้องนอนที่อยู่ใกล้กัน โดยวางไว้บนฟูก และลงมือข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ไปหนึ่งครั้ง หลังเสร็จกิจก็อุ้มไปไว้ที่เดิมโดยมีมุ้งกางเอาไว้ ก่อนกลับได้รื้อค้นหาทรัพย์สิน ได้เงินสด จำนวน 1,200 บาท และโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่องแล้วหลบหนีออกด้านหลังบ้าน และมาหานายบี ที่รออยู่ข้างนอก
ระหว่างทางได้ถอดเสื้อยืดคอกลมแขนสั้นสีฟ้าที่เปื้อนเลือดออกแล้วโยนทิ้งป่าละเมาะข้างทาง และใส่เสื้อคลุมแขนยาวสีดำที่นำติดตัวไปด้วยแทน และไปขอนอนบ้านเพื่อนที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 2 กิโลเมตร จนกระทั่งเช้าของวันที่ 15 เม.ย.จึงไปขึ้นรถไฟกลับไปทำงานตามเดิม และทำตัวเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น โดยนายบี ที่ทำงานอยู่ด้วยกันเดินทางกลับไปด้วย
ก่อนก่อเหตุตนคิดเพียงแค่ต้องการเข้าไปขโมยทรัพย์สินเท่านั้น แต่เมื่อเห็นผู้ตายนอนอยู่ในห้องคนเดียวจึงเกิดอารมณ์ทางเพศขึ้นมา จึงลงมือข่มขืน แต่ผู้ตายพยายามต่อสู่ด้วยการใช้อาวุธมีดแทง จึงแย่งมา และจ้วงแทงจนเสียชีวิต จากนั้นจึงลงมือข่มขืนในภายหลัง
ด้าน พ.ต.อ.บัณฑิต ม่วงสุขำ ผกก.สภ.ไทรโยค เปิดเผยว่า จากการสอบสวน นายบี อายุ 17 ปี เบื้องต้นให้การว่า หลังจากนั่งดื่มเหล้าจนเมาได้ที่ จากนั้นนายสมร ได้ชวนตนกลับ และจะไปนอนบ้านเพื่อนที่อยู่หมู่ 5 บ้านสามัคคีธรรม ห่างออกไปประมาณ 2 กิโลเมตร ด้วยการเดินเท้าไป เมื่อถึงบ้านของผู้ตาย อยู่ๆ นายสมร ก็บอกให้ตนยืนรออยู่ที่พุ่มไม้หน้าบ้าน ด้วยความสงสัยจึงถามว่าจะไปไหน นายสมร ตอบกลับมาว่าจะเข้าไปหาเงินใช้
จากนั้นนายสมร ก็เดินไปทางหลังบ้าน และปีนเข้าไปภายในบ้านทันที ขณะที่ตนรออยู่ก็ได้ยินเสียงผู้หญิงร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ไม่นานเสียงก็เงียบไป สักพักนายสมร ก็เดินออกมาในสภาพมือทั้งสองข้าง และเสื้อผ้าที่เต็มไปด้วยเลือด ด้วยความสงสัยตนจึงสอบถามว่า ไปทำอะไรมาทำไม้เสื้อผ้า และมือเต็มไปด้วยเลือด นายสมร บอกว่าเพิ่งใช้อาวุธมีดฆ่าคนแก่มา สร้างความตกใจให้แก่ตนเป็นอย่างมาก จากนั้นไม่กล้าถามอีกเลย จึงตัดสินใจเดินทางต่อ
ระหว่างทางนายสมร ได้ยื่นเงินสด 100 บาท ให้ตน 5 ใบ โดยบอกตนว่าเป็นเงินส่วนแบ่ง แต่ตนไม่ได้สอบถามอะไรอีก จนกระทั่งไปถึงบ้านเพื่อนจึงเรียกแล้วเข้าไปนอนภายในบ้านรอจนเช้าจึงเดินทางกลับไปทำงานตามปกติ นายบี ยังกล่าวอีกว่า เหตุการณ์ดังกล่าวตนขอปฏิเสธว่าไม่มีส่วนรู้เห็น และไม่เห็นต่อการกระทำของนายสมร แต่อย่างใด
พ.ต.อ.บัณฑิต ม่วงสุขำ ผกก.สภ.ไทรโยค เปิดเผยต่อว่า จากการให้ปากคำของนายบี เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ เนื่องจากคำนั้นขัดแย้งกัน โดยนายสมร สารภาพว่าก่อนลงมือก่อเหตุ นายสมร ได้สั่งให้นายบี เฝ้ารอดูต้นทาง และจะสอบสวนเพิ่มเติมอีกครั้งหนึ่ง ทั้งนี้พนักงานสอบสวนได้ตั้งข้อหาต่อนายสมร รวม 3 ข้อหา คือ 1.เข้าไปลักทรัพย์ในเคหสถานเวลากลางคืน 2.ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่น และ 3.ฆ่าคนตายโดยเจตนา และไตร่ตรองไว้ล่วงหน้า
รายงานข่าวว่า หลังจากนายสมร หรือมอญ ผู้ต้องหายอมรับสารภาพเจ้าหน้าที่ได้คุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่บ้านผู้ตาย โดยนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 30 นาย ไปเฝ้าดูแลความปลอดภัย เนื่องจากเกรงว่าญาติของผู้ตาย รวมทั้งชาวบ้านที่ทราบข่าว และไปดูหน้าคนร้ายขณะทำแผนจะเกิดความแค้นเข้ารุมทำร้ายผู้ต้องหา แต่เหตุการณ์ก็ไม่เกิดขึ้น เจ้าหน้าที่สามารถคุมตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพผ่านไปด้วยดี โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงจึงแล้วเสร็จ จากนั้นจึงนำผู้ต้องหามาขังที่ สภ.ไทรโยค เพื่อรอทำตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
