กาญจนบุรี - ชาวนากาญจนบุรี วัย 58 ปี ยัวะเพื่อนบ้านวัย 73 ปี ปล่อยน้ำท่วมนาจนการเกิดชกต่อยกันขึ้น เพื่อนบ้านแก่กว่าสู้ไม่ไหว ลูกชายวัย 40 ปี จึงเข้าช่วยชักมีดจ้วงแทงหน้าอกสาหัส ไปดับที่โรงพยาบาล ขณะที่มือมีดเข้ามอบตัวต่อตำรวจแล้ว ภายหลังหลบหนีไปตั้งหลัก
เมื่อเวลา 08.30 น. วันนี้ (12 มี.ค.) ร.ต.ท.เสกสรร รัมมะอรรต พนักงานสอบสวน สภ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลสมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 19 ว่า มีคนถูกอาวุธมีดแทงเข้าที่หน้าอกขวา 1 แผล พลเมืองดีนำมาส่งโรงพยาบาลอาการสาหัส คณะแพทย์พยายามช่วยเหลือชีวิตอย่างเต็มที่ แต่ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมาที่โรงพยาบาล หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ
จากนั้นจึงนำกำลังไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ชูเลิศ ทองอยู่ ผกก.สภ.ท่าม่วง พ.ต.อ.พิพัฒน์ รุ่งสัมพันธ์ พนักงานสอบสวนผู้ทรงคุณวุฒิ สภ.ท่าม่วง พ.ต.ท.ศิริ นิราภรณ์ พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการพิเศษ สภ.ท่าม่วง พ.ต.ต.ชาญ คำอารีย์สกุล สว.สส.สภ.ท่าม่วง พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ท่าม่วง และมูลนิธิมิราเคิล ออฟไลฟ์ ประจำจังหวัดกาญจนบุรี
ทราบชื่อผู้เสียชีวิต คือ นายขวัญเมือง สร้อยสกุณี อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 34/2 บ้านดอนคราม หมู่ 3 ต.เขาน้อย อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี โดยมีนายเกษม สร้อยสกุณี อายุ 52 ปี น้องชายเป็นผู้นำตัวส่งโรงพยาบาล และรอให้การต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ส่วนเหตุเกิดที่บริเวณกลางทุ่งนาพื้นที่ หมู่ 5 ต.เขาน้อย อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี ซึ่งเป็นที่นาของผู้ตาย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแบ่งกำลังไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
สำหรับคนร้ายที่ก่อเหตุ คือ นายเนื่อง วงศิลป์ อายุ 73 ปี กับนายสามารถ หรือหมู วงศิลป์ อายุ 40 ปี 2 พ่อลูก อยู่บ้านเลขที่ 92/2 หมู่ 7 ต.เขาน้อย อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี ขณะนี้อยู่ระหว่างการหลบหนี ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดี
นายเกษม สร้อยสกุณี น้องชายผู้ตายให้การว่า ช่วงเช้าที่ผ่านมา หลานสาวของตนโทรศัพท์มาบอกว่าพี่ชายของตนถูกคนร้ายใช้อาวุธมีดแทงเข้าที่หน้าอกขวา ได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส และล้มฟุบอยู่กลางทุ่งนา หลังทราบข่าวตนจึงรีบขับรถยนต์กระบะไปที่ทุ่งนาเพื่อช่วยเหลือชีวิตพี่ชาย
เมื่อไปถึงเห็นพี่ชายล้มฟุบจมกองเลือดอยู่ริมคันนาเสื้อผ้าเปียกปอนเนื่องจากมีน้ำขังอยู่ โดยมีนายเนื่อง วงศิลป์ อายุ 73 ปี และนายสามารถ หรือหมู วงศิลป์ อายุ 40 ปี 2 พ่อลูกยืนดูร่างของพี่ชายตนอยู่ ในมือของนายสามารถ หรือหมู ถือมีดเปื้อนเลือดอยู่ 1 เล่ม ตนจึงตะโกนถามทั้ง 2 ว่าเกิดอะไรขึ้นกับพี่ชายของตน
นายสามารถ หรือหมู อ้างแก่ตนว่าพี่ชายขอตนมีเรื่องชกต่อยกันกับพ่อนายหมู แต่พ่อของนายหมู สู้พี่ชายตนไม่ได้ นายหมู เห็นท่าไม่ดี จึงชักเอามีดที่พกมาด้วยแทงเข้าที่หน้าอกของพี่ชายตนจนลุ้มฟุบคาที่นา ด้วยความโมโห ตนจึงตะโกนด่า 2 พ่อลูกพร้อมทั้งกระโดดเตะนายหมูไป 1 ที แต่ทั้ง 2 ไม่ยอมสู้ และได้เดินหลบหนีไป จากนั้นตนจึงรีบอุ้มร่างของพี่ชายมาขึ้นรถยนต์กระบะและขับมาส่งที่โรงพยาบาลเพื่อให้แพทย์ช่วยเหลือชีวิต เพราะความเป็นห่วงอาการของพี่ชายจึงไม่ทันได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาจับกุม แต่สุดท้ายพี่ชายก็เสียชีวิตจนได้
ด้านนายสมชาย ศรีมุขก์ อายุ 38 ปี ลูกเขยนายขวัญเมือง ผู้ตายเล่าว่า บ้านของพ่อตาอยู่ติดกันกับบ้านของนายเนื่อง อีกทั้งยังมีที่นาติดกันอีก
สำหรับที่นาของ 2 พ่อลูกอยู่ติดกับลำห้วยที่มีน้ำอยู่เป็นจำนวนมาก ส่วนที่นาของพ่อตาไม่มีลำห้วยผ่านเพราะอยู่ด้านหลังที่นาของนายเนื่อง พ่อตาจึงจำเป็นต้องไปขอทำท่อสูบน้ำจากลำห้วยผ่านที่นานายเนื่อง แต่นายเนื่อง กับลูกชายไม่ยอม จึงเกิดการโต้เถียง และเมื่อเห็นหน้ากันก็จะทะเลาะกันมาโดยตลอด เพื่อแก้ปัญหาเรื่องสูบน้ำเข้าที่นา พ่อตาจึงตัดสินใจไปขอทำท่อสูบน้ำเข้าที่นาผ่านที่นาของเพื่อนบ้านที่อยู่ห่างออกไป ซึ่งเพื่อนบ้านคนดังกล่าวก็ไม่ได้ว่าอะไรและอนุญาตให้ทำได้
และช่วงเช้าที่ผ่านมา พ่อตา ได้ขับรถไถปรับหน้าดินเพื่อเตรียมนำต้นกล้าไปปลูกข้าวตามลำพัง และหลังจากที่ตนได้รับแจ้งว่าพ่อตาถูกแทงบาดเจ็บ ตนกับภรรยา พร้อมด้วยน้องชายพ่อตา จึงรีบมาที่เกิดเหตุ และชาวบ้านที่ทำนาอยู่ใกล้กันเห็นเหตุการณ์จึงเล่าให้ฟังว่า เมื่อพ่อตาขับรถไถมาถึงเห็นในนามีน้ำท่วมขังเป็นจำนวนมาก ทำให้ไม่สามารถนำรถไถลงไปไถปรับที่นาได้
และเมื่อพ่อตามองเห็นนายเนื่อง กับนายหมู่ 2 พ่อลูกกำลังยืนดูจุดที่น้ำไหลเข้ามาท่วมที่นา จึงเดินเข้าไปหา และตะโกนถาม 2 พ่อลูกว่า ทำไม่ต้องแกล้งปล่อยน้ำเข้ามาท่วมที่นาของตนด้วย จากนั้นจึงเกิดการโต้เถียงอย่างรุนแรง และมีการชกต่อยกันเกิดขึ้นระหว่างพ่อตา กับนายเนือง โดยมีนายหมู ลูกชายยืนดูอยู่ เมื่อนายหมู เห็นพ่อสู้ไม่ได้จึงเข้ามาช่วยเหลือพร้อมทั้งนำเอาอาวุธมีดที่พกมาด้วยแทงเข้าที่หน้าอกของพ่อตาตนจนล้มฟุบจมกองเลือด
ล่าสุด เมื่อเวลาประมาณ 13.00 น.นายเนื่อง วงศิลป์ อายุ 73 ปี และนายสามารถ หรือหมู วงศิลป์ อายุ 40 ปี 2 พ่อลูก ได้เดินทางเข้ามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าม่วงแล้ว โดยมี พ.ต.อ.ชูเลิศ ทองอยู่ ผกก.สภ.ท่าม่วง พ.ต.อ.พิพัฒน์ รุ่งสัมพันธ์ พนักงานสอบสวนผู้ทรงคุณวุฒิ สภ.ท่าม่วง เป็นผู้รับตัว และอยู่ระหว่างการสอบสวนเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง