ศูนย์ข่าวศรีราชา - โรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา ยังครองตำแหน่งโรงพยาบาลเอกชนที่มีรายได้สูงเป็นอันดับ 4 ของประเทศ โดยปี 2556 มีรายได้ 3.4 พันล้าน กำไร 19% กว่า 60% เป็นคนไข้ต่างชาติ ขณะที่ปี 2557 ตั้งเป้ารายได้กว่า 3.8 พันล้าน จากการขยายตัวของกลุ่มคนไข้ชาวไทย และกลุ่มผู้มีบุตรยากในประเทศจีนที่กำลังเป็นตลาดใหญ่ และมาแรง
นายแพทย์พิชิต กังวลกิจ ประธานคณะผู้บริหารกลุ่มโรงพยาบาลกรุงเทพภาคตะวันออก และผู้อำนวยการโรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานปี 2556 ว่า มีรายได้ 3.4 พันล้านบาท กำไรสุทธิประมาณ 19% ซึ่งรายได้กว่า 60% มาจากกลุ่มคนไข้ต่างประเทศที่เข้ามาอาศัย และท่องเที่ยวในเมืองพัทยา และในปี 2557 ตั้งเป้ารายได้ต้องมีไม่ต่ำกว่า 3.8 พันล้านบาท และต้องมีอัตราการเติบโตทางธุรกิจไม่น้อยกว่า 14% ผลกำไรกว่า 20%
“เมื่อดูจากภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของเมืองพัทยาช่วงไตรมาสแรกของปี 2557 พบว่าการเข้าใช้บริการรักษาของกลุ่มคนไข้ชาวไทยเพิ่มมากขึ้น ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะการเกิดโรคไข้หวัดใหญ่ระบาดในเขตภาคกลาง และตะวันออก ทำให้มีการเข้ารับการรักษามากขึ้น โดยพบว่าตั้งแต่เดือนมกราคม ถึงเมษายน ยอดการเข้ารับการรักษาเพิ่มถึง 10% ส่วนหนึ่งยังเกิดจากการย้ายถิ่นฐานเข้ามาทำงานในเมืองพัทยา และการขยายกิจกรรมของผู้ประกอบการต่างๆ ซึ่งเป็นเครื่องบ่งชี้ได้ดีว่าภาวะเศรษฐกิจในเมืองพัทยายังดีอยู่”
นายแพทย์พิชิต กล่าวว่า สถานการณ์ทางการเมืองทำให้ภาพรวมการเติบโตของโรงพยาบาลเอกชนทั่วประเทศลดลง คาดว่าปีนี้กลุ่มคนไข้ต่างชาติจะลดลง 5-10% แต่โรงพยาบาลก็มีแผนขยายตลาดกลุ่มคนไข้ในส่วนผู้มีบุตรยาก ซึ่งในปีนี้โรงพยาบาลพร้อมเปิดศูนย์ให้บริการผู้มีบุตรยากแบบครบวงจร โดยจะมีทั้งแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เครื่องมือทางการแพทย์ ห้องแล็บเพาะเลี้ยงตัวอ่อน และห้องผสมเทียม
และมีแผนเจาะตลาดผู้มีบุตรยากในประเทศจีน ซึ่งกำลังเป็นตลาดใหญ่ และมีกลุ่มคนไข้ดังกล่าวค่อนข้างเยอะ ที่ผ่านมา โรงพยาบาลได้ส่งเจ้าหน้าที่เดินทางไปจัดโรดโชว์ในเมืองเซี่ยงไฮ้มาแล้ว 2 ครั้ง โดยยังร่วมมือกับโรงพยาบาลเอกชนในประเทศจีน จัดประชุมทางไกลเพื่อเผยแพร่ข้อมูล และนัดหมายคนไข้เพื่อเดินทางมารักษาในประเทศไทยด้วย
“ปีนี้เราเพิ่มเครื่องมือทางการแพทย์ในการตรวจหามะเร็งเต้านมแบบดิจิตอล ซึ่งเป็นการลงทุนนำเทคโนโลยีล่าสุดมาใช้ ภายใต้งบประมาณ 25 ล้านบาท เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการตรวจหา และรองรับการแข่งขัน”