ประจวบคีรีขันธ์ - กระทรวงการต่างประเทศ นำผู้แทน ส.ส. ส.ว. ผู้แทนพรรคการเมือง ผู้บริหารสื่อมวลชนพม่า ตามโครงการสร้างความสัมพันธ์กับผู้นำรุ่นใหม่ของประเทศเพื่อนบ้าน เยี่ยมประจวบคีรีขันธื คาดเปิดด่านถาวรสิงขร ส่งผลมูลค่าการค้าจาก 100 ล้าน เพิ่มเป็นหมื่นล้านต่อปี
วันนี้ (11 เม.ย.) น.ส.ใจไทย อุปการนิติเกษตร นักการทูตชำนาญการ กองเอเชียตะวันออก กระทรวงการต่างประเทศ น.ส.ลัสพรรณ ตุ้มสวัสดิ์ เลขานุการเอกสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงย่างกุ้ง นำคณะผู้แทนสมาชิกรัฐสภา ผู้แทนพรรคการเมือง ผู้บริหารองค์กรด้านสื่อมวลชนพม่า เดินทางมาตามโครงการสร้างความสัมพันธ์กับผู้นำรุ่นใหม่ของประเทศเพื่อนบ้าน มีนาย AUNG MYA THAN สมาชิกสภาประชาชนเป็นหัวหน้าคณะ โดยได้ลงดูพื้นที่ด่านสิงขรฝั่งไทย และบ้านมูด่อง ฝั่งพม่า มีนายวีระ ศรีวัฒนตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายสมมิตร ศิลป์ประเสริฐ รองผู้ว่าราชการจังหวัด นายสิริวุฒิ เหมทัต รองผู้ว่าราชการจังหวัด นายปราโมทย์ สำเภาเงิน ปลัดจังหวัด นายศุรอัฐ ณรงค์ฤทธิ์ ประธานหอการค้าจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมหัวหน้าส่วนราชการให้การต้อนรับ
นายวีระ กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่ทางคณะผู้นำรุ่นใหม่ของพม่าให้ความสนใจเดินทางมาศึกษาดูงานที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งไทย และพม่าเป็นเพื่อนบ้านที่ดีต่อกันมาช้านาน ในส่วนของการผลักดันจุดผ่อนปรนทางการค้าช่องสิงขร ให้เป็นจุดผ่านแดนถาวรนั้น ขณะนี้คณะกรรมการชายแดนไทย-พม่า อยู่ระหว่างร่วมลงนามรับรองเขตแดน ซี่งทางพม่าได้ถอยแนวเขตเข้าไป 25 เมตรแล้ว จึงเป็นสัญญาณที่ดีระหว่าง 2 ประเทศ เพราะหากมีการลงนามของคณะกรรมการ 2 ฝ่ายเสร็จสิ้นโดยเร็ว จะทำให้ฝ่ายไทย เปิดด่านถาวรช่องสิงขรได้เร็วเท่านั้น ซึ่งจะนำไปสู่การค้าขายชายแดน ส่งผลต่อเศรฐกิจของทั้ง 2 ประเทศตามมา จากเดิมมูลค่าการค้า 100 ล้านบาทต่อปี อาจเพิ่มเป็น 1 หมื่นล้านบาท
นาย AUNG MYA THAN กล่าวว่ าการเดินทางมาศึกษาดูงานครั้งนี้มีประโยชน์เป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะพม่ามีการปฏิรูปประเทศ เริ่มมีการปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย มีทั้งสมาชิกสภาวุฒิสภา ส.ส. ซึ่งโครงสร้างคล้ายกับสภาของประเทศไทย อย่างไรก็ตาม อยากได้ความรู้เรื่องภาคการเกษตร การเพาะปลูก เมล็ดพันธุ์
“การที่ 2 ประเทศจะร่วมกันเปิดด่านการค้าชายแดนจุดต่างๆ รวมถึง จ.ประจวบคีรีขันธ์ เป็นเรื่องที่ดี ซึ่งหลังจากเดินทางกลับไปแล้วจะนำประเด็นเรื่องการรับรองแนวเขตไปเพื่อผลักดันให้แล้วเสร็จโดยเร็ว”