xs
xsm
sm
md
lg

จุดเสี่ยงการเดินทาง 314 กำลังก่อสร้าง หวั่นเกิดอุบัติเหตุทำการจราจรคับคั่งช่วงเทศกาล (ชมคลิป)

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ฉะเชิงเทรา - แขวงการทางแปดริ้วเชื่อ 314 ผู้คนแห่ใช้ทะลักออกจากเมืองกรุงช่วงเทศกาลสงกรานต์ หวั่นเสี่ยงอันตราย เหตุจากรองรับปริมาณรถเกินกว่าเกณฑ์มาตรฐานถึงกว่า 6 เท่าตัวต่อวัน อีกทั้งยังอยู่ระหว่างการก่อสร้างขยายเส้นทางปรับปรุงพื้นผิวการจราจร แนะให้ใช้เส้นทางสำรองหลบเลี่ยง

คลิกเพื่อชมคลิป



วันนี้ (10 เม.ย.) นายชาติพงษ์ รตโนภาส รักษาการในตำแหน่ง ผอ.แขวงการทางฉะเชิงเทรา กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมในการรับมือปัญหาด้านการจราจร และความปลอดภัยของประชาชน จากการใช้เส้นทางหลวงแผ่นดินผ่านพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา โดยเฉพาะเส้นทางสาย 314 (บางปะกง-ฉะเชิงเทรา) ที่มีการจราจรคับคั่ง และติดขัดอย่างหนักในทุกช่วงเทศกาล นับตั้งแต่เมื่อช่วงปลายปี 2554 เป็นต้นมา หลังจากเกิดภาวะน้ำท่วมใหญ่ จนทำให้มีผู้คนเข้ามาใช้เส้นทางในขณะนั้นมากถึง 2-3 หมื่นคันต่อวัน

ขณะที่ถนนสาย 314 นั้น สามารถรองรับการสัญจรของรถยนต์ผ่านในเส้นทางได้เพียงวันละ ประมาณ 8,000 คันต่อวัน ต่อ 4 ช่องจราจร แต่ปัจจุบันกลับมีรถเข้ามาใช้เส้นทางมากถึงกว่า 4-5 หมื่นคันต่อวัน โดยเฉพาะในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ซึ่งเกินกว่าระดับมาตรฐานของถนนที่จะรองรับได้ไปอีกหลายเท่าตัว โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลนั้นจะยิ่งทำให้มีรถเข้ามาใช้เส้นทางจำนวนมากถึงกว่า 5-6 หมื่นคันต่อวัน ที่ลงมาจากมอเตอร์เวย์สาย 7 จากรถทั้งหมดที่เข้าสู่ในเส้นทางสายมอเตอร์เวย์ 7-8 หมื่นคัน ก็จะยิ่งทำให้เกิดปัญหาเกิดขึ้นติดตามมาอย่างมากมาย ทั้งปัญหาด้านความแออัดของการจราจร ปัญหาการเกิดอุบัติเหตุในเส้นทาง

โดยเฉพาะในขณะนี้ ถนนสาย 314 ยังอยู่ในช่วงระหว่างการก่อสร้างขยายช่องทางการจราจรจาก 4 ช่องจราจร เป็น 6 ช่องจราจร และ 8 ช่องจราจร ในจุดที่เป็นแหล่งชุมชนอีกด้วย ก็จะยิ่งทำให้เกิดปัญหาด้านการจราจรมากยิ่งขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทางแขวงฯ ได้มีการสั่งการขอให้ทางผู้รับเหมาหยุดการดำเนินการก่อสร้าง และเคลียร์พื้นผิวการจราจรให้รถสามารถสัญจรผ่านเส้นทางได้สะดวกในช่วงเทศกาล ระหว่างวันที่ 10-17 เม.ย.57 ไปก่อน จำนวน 4 ช่องทางตามเดิม โดยให้เปิดช่องทางการจราจรให้แล้วเสร็จภายในวันนี้ เพื่อรองรับการสัญจรของประชาชนที่จะเดินทางออกจากกรุงเทพฯ

หากประชาชนต้องการที่จะเข้ามาใช้เส้นทางถนนสาย 314 เดินทางออกจากกรุงเทพฯ นั้น ก็ให้ใช้เส้นทางด้วยความระมัดระวัง เพราะเส้นทางยังอยู่ระหว่างการก่อสร้าง พื้นผิวการจราจรมีความต่างระดับ และไม่ควรใช้ความเร็วสูงเกินกว่า 40-50 กม. ต่อชั่วโมง เพราะสาเหตุของอุบัติเหตุบนเส้นทางส่วนใหญ่นั้นเกิดขึ้นจากผู้ใช้เส้นทางขับรถเร็ว โดยที่ทางแขวงการทางก็จะได้อำนวยความสะดวกด้วยการทำการปักป้าย และติดตั้งสัญญาณเตือนเพื่อความปลอดภัย พร้อมจัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกตลอด 24 ชม.

สำหรับการปรับปรุงขยายผิวการจราจรบนถนนสาย 314 นั้น มีกำหนดให้ผู้รับเหมาเข้ามาดำเนินการในเวลา 700 วัน โดยเริ่มตั้งแต่เมื่อช่วงเดือน ส.ค.56 และจะแล้วเสร็จในเดือน พ.ค.58 ด้วยงบประมาณ 950 ล้านบาท รวมระยะทางที่ดำเนินการ 18 กม. (จาก กม.3- กม.21) ซึ่งหากการก่อสร้างแล้วเสร็จ ถนนสาย 314 ก็จะสามารถรองรับการจราจรได้เพิ่มขึ้นเป็น 14,000 คันต่อวัน ซึ่งก็ยังน้อยกว่าปริมาณรถที่ผ่านในเส้นทางอยู่ดี

สำหรับวิธีแก้ปัญหาการจราจรบนถนนสาย 314 ที่ดีที่สุด และควรเร่งดำเนินการนำเข้ามาใช้เป็นอย่างยิ่ง คือ การสร้างสะพานข้ามแยกใน 3 จุด คือ ที่บริเวณแยกหัวเนิน แยกประเวศฯ และแยกบางพระ ก็จะทำให้รถที่สัญจรในเส้นทางสะสมตัวน้อยลง โดยที่ทางแขวงการทางฉะเชิงเทรา ก็ได้เร่งผลักดัน และได้มีการเสนอเข้าสู่ ครม.สัญจร เมื่อครั้งที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เดินทางเข้ามาร่วมประชุมคณะรัฐมานตรี ที่ จ.ฉะเชิงเทรา เมื่อช่วงต้นปี 2556 ไปแล้ว 

สำหรับแผนการเตรียมการรองรับอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลสงกรานต์ หากมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นจนทำให้เกิดปัญหาด้านการจราจรนั้น ทางแขวงการทางฉะเชิงเทรา ได้มีการเตรียมเส้นทางสำรองไว้ให้ประชาชนได้หลบเลี่ยง คือ เมื่อผู้ใช้เส้นทางลงมาจากมอเตอร์เวย์ (ทางหลวงสาย 7 กรุงเทพฯ-พัทยา) เข้าสู่ถนนสาย 314 แล้ว เมื่อถึงบริเวณ กม.ที่ 7 ให้ทำการเลี้ยวซ้ายเข้าเส้นทางสายรอง มาออกที่บริเวณปากทางแยกคลองประเวศ (แยกลาดกระบัง) ฉะเชิงเทรา-อ่อนนุช

“ส่วนทางเลี่ยงที่ 2 นั้น ให้เลี้ยวเข้าบริเวณทางแยกฝั่งตรงข้ามปากทางเข้าวัดแสนภูดาษ หรือเส้นทางเข้าวัดสามแยก ขึ้นไปยังถนนสายวัดพิมพาวาส มาออกที่บริเวณ กม.20 หรือที่บริเวณปากทางแยกเข้าวัดนาคู ก่อนที่จะเลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนสาย 304 เลี่ยงเมือง (365) โดยที่ทางแขวงฯ นั้น ได้มีการเตรียมรถยกฉุกเฉินไว้เพื่อสแตนด์บาย ตลอด 24 ชม. สำหรับรองรับการเกิดอุบัติเหตุ โดยได้มีการประสานงานกันไว้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง และตำรวจท้องที่ ให้สามารถเข้ามาดำเนินการได้ในทันที” นายชาติพงษ์ กล่าวในที่สุด
กำลังโหลดความคิดเห็น