xs
xsm
sm
md
lg

พบคนอีสานป่วยมะเร็งท่อน้ำดีมากที่สุด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายสุวิทย์ สุบงกฎ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ เป็นประธานเปิดโครงการแก้ไขปัญหาพยาธิใบไม้ตับ และมะเร็งท่อน้ำดี ครั้งที่ 4 ที่อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์
กาฬสินธุ์ - มูลนิธิมะเร็งท่อน้ำดีเผยคนไทยป่วยและเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งท่อน้ำดีปีละกว่า 2 หมื่นราย มากกว่าร้อยละ 80 อยู่ในภาคอีสาน เหตุคนอีสานนิยมรับประทานปลาดิบน้ำจืด ต้นเหตุโรคพยาธิใบไม้ในตับ

วันนี้ (10 เม.ย.) ที่โรงเรียนกมลาไสย อำเภอกมลาไสย จังหวัดกาฬสินธุ์ นายสุวิทย์ สุบงกฎ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ เป็นประธานเปิดโครงการแก้ไขปัญหาพยาธิใบไม้ตับ และมะเร็งท่อน้ำดี ครั้งที่ 4 ซึ่งโครงการนี้เป็นความร่วมมือจากคณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยขอนแก่น มูลนิธิมะเร็งท่อน้ำดี สำนักงานสาธารณสุขกาฬสินธุ์ และจังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งมีโครงการคนดีสุขภาพดีรายได้ดี เข้าทำการเอกซเรย์สุขภาพประชาชนอายุ 40 ปีที่เสี่ยงเป็นโรคมะเร็งท่อน้ำดี มี นพ.พิสิทธิ์ เอื้อวงศ์กูล สาธารณสุขจังหวัด อสม.กว่า 500 คนร่วมในกิจกรรม

นายแพทย์ณรงค์ ขันตีแก้ว รองประธานกรรมการมูลนิธิมะเร็งท่อน้ำดี กล่าวว่า ปัจจุบันสาเหตุการเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งท่อน้ำดีของคนไทยพบกว่า 2 หมื่นราย พบมากที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เนื่องจากประชาชนนิยมรับประทานอาหารจากปลาธรรมชาติ ซึ่งเป็นปลาสายพันธุ์น้ำจืดกินแบบดิบๆ ทั้งจากการทำปลาส้ม ซึ่งมีโรคพยาธิใบไม้ตับ ทำให้กว่าร้อยละ 80 คนอีสานเสียชีวิตจากโรคนี้ แนวทางแก้ไขที่ผ่านมามีการรณรงค์ให้ความรู้ จึงเป็นที่แน่ชัดว่าสาเหตุเกิดจากวัฒนธรรมในการบริโภค

“คณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยขอนแก่นจึงร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้ทำการรณรงค์เชิงรุก ด้วยการนำเครื่องอัลตราซาวนด์เข้าทำการคัดกรอง ทั้งยังได้ร่วมกับมูลนิธิมะเร็งท่อน้ำดี และสำนักงานหลักประกันสุขภาพเขต 7 ตามยุทธศาสตร์ ลดพยาธิใบไม้ตับ กำจัดมะเร็งท่อน้ำดี ให้เป็นวาระของคนอีสาน” นพ.ณรงค์กล่าว

สำหรับการจัดกิจกรรม ได้สาธิตอาหารที่ประกอบขึ้นจากปลาน้ำจืด และนิทรรศการแสดงถึงพิษภัยของการบริโภคปลาดิบสาเหตุการเกิดโรคพยาธิใบไม้ตับ กับการอัลตราซาวนด์ ซึ่งเป็นการบริการคัดกรอง ส่งต่อ รักษา และติดตามผลการรักษาในผู้ป่วยที่เกิดปัญหาโรคมะเร็งท่อน้ำดี โดยมีกลุ่มเป้าหมายเข้าตรวจกว่า 500 คน

ด้านนายสุวิทย์ สุบงกฎ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า โครงการนี้จะมีการขยายผลไปในทุกอำเภอ โดยจะมีการประสานของงบประมาณจากสำนักงานหลักประกันสุขภาพและสำนักงานสาธารณสุข เพราะเชื่อว่าแนวทางการทำงานในเชิงรุกจะเป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันโรคมะเร็งท่อน้ำดีได้



กำลังโหลดความคิดเห็น