นครพนม-ส.ส.เพื่อไทย นำโดยนายไพจิต ศรีวรขาน รวมตัว ส.ส.เพื่อไทย แต่งดำที่ จ.นครพนม แสดงพลังไม่เห็นด้วยศาลรัฐธรรมนูญตัดสินให้เลือกตั้ง 2 ก.พ.เป็นโมฆะ พร้อมเปิดเวทีปราศรัยปลุกคนอีสานให้ปกป้องยิ่งลักษณ์ และคณะรัฐมนตรี จะต้องไม่ให้ใครมาเอาผิดได้
วันนี้ (23 มี.ค.) ที่ห้องประชุมโรงเรียนนครพนมวิทยาคม อ.เมือง จ.นครพนม นายไพจิต ศรีวรขาน ว่าที่ ส.ส.นครพนม เขต 3 พรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยนายเวียง วรเชษฐ์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย นายขจิตร ชัยนิคม อดีต ส.ส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย นายนิยม เวชกามา ว่าที่ ส.ส.สกลนคร เขต 2 พรรคเพื่อไทย รวมถึงว่าที่ ส.ส.จากพรรคเพื่อไทย ในพื้นที่ภาคอีสานรวมตัวร่วมแต่งชุดดำ เปิดเวทีปราศรัยร่วมกับขบวนการคนอีสานปกป้องประชาธิปไตยกว่า 3,000 คน
ทั้งนี้ เพื่อประท้วงต่อการพิจารณาตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ กรณีมีมติให้การเลือกตั้ง ส.ส. ในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 ที่ผ่านมา เป็นโมฆะ โดยได้แสดงพลังประกาศความชัดเจน ภายใต้ชื่อ “ขบวนการคนอีสานปกป้องประชาธิปไตย” เพื่อยืนยันในการสนับสนุนประชาธิปไตย ที่มาจากการเลือกตั้ง ภายใต้กฎหมายรัฐธรรมนูญ
พร้อมจะออกมาเคลื่อนไหวต่อต้านการกระทำของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งเชื่อว่าเป็นเครื่องมือของระบอบเผด็จการทำลายระบอบประชาธิปไตยที่ขัดต่อกฎหมาย และจะมีการประกาศจุดยืนที่จะไม่รับเงื่อนไขต่างๆ ในการจัดตั้งรัฐบาลกลาง รวมถึงการปฏิวัติรัฐประหาร นอกเหนือจากประชาธิปไตยที่มาจากการเลือกตั้ง นอกจากนี้ จะมีการแสดงพลังประกาศจุดยืนกับชาวอีสานทุกจังหวัดต่อเนื่องเพื่อให้ได้มาซึ่งประชาธิปไตย
ภายหลังการเปิดเวทีปราศรัยประกาศจุดยืน มีการแห่โลงศพที่แสดงสัญลักษณ์ว่าเป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ไปรอบตัวเมืองนครพนม เพื่อประณามการทำงานของศาลตุลาการ และโจมตีกลุ่มที่ทำลายประชาธิปไตย เพื่อสานต่ออุดมการณ์ทางการเมือง ในการเรียกร้องประชาธิปไตย ประกาศให้ประชาชนคนไทยรับรู้ว่า ชาวอีสานพร้อมจะต่อสู้ปกป้องประชาธิปไตยพร้อมเปิดเวทีปราศรัยเสวนา แนวทางการขับเคลื่อนของชาวอีสาน บริเวณหน้าตลาดอินโดจีน ในเขตเทศบาลเมืองนครพนม
นายไพจิต ศรีวรขาน กล่าวว่า กิจกรรมวันนี้เพื่อแสดงพลังของคนอีสาน ในการรักษาประชาธิปไตยที่มาจากการเลือกตั้ง ประกาศจุดยืนของชาวอีสานกว่า 9 ล้านคน ที่สนับสนุนการเลือกตั้ง ต้องยอมรับว่าคนอีสานยอมไม่ได้จะให้กลุ่มขบวนการกระทำขัดกฎหมายมากำหนดทิศทางประเทศไทย และรับไม่ได้ที่จะมีการตั้งรัฐบาลโดยไม่มาจากระบอบประชาธิปไตย
จึงต้องแสดงพลังให้เห็นว่า คนอีสาน มีความชัดเจนที่จะต่อต้านการกระทำที่ขัดต่อกฎหมาย ล้มล้างประชาธิปไตย และจะไม่มีการยอมรับทุกเงื่อนไข หากไม่ใช่วิธีการเลือกตั้ง และจะไม่ให้มีการเอาผิดนายกรัฐมนตรี รวมถึงคณะรัฐมนตรี ไม่ว่าจะวิธีการใดก็ตาม
ส่วนการจัดตั้งเลือกตั้ง ฝากไปถึงทุกฝ่ายเกี่ยวข้อง ทั้งผู้ดำเนินการจัดการเลือกตั้ง รวมถึงกลุ่มผู้คัดค้านว่า ให้คำนึงถึงประเทศชาติบ้านเมืองเป็นหลัก และให้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ไม่ควรจะทำให้มีการยืดเยื้อ เพราะบ้านเมืองเสียหาย และขอย้ำว่าจากนี้ไปคนอีสานยอมไม่ได้ที่จะให้กลุ่มนอกกฎหมายมากำหนดการพัฒนาประเทศ พร้อมที่จะต่อสู้ทุกรูปแบบเพื่อได้มาซึ่งประชาธิปไตย