กาฬสินธุ์ - ผู้ว่าฯ ลุยสำรวจความเสียหายจากพายุฤดูร้อนถูกถล่มยับเสียหายกว่าหนึ่งพันหลัง โดยเฉพาะ อ.ห้วยผึ้ง 512 หลัง ต้นยาง-พืชไร่ เสียหายกว่า 2 พันไร่ ด้านชาวบ้านเผยนาทีชีวิตเกิดลมหมุนยกหลังคาบ้านทิ้งทั้งหลัง แต่ครอบครัวไม่มีผู้ใดบาดเจ็บ เชื่อบารมี “ในหลวง” คุ้มภัย
วันนี้ (4 เม.ย.) นายสุวิทย์ สุบงกฎ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ พร้อมด้วยนายสมเกียรติ ดวงมณี นายอำเภอห้วยผึ้ง นายเดชา พลกล้า ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จังหวัด เข้าสำรวจความเสียหายจากเหตุพายุฤดูร้อนซึ่งพัดถล่มบ้านเรือนประชาชน เมื่อวันที่ 3 เมษายน เบื้องต้นปภ.จังหวัด สรุปผลความเสียหายใน 4 อำเภอ ประกอบด้วย อ.หนองกุงศรี อ.กุฉินารายณ์ อ.นาคู และ อ.ห้วยผึ้ง โดยเฉพาะ อ.ห้วยผึ้ง มีบ้านเรือนเสียหายกว่า 512 หลัง เบื้องต้นประเมินทั้ง 4 อำเภอ รวมกว่า 1,000 หลัง
นอกจากนี้ ยังพบว่าในเขต อ.นาคู และ อ.หนองกุงศรี มีบ้านเรือนถูกพายุพัดถล่มเป็นระลอกที่ 2 และ 3 ทำให้ประชาชนเดือดร้อนอย่างหนัก หลายสิบหมู่บ้านถูกตัดขาด
นอกจากนี้ ยังพบว่าพืชไร่ ต้นยางพารา โดยเฉพาะในเขต อ.ห้วยผึ้ง ถูกพายุพัดเสียหายกว่า 2 พันไร่ ทำให้ชาวสวนบางคนต้องหมดเนื้อหมดตัว เพราะบ้านจะได้รับความเสียหายด้วย
ขณะที่บ้านของ นายบัวลี อมรสินธุ์ อายุ 68 ปี เลขที่ 19 หมู่ 1 ต.ไค้นุ่น อ.ห้วยผึ้ง ซึ่งพายุพัดหอบเอาหลังคาไปทั้งหลัง ช่วงเกิดพายุ นายบัวลี พร้อมครอบครัว 4 คน ได้หลบอยู่ภายในบ้านที่ชั้น 2 ก่อนพายุจะหอบเอาหลังคาบ้านไป แต่กลับพบว่าไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต
ด้านนายบัวลี เชื่อว่าเป็นเพราะพระบารมีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทำให้ครอบครัวปลอดภัย เพราะระหว่างเกิดเหตุตนเองได้ก้มกราบขอพระบารมีคุ้มภัย เนื่องจากพายุรุนแรงจนยกเอาหลังคาบ้านไป ก่อนที่ตน และครอบครัวจะวิ่งหนีลงมา ภายหลังเกิดเหตุยังพบว่าพระบรมฉายาลักษณ์ยังอยู่ที่เดิมที่มีเพียงด้ายเก่าๆ มัดไว้กับตะปู
