ร้อยเอ็ด - ปภ.เมืองเกินร้อย รุดแจกของช่วยเหลือเหยื่อพายุซัดบ้านเพิ่มพังอีก 2 อำเภอ ส.อบจ.โวยอำเภอช่วยแค่ตำบลเดียวทั้งที่ประสบภัย 3 ตำบล ด้าน ปภ.และอำเภอแจงชาวบ้านที่ได้รับความเสียหายจากพายุฤดูร้อนที่เหลืออีก 650 หลังคาเรือน ใน 7 อำเภอต้องรอก่อน เพราะงบประมาณในอำนาจสั่งจ่ายของผู้ว่าฯหมดเกลี้ยง ต้องรอโอนก้อนใหม่จากส่วนกลาง
วันนี้ (27 มี.ค.) นายพิทยา กุดหอม หัวหน้าสำนักงานป้องกันบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จังหวัดร้อยเอ็ด พร้อมเหล่ากาชาดจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นตัวแทนนายสมศักดิ์ ขำทวีพรหม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด นำสิ่งของบรรเทาทุกข์ สังกะสี ตะปู กระเบี้องมุงหลังคาบ้าน และข้าวสารถุงละ 5 กิโลกรัม ไปแจกจ่ายให้กับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนเสียหายจากพายุร้อนพัดถล่ม 2 ครั้ง ติดต่อกันคือวันที่ 19 มี.ค.และ 20 มี.ค.ที่ผ่านมาจนบ้านพังนับร้อยหลังคาเรือน
ทั้งนี้ จังหวัดร้อยเอ็ดมีทั้งหมด 20 อำเภอ มีพื้นที่ประสบภัย 10 อำเภอ 45 ตำบล 172 หมู่บ้านมีข้อมูลจากการสำรวจแล้วว่า ได้รับความเสียหายของบ้านเรือนที่ต้องให้ความช่วยเหลือมากถึง 1,085 หลังคาเรือน ล่าสุดคณะได้เดินทางไปแจกจ่ายสิ่งของบรรเทาทุกข์ให้กับชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน 12 หมู่บ้าน จำนวน 163 ครัวเรือนที่ ต.หนองแวงควง อ.ศรีสมเด็จ จ.ร้อยเอ็ด
จากนั้นคณะเดินทางไปที่ ต.อัคคะคำ อ.โพธิ์ชัย เพื่อแจกจ่ายสิ่งของช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ให้กับชาวบ้านที่ประสบภัยจำนวน 10 หมู่บ้าน จำนวน 132 ครัวเรือน ที่หน้าเทศบาลตำบลอัคคะคำ
ขณะที่ นายสิทธิชัย เผ่าพันธุ์ นายอำเภอโพธิ์ชัย ได้ชี้แจงกับชาวบ้านว่า อ.โพธิ์ชัย ที่ประสบภัย 3 ตำบลมีเพียง ต.อัคคะคำ เท่านั้นที่ได้รับความช่วยเหลือ เนื่องจากงบประมาณในอำนาจสั่งจ่ายของผู้ว่าราชการจังหวัดไม่เหลือพอที่จะช่วยเหลือได้ทั้งหมด จึงแจกของให้ความช่วยเหลือได้เพียงตำบลเดียวเท่านั้น โดยที่เหลือจะต้องรอไปก่อนจนกว่าเงินทดรองจ่ายที่ใช้ไปและแจ้งไปยังกรมปัญชีกลาง จะโอนส่งกลับมายังจังหวัดก่อน
ด้าน นายตุลธร ขามช่วง ส.อบจ.(บุตรชายอดีต ส.ส.ฉลาด ขามช่วง พรรคเพื่อไทย) ในพื้นที่ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากเหตุที่เงินงบประมาณหมด ทำให้การช่วยเหลือไม่ได้เต็มที่ เพราะตำบลที่ได้รับของแจกก็ถูกลดจำนวนลง จนต้องอาศัยส่วนอื่นเข้ามาช่วยเหลือ นอกจากนั้น ตนต้องการให้จังหวัดเร่งแก้ไขปัญหาของชาวบ้านส่วนที่เหลือที่ถูกพายุพัดบ้านพัง ที่ได้รับความเดือดร้อนช่วยเหลือตนเองไม่ได้ มีครัวเรือนจำนวนมากใน 2 ตำบล ที่ยังไม่ได้รับความช่วยเหลือได้รับความเดือดร้อน มีถึง 26 ครัวเรือน ที่เดือดร้อนรุนแรง เนื่องจากหลังคาถูกยกออกไปหมดและไม่มีที่อยู่อาศัยอยู่ในขณะนี้
อย่างไรก็ตามระหว่างที่รอความช่วยเหลือ ตนจะขอความร่วมมือจากปกครองส่วนท้องถิ่น และประสานไปยังนายมังกร ยนต์ตระกูล นายก อบจ.ร้อยเอ็ด เข้ามาดำเนินการหาทางให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้นไปก่อน
ทางด้าน นายพิทยา กุดหอม ป้องกันบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวยอมรับกับประชาชนที่มารับของบรรเทาทุกข์ ที่ตำบลอัคคะคำ ว่า ต้องมีการลดปริมาณของแจกลง เพราะว่ามีปัญหาพายุพัดถล่มครอบคลุมหลายอำเภอ ทำให้ที่อยู่อาศัยและทรัพย์สินเสียหายมาก เงินที่เหลือของจังหวัดตามอำนาจของผู้ว่าฯร้อยเอ็ด นำมาให้ความช่วยเหลือชาวบ้านในตำบลอัคคะคำได้เพียงตำบลเดียวเป็นตำบลสุดท้ายที่ได้รับความช่วยเหลือ
“งบประมาณช่วยเหลือภัยพิบัติในอำนาจของผู้ว่าราชการจังหวัดจำนวน 50 ล้านบาทนั้น ขณะนี้ของร้อยเอ็ดถูกลดลงเหลือแค่ 20 ล้านบาทเท่านั้น” นายพิทยา กล่าวและว่า
ที่ผ่านมาจังหวัดร้อยเอ็ด ได้ใช้จ่ายเงินทดรองราชการในอำนาจของผู้ว่าฯไปเมื่อปีที่แล้วบางส่วน และได้ส่งหลักฐานการชดใช้เงินทดรองราชการไปยังกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และกระทรวงการคลังแล้ว แต่ยังไม่ได้รับการเบิกหักผลักส่งกลับมาเพียงพอที่จะให้ความช่วยเหลือผู้ประสบวาตภัยดังกล่าว ระหว่างนี้จึงจำต้องขอให้อำเภอประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ที่เหลือ 7 อำเภอ 30 ตำบล 110 หมู่บ้าน 650 หลังคาเรือน ที่เดือดร้อนไปก่อน
ซึ่งหากหากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นไม่มีงบประมาณเพียงพอ ให้อำเภอขอขยายวงเงินทดรองราชการ โดยผ่านที่ประชุม คณะกรรมการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติอำเภอ (ก.ช.ภ.อ.) ส่งให้จังหวัดภายในวันที่ 27 มี.ค.นี้ เพื่อเร่งช่วยเหลือต่อไป
