พิษณุโลก - ผบ.ตร.นำคณะนายตำรวจภาค 6 ร่วมพิธีเททองหล่อพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช พร้อมปลุกเสกเหรียญองค์ดำ เจอ “เจ้าสัวเบียร์ช้าง” หน้าวิหารวัดใหญ่โดยบังเอิญ
วันนี้ (3 เม.ย.) พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ, พล.ต.ท.วรศักดิ์ นพสิทธิพร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 ได้เดินทางไปร่วมพิธีเททองหล่อพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช เพื่อนำไปประดิษฐานหน้าสำนักงานตำรวจภูธรภาค 6 ต.มะตูม อ.พรหมพิราม ณ ลานพิธีเททองวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร หรือวัดใหญ่ อ.เมืองพิษณุโลก
โดยมีสมเด็จพระมหามุนีวงศ์ (อัมพร อมพโร) เจ้าอาวาสวัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหารเป็นประธานฝ่ายสงฆ์
โดยคณะของ ผบ.ตร.ได้พบกับนายเจริญ สิริวัฒนภักดี หรือเจ้าสัวเบียร์ช้าง เศรษฐีอันดับ 4 ของเอเชีย ร่ำรวยสินทรัพย์กว่า 3 แสนล้านบาท ที่เดินทางมาสักกะพระพุทธชินราชโดยบังเอิญ ซึ่งเจ้าสัวเบียร์ช้างก็ร่วมทำบุญกับคณะของตำรวจภูธรภาค 6 ด้วย
ต่อมาเจ้าหน้าที่สำนักพระราชวังอัญเชิญไฟพระฤกษ์ ทำพิธีพุทธาภิเษกเหรียญที่ระลึกสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภายในวิหารหลวงพ่อพระพุทธชินราช จากนั้น ผบ.ตร.และคณะตำรวจภูธรภาค 6 ร่วมพิธีเททองหล่อพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช
สำหรับการสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์ฯ ดังกล่าว เป็นการสร้างพระบรมรูปทรงประทับยืน พระหัตถ์ขวาหลั่งน้ำทักษิโณทก ประกาศอิสรภาพของชาติไทย พระหัตถ์ซ้ายทรงพระแสงดาบ มีความสูงรวมฐาน 9 เมตร ขนาด 2 เท่าตัวของพระองค์จริง หล่อด้วยวัสดุโลหะสำริด การออกแบบและการหล่ออยู่ในความดูแลของกรมศิลปากร ประดิษฐานบนแท่นที่ตั้งอยู่บนลานรูปดาวแปดแฉก ประดิษฐาน ณ สำนักงานตำรวจภูธรภาค 6 อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก
ส่วนพระบรมรูป-เหรียญที่ระลึกสมเด็จพระนเรศวรมหาราชที่ผ่านพิธีพุทธาภิเษก คือ พระบรมรูปจำลองขนาด 19 นิ้ว และเหรียญที่ระลึกด้านหน้าเป็นรูปพระนเรศวรครึ่งองค์ ด้านหลังเป็นรูปตราแผ่นดิน เนื้อทองคำ เนื้อเงิน และบรอนซ์ 2 ขนาด คือ ขนาดใหญ่ 3.5 เซนติเมตร และขนาดเล็ก 2 เซนติเมตร เพื่อหารายได้สมทบทุนสร้างพระบรมรูปองค์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช