บุรีรัมย์ - พายุฝนฤดูร้อนพัดถล่มบุรีรัมย์ ต้นไม้ใหญ่อายุกว่าร้อยปีหักโค่นล้มทับบ้านเรือนพังยับ 3 หลัง กิ่งไม้ใหญ่ทับศีรษะ หนุ่มใหญ่วัย 38 ปีเสียชีวิต ส่วนเมียและลูกรอดหวุดหวิด
เมื่อเวลาประมาณ 01.00 น. (2 เม.ย.) มีรายงานว่า ในพื้นที่ อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ ได้เกิดฝนตกอย่างหนัก พร้อมกับมีลมพายุพัดอย่างรุนแรง ขณะเดียวกัน ร.ต.ท.อุดร ภักษารัมย์ ร้อยเวร สภ.สตึก ได้รับแจ้งเหตุต้นไม้ใหญ่ที่ชาวบ้านเรียกว่า “ต้นกะซาว” อายุหลายร้อยปีหักโค่นลงมาทับบ้านเรือนประชาชน ทำให้มีผู้เสียชีวิต ที่บ้านเลขที่ 59 หมู่ 3 บ.ทุ่งวัง ต.ทุ่งวัง อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ จึงรุดไปตรวจสอบ
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบบ้าน 2 ชั้น ครึ่งไม้ครึ่งปูน จำนวน 3 หลัง ถูกกิ่งก้านของต้นไม้กะซาวขนาดใหญ่ เส้นผ่าศูนย์กลางร่วมเมตร ซึ่งต้นไม้ดังกล่าวอยู่ข้างศาลหลวงปู่อุดม ห่างจากบ้านประมาณ 20 เมตร ลำต้นขนาด 5 คนโอบ อายุกว่า 100 ปี ถูกลมพายุพัดจนหักโค่นลงมาใส่บ้านเรือนทั้ง 3 หลังที่อยู่ใกล้กันพังเสียหาย และยังไม่สามารถนำกิ่งไม้และต้นไม้ที่มีขนาดใหญ่ออกจากตัวบ้านและล้มขวางถนนในหมู่บ้านได้ ต้องรอให้เจ้าหน้าที่มาดำเนินการต่อไป
จากการตรวจสอบ บ้านหลังแรก เลขที่ 81 มีนางเดือน บรรดาสิทธิ์ อายุ 40 ปี ขณะเกิดเหตุพักอาศัยอยู่ในบ้านกับลูกสาว อายุ 16 ปี ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ แต่บ้านพังเกือบทั้งหลัง ขณะบ้านหลังที่สอง เลขที่ 59 มี นายหล่อพงษ์ สายบัว อายุ 38 ปี อาศัยอยู่ในบ้านกับ นางสมใจ ภรรยา และลูกสาววัย 9 ขวบ ในที่เกิดเหตุพบนายหล่อพงษ์นอนเสียชีวิตอยู่หน้าประตูบ้าน ในสภาพกะโหลกแตก แขนขวาหักสองท่อน สภาพบ้านพังเสียหายทั้งหลัง และรถไถนาเดินตามยังถูกกิ่งไม้หักทับพังอีก 1 คัน
ส่วนบ้านหลังที่สาม เลขที่ 42 มี นางปรม บรรดาสิทธิ์ อายุ 65 ปี ขณะเกิดเหตุพักอาศัยอยู่ในบ้านกับหลานชาย อายุ 18 ปี ซึ่งเป็นลูกชายของ นายหล่อพงษ์ กับนางสมใจ ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บแต่บ้านพังเกือบทั้งหลัง
นางสมใจ สายบัว ภรรยาผู้เสียชีวิต เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุมีลมพายุพัดแรงมากสามีจึงบอกให้ตนรีบไปอาบน้ำ จากนั้นสามีได้เดินออกมาหน้าบ้านเพื่อจับไก่ชนที่เลี้ยงเข้าไปไว้หลังบ้าน เพราะเกรงว่าไก่จะเปียกฝน ขณะตนกำลังจะไปอาบน้ำก็ได้ยินเสียงต้นไม้ใหญ่ล้มทับตัวบ้านพังลงมา จึงรีบวิ่งเข้าไปดูลูกสาวซึ่งกำลังนั่งดูโทรทัศน์อยู่ในบ้าน ก่อนตะโกนเรียกหาสามีแต่ก็เงียบหายไม่มีเสียงตอบรับ จึงพาลูกออกมาจากบ้านและตามหาสามีรอบบ้านก็พบร่างสามีนอนเสียชีวิตอยู่หน้าบ้านในสภาพกะโหลกศีรษะแตก แขนขวาหักสองท่อน
“อยากวิงวอนหน่วยงานภาครัฐให้ความช่วยเหลือครอบครัวเพราะขาดสามีที่เป็นเสาหลัก และต้องเลี้ยงดูลูกอีก 2 คน” นางสมใจกล่าว
ด้านตำรวจสันนิษฐานว่าน่าจะเกิดจากมีลมพายุพัดแรง และก่อนหน้านี้มีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องทำให้ดินทรุด ประกอบต้นไม้ใหญ่มีอายุหลายร้อยปี และรากเริ่มผุกร่อนทำให้หักโค่นลงมาทับบ้านเรือนประชาชนทำให้มีผู้เสียชีวิตดังกล่าว
หลังจากนั้น นายสมพร บูรณขจร นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ทุ่งวัง และ นายมนูญ มั่นเฮง กำนันตำบลทุ่งวัง อ.สตึก ได้เข้าตรวจสอบสภาพความเสียหาย พร้อมรายงานให้ทางอำเภอสตึกและจังหวัดทราบถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเบื้องต้นแล้วเพื่อที่จะช่วยเหลือต่อไป