xs
xsm
sm
md
lg

“บายพาสชะอำ-ปราณบุรี”...ถนนอันตราย เตือนช่วงสงกรานต์อย่าขับเร็ว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ถนนสายบายพาสชะอำ-ปราณบุรี รวมระยะทาง 45 กิโลเมตร
เพชรบุรี...รายงาน -

“ถนนเพชรเกษม” นับเป็นถนนสายหลักที่มีประชาชนใช้เส้นทางดังกล่าวเพื่อสัญจรไปมาสู่ 14 จังหวัดภาคใต้ และจาก 14 จังหวัดภาคใต้ขึ้นกรุงเทพมหานคร โดยเฉพาะในช่วงหน้าเทศกาลสำคัญต่างๆ จะมีรถสัญจรไปมามากที่สุด โดยจังหวัดเพชรบุรีเป็นจังหวัดแรกที่เปรียบเสมือนเป็นเส้นทางหลักที่จะมุ่งหน้าสู่ประตูภาคใต้ และในแต่ละปีมักจะมีผู้ใช้เส้นทางสายนี้เป็นจำนวนมาก

อีกทั้งที่ผ่านมาบริเวณถนนเพชรเกษม ช่วงระหว่าง “ถนนสายบายพาสชะอำ-ปราณบุรี” รวมระยะทาง 45 กิโลเมตร ซึ่งอยู่ในเขตรับผิดชอบของสำนักงานบำรุงทางเพชรบุรี ถึงหน้าวิทยาลัยเกษตรเพชรบุรี อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ระยะทาง 23 กิโลเมตร ซึ่งมักจะมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นบ่อยครั้ง ที่มีทั้งผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนหลายราย

โดยสาเหตุที่เกิดอุบัติเหตุส่วนใหญ่เกิดจากถนนมีความลื่น โดยเฉพาะช่วงเวลาที่ฝนตกปรอยๆ หรือฝนตกหนัก และยังมีอีกหลายสาเหตุที่มีทั้งถนนเป็นเนิน และเป็นลูกคลื่นจากสาเหตุที่ในช่วงเวลากลางคืนจะมีรถใหญ่ใช้เส้นทางนี้จำนวนมากในการลำเลียงสินค้าขึ้นลงระหว่างกรุงเทพมหานคร สู่ 14 จังหวัดภาคใต้ หรือจาก 14 จังหวัดภาคใต้ขึ้นสู่กรุงเทพมหานคร โดยมีการวิ่งกันตลอดทั้งคืน

โดยอุบัติเหตุที่เกิดเมื่อรถที่วิ่งมาด้วยความเร็วและไม่ชินกับเส้นทางจะทำให้เสียหลัก และส่งผลให้รถพลิกคว่ำตกไหล่ถนน นอกจากนี้บริเวณจุดทางร่วมแยกที่มีหลายจุดด้วยกันที่มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นบ่อยครั้ง โดยเฉพาะ “จุดแยกห้วยตะแปด” และ “จุดแยกช้างแทงกระจาด” ที่มักจะเกิดอุบัติเหตุขึ้นบ่อยครั้ง ส่งผลให้มีทั้งคนเจ็บและเสียชีวิตมาแล้วจำนวนมาก

จากการสอบถามชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ริม “ถนนสายบายพาสชะอำ-ปราณบุรี” และใช้เล้นนี้เป็นประจำทราบว่า ในแต่ละปีจะมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะช่วงที่มีฝนตกลงมาจะทำให้พื้นถนนมีความลื่นมาก โดยบางครั้งมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นตลอดเส้นทางในเวลาไล่เลี่ยกันนับสิบราย ส่วนใหญ่เป็นรถยนต์เก๋ง รถยนต์กระบะ และรถบรรทุก ที่เสียหลักพลิกคว่ำตกไหล่ทางเองเป็นส่วนใหญ่

ส่วนสาเหตุที่ทำให้ถนนเส้นนี้มีความลื่นมากในช่วงเวลาฝนตกอาจเป็นเพราะบนพื้นผิวถนนมี “เมือกน้ำหวานของเปลือกสับปะรด” ที่ในแต่ละวันจะมีรถบรรทุกขนเปลือกสับปะรดใช้เส้นทางสายดังกล่าวโดยน้ำหวานของเปลือกสับปะรดจะไหลหยดลงสู่พื้นผิวถนนและเกิดการสะสม

“ในช่วงหน้าร้อนหรือหน้าแล้งนั้นมักจะไม่ค่อยมีอุบัติเหตุจากสาเหตุรถเสียหลักอันเกิดจากถนนลื่นเลย นอกเสียจากผู้ขับขี่มีอาการหลับในและมีรถชนกันบริเวณจุดทางร่วมแยกเท่านั้น”

“แต่เมื่อเข้าช่วงฤดูฝน หรือมีฝนตกนอกฤดูกาลลงมา ซึ่งทันทีที่พื้นถนนเปียกชื้นก็จะมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นทุกครั้งที่ส่งผลให้มีทั้งผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตหลายศพในแต่ละปี” ชาวบ้านผู้ที่ใช้ถนนสายบายพาสชะอำ-ปราณบุรีเป็นประจำกล่าว และกล่าวต่อว่า

นอกจากนี้ยังมีอีกหลายสาเหตุทั้งคนขับหลับในทำให้รถเสียหลักตกไหล่ทางพุ่งชนกับต้นไม้ใหญ่ริมทาง บางครั้งเกิดจากสัตว์ขนาดใหญ่จำพวกวัวที่หากินริมไหล่ทางวิ่งตัดหน้ารถในช่วงเวลากลางคืน ซึ่งถนนสายนี้จะมีความมืดมากในเวลากลางคืน ประกอบกับมีต้นไม้ใหญ่ปลูกตลอดแนวบริเวณเกาะกลางถนนและริมไหล่ทาง

“บางครั้งเวลาที่รถวิ่งในช่วงเวลากลางคืนจะเกิดเป็นเงาคล้ายกับคนวิ่งตัดหน้ารถ ส่งผลให้คนขับตกใจ ต้องหักรถหลบจนตกริมไหล่ทางได้รับบาดเจ็บก็มี” ชาวบ้านคนเดียวกันนี้กล่าว

สำหรับสถิติในการเกิดอุบัติเหตุบนถนนเพชรเกษม จากการตรวจสอบข้อมูลข้อมูลสถิติการเกิดอุบัติเหตุจราจรทางบกจังหวัดเพชรบุรี ข้อมูลจากกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบุรี ในปี 2556 มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นจำนวน 841 ครั้ง มีผู้เสียชีวิตจำนวน 137 ราย และบาดเจ็บจำนวน 714 ราย

ส่วนปี 2557 นี้มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นแล้วหลายครั้ง โดยยอดระหว่างเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์รวมอุบัติเหตุเกิดขึ้นจำนวน 138 ครั้ง มีผู้เสียชีวิตจำนวน 26 ราย และบาดเจ็บจำนวน 63 ราย

ดังนั้น ในปี 2557 นี้ทางจังหวัดเพชรบุรี จึงได้มีการวางแผนเพื่อลดอุบัติบน “ถนนสายบายพาสชะอำ-ปราณบุรี” นี้ขึ้น โดยได้มีการแต่งตั้งหน่วยงานต่างๆ เข้ามาเพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาในนาม “คณะกรรมการด้านข้อมูลอุบัติเหตุ” เช่น มูลลนิธิสว่างสรรเพชญธรรมสถานเพชรบุรี, สมาคมกู้ภัยตำรวจทางหลวง และสมาคมกู้ภัยศิรินทร์มาเป็นกรรมการร่วมด้วย โดยได้ขอความร่วมมือให้หน่วยงานดังกล่าวช่วยเก็บข้อมูลการเกิดอุบัติเหตุ (กรณีเสียชีวิต) พร้อมภาพถ่ายให้แก่คณะกรรมการทราบเพื่อนำมาวิเคราะห์การเกิดเหตุเป็นประจำทุกเดือน เพื่อนำไปสู่การแก้ปัญหา

**เตือนช่วง “สงกรานต์”
ผู้่ใช้รถใช้ถนนควรเพิ่มระมัดระวัง**

ที่สำคัญในช่วง “เทศกาลสงกรานต์” ที่จะถึงนี้ซึ่งมีวันหยุดติดต่อกันหลายวัน จะมีประชาชนใช้เส้นทางสายดังกล่าวเป็นจำนวนมาก ดังนั้น ทางจังหวัดเพชรบุรี จึงได้ฝากเตือนถึงผู้ใช้เส้นทางดังกล่าวให้เพิ่มความระมัดระวังให้มากขึ้นในการเดินทาง

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้าทางจังหวัดเพชรบุรีได้มีการเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาร่วมประชุมเพื่อวางมาตรการป้องกันการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนในช่วงระหว่างวันหยุดยาวช่วงเทศกาลสงกรานต์ในปีนี้แล้ว โดยมีเป้าหมายการดำเนินงานลดจำนวนการเกิดอุบัติเหตุ ผู้เสียชีวิต และผู้บาดเจ็บให้เหลือน้อยที่สุด เนื่องจากช่วงสงกรานต์ในแต่ละปีจะมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นมากที่สุด มีการสูญเสียมากที่สุด ซึ่งไม่ใช่เฉพาะในพื้นที่จังหวัดเพชรบุรีเท่านั้น

สำหรับสถิติอุบัติเหตุบนถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ในจังหวัดเพชรบุรีที่ผ่านๆ มา เมื่อเปรียบเทียบกับสถิติในช่วงสงกรานต์ปี 2556 ที่มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นในช่วง 7 วันอันตรายรวม 49 ครั้ง มีผู้เสียชีวิตจำนวน 1 ราย และบาดเจ็บ 60 ราย ทั้งนี้ เนื่องจากทางจังหวัดเพชรบุรี อำเภอ และ อปท.ได้มีมาตรการเน้นหนักในการควบคุมความเร็วของรถ เมาสุราแล้วขับขี่รถ และให้ความสำคัญพิเศษกับรถจักรยานยนต์ รถโดยสารสาธารณะ และรถกระบะที่บรรทุกผู้โดยสารกระบะท้ายเพื่อเล่นน้ำสงกรานต์ ในลักษณะที่อาจก่อให้เกิดอันตรายได้

ดังนั้น เทศกาลสงกรานต์ปี 2557 นี้ก็เช่นเดียวกัน โดยปีนี้ทางจังหวัดมีการรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2557 ใช้ชื่อว่า “ร่วมสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัย สงกรานต์ทั่วไทยไร้อุบัติเหตุ” โดยเฉพาะช่วงระหว่างวันที่ 11-17 เมษายน 2557 จะมีการปิดจุด U-TURN ที่ไม่มีจุดรอเลี้ยว หรือจุด U-TURN ที่อยู่ในเขตชุมชนต่างๆ รวม 6 แห่งประกอบด้วย

1.จุด U-TURN โรงเรียนบ้านสระพัง อ.เขาย้อย
2.สามแยกท่ายาง อ.ท่ายาง
3.จุด U-TURN ตลาดหนองบ้วย อ.ท่ายาง
4.จุด U-TURN หน้าร้านลัคกี้ชะอำ อ.ชะอำ
5.จุด U-TURN หน้าการไฟฟ้าชะอำ 2 จุด
6.จุด U-TURN หน้าโรงเรียนสวนสนชะอำ

นอกจากนี้ จะมีการติดตั้งป้ายเสริมแนะนำจุดกลับรถลอดใต้สะพาน และติดป้ายเสริมแนะนำทางเลี่ยงการจราจรหนาแน่นให้กับผู้ใช้เส้นทางได้รับทราบอย่างชัดเจนด้วย

ด้าน นายสุพจน์ เสริมทรัพย์ หัวหน้าหมวดการทางประจวบคีรีขันธ์ ได้ออกมากล่าวเตือนรถยนต์ที่จะใช้ถนนเพชรเกษม ช่วงสงกรานต์พื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ว่า ควรใช้ความเร็วไม่เกิน 80 กม./ชม.หลังพบผิวถนนชำรุดหลายช่วง และช่วงนี้อยู่ระหว่างเร่งรัดซ่อมผิวการจราจรถนนเพชรเกษม ตั้งแต่อำเภอกุยบุรี ถึง อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ ระยะทางประมาณ 30 กิโลเมตร ซึ่งเป็นเส้นทางหลักขึ้นล่อง 14 จังหวัดภาคใต้ เพื่อรองรับการเดินทางของประชาชนช่วงสงกรานต์ เนื่องจากผิวถนนเพชรเกษมชำรุดหลายช่วงอาจเกิดอุบัติเหตุได้

คาดว่าจะดำเนินการซ่อมได้แล้วเสร็จก่อนวันที่ 10 เมษายนนี้ และเพื่อเป็นการเพิ่มมาตรการความปลอดภัยจะติดป้ายเตือนรถทุกชนิดให้ใช้ความเร็วไม่เกิน 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทั้งขาขึ้นและขาล่อง รวมทั้งจะปิดจุดกลับรถเถื่อนหรือทางลัดที่ผู้สัญจรลักลอบใช้เอง และยังจัดระเบียบร้านค้าริมถนนเพชรเกษมบริเวณ ต.อ่าวน้อย อ.เมือง ไม่ให้รุกล้ำเข้ามาในเขตทางหลวง

ทางด้าน พ.ต.ต.พันษา อมราพิทักษ์ สารวัตรสถานีตำรวจทางหลวง 3 กองกำกับการ 2 ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า ขอให้ผู้เดินทางในช่วงสงกรานต์ขับรถตามช่องทางปกติ รักษากฎวินัยการจราจรอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ เพราะพบว่าเมื่อมีปริมาณรถมาก รถยนต์ส่วนใหญ่มักวิ่งไหล่ทาง ทำให้ถนน 4 เลนกลายเป็น 6 เลน

ส่วนจุดเสี่ยงจุดอันตรายตามทางโค้งต่างๆ จะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงอำนวยความสะดวกและเปิดสัญญาณไฟให้ประชาชนได้สังเกตเห็นได้ง่าย

ภาพจากแฟ้ม




กำลังโหลดความคิดเห็น