ราชบุรี - เกิดอุบัติเหตุรถบรรทุกพ่วงพุ่งชนรถจอดติดไฟแดง 6 คันรวด บริเวณกลางสี่แยกไฟแดงหนองโพ หน้าวัดหนองโพ บนถนนเพชรเกษม อำเภอโพธาราม ตาย 2 บาดเจ็บ 4
เมื่อเวลา 12.30 น. วันนี้ (28 มี.ค.) ร.ต.ท.รุ่งโรจน์ โตไร่ ร้อยเวร สภ.โพธาราม จ.ราชบุรี ได้รับแจ้งเหตุรถชนกันหลายคัน มีผู้เสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บที่บริเวณสี่แยกไฟแดงหนองโพ หน้าวัดหนองโพ บนถนนเพชรเกษม กิโลเมตรที่ 75 ฝั่งขาเข้าเมืองราชบุรี หมู่ 9 ต.หนองโพ อ.โพธาราม จ.ราชบุรี กม.ที่ 75 จึงไปตรวจสอบ พร้อมด้วยแพทย์เวรโรงพยาบาลโพธาราม และอาสาสมัครมูลนิธิสว่างราชบุรี ในที่เกิดเหตุพบรถยนต์ สีดำ หมายเลขทะเบียน ญฒ 5027 กทม.สภาพด้านขวาของรถยนต์มีร่องรอยถูกชนยับเยิน ห่างออกไปประมาณ 200 เมตร พบรถกระบะ สีขาว หมายเลขทะเบียน ตผ 2537 กทม. ถูกชนด้านท้าย และด้านหน้า
นอกจากนี้ ยังพบรถบรรทุก 10 ล้อ สีฟ้า หมายเลขทะเบียน 85-6939 นครปฐม บรรทุกรำข้าวมาเต็มคันรถชนอัดติดกับรถบรรทุก 6 ล้อ สีขาว เลขทะเบียน 81-1973 นนทบุรี ซึ่งบรรทุกกรงหมูมาเต็มคันรถ และยังพบรถยนต์สีบรอนซ์ทอง เลขทะเบียน ศร 2849 กทม. ถูกอัดอยู่ใต้ท้องรถ 6 ล้อ ห่างออกไป 30 เมตร พบรถพ่วง 18 ล้อ ทะเบียน ตัวแม่ 82-6399 นนทบุรี ตัวลูก 82-6400 นนทบุรี สภาพด้านหลังพังยับเยิน และยังผู้พบได้รับบาดเจ็บในที่เกิดเหตุ จำนวน 3 ราย ติดอยู่ในซากรถยนต์ คือ นางอาทร เนาวพันนนท์ อายุ 62 ปี ภูมิลำเนา จ.นนทบุรี
ขณะเดียวกัน ยังพบผู้ได้รับบาดเจ็บติดในรถบรรทุกรำข้าว คือ นายสมโภช คำมินเศษ อายุ 35 ปี ภูมิลำเนา จ.พิจิตร และรถที่บรรทุกกรงหมู มีผู้บาดเจ็บ 2 ราย คือ นายสราวุธ อู่ชนะ อายุ 28 ปี และนายสราวุธ ยอดสร้อยทอง อายุ 25 ปี ทั้งคู่มีภูมิลำเนาอยู่ที่ จ.จันทบุรี ต่อมา ได้นำผู้บาดเจ็บทั้งหมดส่งรักษาที่โรงพยาบาล และเมื่อตรวจสอบภายในซากรถยนต์ พบผู้เสียชีวิต 2 ราย เป็นผู้หญิงสูงอายุ 1 ราย และเด็กหญิง อายุประมาณ 6-7 ขวบ 1 ราย
จากการสอบสวนในเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุรถทั้งหมดได้ชะลอตัวเพื่อติดไฟแดงบริเวณดังกล่าว แต่มีรถบรรทุกรำข้าววิ่งมาด้วยความเร็ว และน่าจะเบรกไม่อยู่จึงได้พุ่งชนรถยนต์สีดำ และรถปิกอัพกระเด็นไป ก่อนจะพุ่งไปชนรถยนต์สีบรอนซ์ทอง ที่จอดต่อท้ายรถบรรทุกกรงหมูอยู่จนทำให้เกิดไฟลุกท่วม เนื่องจากรถยนต์ติดแก๊สแอลพีจี และทำให้รถบรรทุกกรงหมูพุ่งไปชนกับรถ 18 ล้อ ที่จอดรอไฟแดงอยู่ รวม 6 คัน จนเป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 4 ราย และเสียชีวิต 2 ราย ดังกล่าว ส่วนที่มาของการเกิดอุบัติเหตุที่แท้จริงต้องรอการสอบปากคำจากผู้บาดเจ็บ