ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - หมอกควันเชียงใหม่กลับมารุนแรงอีกครั้ง รองผู้ว่าฯ ระบุเหตุเนื่องจากกระแสลมตะวันตกพัดพาควันมาจากแม่ฮ่องสอน รวมทั้งการเผาป่าที่ยังแก้ไม่ตก ล่าสุดต้องระดม จนท.ชุดดับไฟลงคุมเข้ม 3 อำเภอที่มีปัญหาซ้ำซาก “อมก๋อย-แม่แจ่ม-ฮอด” ขณะที่กองทัพอากาศจัดเครื่องบินโปรยน้ำต่อเนื่องเหนือตัวเมืองเชียงใหม่ หวังเพิ่มความชุ่มชื้นบรรเทาปัญหา
วันนี้ (27 มี.ค.) สถานการณ์ปัญหาหมอกควัน ไฟป่า และคุณภาพอากาศของจังหวัดเชียงใหม่กลับมามีแนวโน้มที่จะรุนแรงอีกครั้ง แม้ว่าช่วง 2-3 วันก่อนหน้านี้สถานการณ์จะดีขึ้นจากการที่มีฝนตกลงมาในพื้นที่ แต่ล่าสุดสภาพทั่วทั้งตัวเมืองกลับมาถูกปกคลุมทึบด้วยหมอกควันอีกครั้ง โดยที่รายงานผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศจังหวัดเชียงใหม่ประจำวันนี้พบค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 10 เฉลี่ยในรอบ 24 ชั่วโมง สูงเกินค่ามาตรฐานที่กำหนดไว้ไม่เกิน 120 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร
ทั้งนี้ ที่สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่มีค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 10 เฉลี่ยในรอบ 24 ชั่วโมง อยู่ที่ 140 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร และดัชนีคุณภาพอากาศ (AQI) อยู่ที่ 109 สูงจากมาตรฐานที่กำหนดไว้ต้องไม่เกิน 100
ส่วนที่สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศโรงเรียนยุพราชวิทยาลัยมีค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 10 เฉลี่ยในรอบ 24 ชั่วโมง อยู่ที่ 134 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร และดัชนีคุณภาพอากาศ (AQI) อยู่ที่ 107 ซึ่งคุณภาพอากาศที่ตรวจวัดได้จากสถานีทั้ง 2 แห่ง อยู่ในระดับที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ
ขณะที่กองทัพอากาศได้ปฏิบัติภารกิจใช้เครื่องบินลำเลียง BT-67 บรรทุกน้ำขึ้นบินโปรยเหนือตัวเมืองเชียงใหม่ต่อเนื่องกันเป็นวันที่สามแล้วเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นในอากาศและบรรเทาปัญหาหมอกควัน
โดยทำการขึ้นบินวันละ 3-4 เที่ยวบิน แต่ละเที่ยวบินทำการบรรทุกน้ำได้ประมาณ 800 แกลลอน ซึ่งการปฏิบัติภารกิจดังกล่าวนี้จะดำเนินการต่อเนื่องกันประมาณ 1 สัปดาห์ จากนั้นจะมีการประเมินผลว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป
ด้านนายชนะ แพ่งพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยหลังการประชุมติดตามผลการนำเครื่อง BT-67 ขึ้นบินโปรยน้ำ และหารือสถานการณ์ปัญหาหมอกควันร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่กองบิน 41 เชียงใหม่ว่า วันนี้ (27 มี.ค.) สถานการณ์ปัญหาหมอกควันของจังหวัดเชียงใหม่กลับมามีแนวโน้มที่อาจจะรุนแรงอีกครั้ง
และล่าสุดพบค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กเกินค่ามาตรฐานแล้ว แต่ไม่กระทบการบิน โดยปัจจัยส่วนหนึ่งมาจากกระแสลมตะวันตกที่พัดพาเอาหมอกควันจากทางด้านจังหวัดแม่ฮ่องสอนเข้ามาปกคลุมในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ รวมทั้งการเผาในที่โล่งและเผาป่าที่ยังมีอยู่มาก
โดยที่ผ่านมาการนำเครื่องบินขึ้นโปรยน้ำ เช่นเดียวกับการที่เทศบาลและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีการจัดรถบรรทุกน้ำออกฉีดพ่นเพิ่มความชุ่มชื้นในอากาศถือว่าช่วยบรรเทาปัญหาลงได้ระดับหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการป้องกันและแก้ไขปัญหาการเผาป่านั้น ขณะนี้จะมีการปรับแผนนำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดลาดตระเวนและดับไฟป่าจากพื้นที่ที่มีปัญหาน้อยไปสมทบทำงานอย่างเข้มข้นในพื้นที่ที่มีปัญหามากแทน โดยเฉพาะในพื้นที่อำเภออมก๋อย แม่แจ่ม และฮอด ซึ่งคาดหวังว่าน่าจะช่วยลดความรุนแรงของปัญหาลงได้ไม่น้อย