ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - วิกฤตหมอกควันเชียงใหม่ยังหนัก ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กมีแนวโน้มพุ่งสูงเกินค่ามาตรฐานไม่หยุด เข้าขั้นเป็นอันตรายต่อสุขภาพแล้ว ขณะที่เช้านี้ เครื่องบินไม่สามารถนำเครื่องลงจอดที่สนามบินเชียงใหม่ได้อีก 4 เที่ยวบิน เหตุทัศนวิสัยต่ำมาก
สถานการณ์ปัญหาหมอกควันไฟป่า และคุณภาพอากาศของจังหวัดเชียงใหม่ ยังคงรุนแรง และยังไม่มีแนวโน้มจะคลี่คลายต่อเนื่องกันเป็นสัปดาห์ที่ 2 แล้ว โดยวันนี้ (22 มี.ค.) สภาพตัวเมืองเชียงใหม่ ยังคงถูกปกคลุมทึบด้วยหมอกควันหนาทั่วทั้งตัวเมือง
ขณะที่การรายงานผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศจังหวัดเชียงใหม่ ประจำวันนี้ พบค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 10 เฉลี่ยในรอบ 24 ชั่วโมง สูงเกินค่ามาตรฐานที่กำหนดไว้ไม่เกิน 120 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร เหมือนเดิม
โดยเมื่อเวลา 09.00 น. ที่สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศโรงเรียนยุพราชวิทยาลัย มีค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 10 เฉลี่ยในรอบ 24 ชั่วโมง อยู่ที่ 234 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร และดัชนีคุณภาพอากาศ (AQI) อยู่ที่ 150 สูงจากมาตรฐานที่กำหนดไว้ต้องไม่เกิน 100 ซึ่งคุณภาพอากาศเวลานี้ถือว่าอยู่ในระดับที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพมาก
ตามข้อแนะนำการปฏิบัติตัวของกรมควบคุมมลพิษระบุว่า ประชาชนควรเลี่ยงออกทำกิจกรรมนอกตัวอาคาร หรือกลางแจ้ง หากจำเป็นต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยป้องกัน เพราะการสูดเอาฝุ่นเข้าไปในปริมาณมากเป็นอันตราย
ทั้งนี้ จากสภาพหมอกควันหนาทึบที่ปกคลุมทั่วทั้งตัวเมืองยังส่งผลกระทบต่อเที่ยวบินที่ไม่สามารถขึ้นลงที่ท่าอากาศยานเชียงใหม่ได้ตามปกติด้วย ซึ่ง นาวาอากาศโทหลักชัย เฉลยปราชญ์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ช่วงเช้าวันนี้ (22 มี.ค.) มีเครื่องบินจำนวน 4 เที่ยวบิน ของแอร์เอเชีย 3 เที่ยวบิน และการบินไทย 1 เที่ยวบิน เส้นทางบินกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ที่ไม่สามารถนำเครื่องลงที่ท่าอากาศยานเชียงใหม่ได้ เนื่องจากทัศนวิสัยการมองเห็นต่ำมาก ทำให้ต้องบินกลับไปที่กรุงเทพฯ