ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - กมธ.วุฒิสภาลุยตรวจคฤหาสน์ “ธาริต” ฉาว ขลาดขึ้นป้าย “ที่ส่วนบุคคลห้ามเข้า” จี้ป่าไม้เอาผิดบ้าน 2 หลัง บุกรุกป่าสงวน พบอยู่ในรั้วเดียวกันกับบ้านหรู “ธาริต” ชัดเจน อีกทั้งจับพิกัด GPS ระบุชัดอยู่ในโซน C เป็นป่าอนุรักษ์เปิดให้เช่าไม่ได้ เผยพบพิรุธเพียบ ทั้งเหิมก่อสร้างบ้าน-เจาะบ่อบาดาลก่อนขออนุญาต แถมขอสร้างบ้านพักแต่กลายเป็นโฮมสเตย์ ถามอธิบดีดีเอสไอ คนใกล้ตัวทำผิดเองเป็นคดีพิเศษได้หรือไม่
เมื่อเวลา 10.30 น. วันนี้ (18 มี.ค.) ที่ห้องประชุมชั้น 2 สำนักงานองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) หนองน้ำแดง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา คณะอนุกรรมาธิการ (กมธ.) ตรวจสอบการทุจริต ใน กมธ.ศึกษาตรวจสอบเรื่องการทุจริตและเสริมสร้างธรรมาภิบาล และคณะอนุ กมธ.เสริมสร้างธรรมาภิบาล ด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา นำโดยนายประสาร มฤคพิทักษ์ รองประธานคณะอนุ กมธ. ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการครอบครองที่ดินในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ของนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ซึ่งมีการสร้างบ้านพักหรู และโฮมสเตย์ ฟิออร์เร่ ปาร์ค เลขที่ 444 หมู่ 11 บ้านมอกระหาด ต.หนองน้ำแดง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา
โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม ทั้ง อบต.หนองน้ำแดงเจ้าของพื้นที่ นายวีรวัฒน์ ประสมสุข ผู้อำนวยการส่วนป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่าตัวแทน ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 8 (นครราชสีมา) นายพัทยา แวววุฒินนท์ หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่า นม. 1 (ปากช่อง) นายจีระศักดิ์ สุริตรนานนท์ เจ้าพนักงานที่ดินนครราชสีมา สาขาปากช่อง เข้าชี้แจงรายละเอียดและตอบข้อซักถาม ซึ่งใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง บรรยากาศเป็นไปด้วยความเคร่งเครียด
จากนั้นเวลา 12.30 น. คณะของนายประสารได้ลงพื้นที่ตรวจสอบบ้านพักของนายธาริต เลขที่ 444 หมู่ 11 บ้านมอกระหาด ห่างจาก อบต.หนองน้ำแดง ประมาณ 4 กิโลเมตร โดยพบว่าบริเวณประตูรั้วทางเข้าหน้าบ้านพักและด้านข้างติดประกาศว่า “ที่ส่วนบุคคลห้ามเข้า” และล้อมรั้วลวดหนามปิดมิดชิด จากการสังเกตภายในบ้านพักปิดเงียบไม่มีคนอยู่ แม้แต่คนดูแลสวน
คณะของนายประสารจึงต้องเดินตรวจสอบบริเวณโดยรอบด้านนอกเท่านั้น และเดินขึ้นไปบนเขาเพื่อดูบ้าน 2 หลังที่ระบุว่าบุกรุกที่ป่าสงวนแห่งชาติเขาเสียดอ้า ป่าเขานกยูง ป่าเขาอ่างหิน ซึ่งในจุดดังกล่าวมีการล้อมรั้วลวดหนามยาวจากบ้านนายธาริตจนถึงบริเวณเขาที่ตั้งบ้าน 2 หลัง เจ้าหน้าที่ได้ตรวจพิกัดระบบกำหนดตำแหน่งบนโล (จีพีเอส) ทั้งจุดที่ตั้งบ้านนายธาริต และจุดที่ตั้งบ้าน 2 หลังบนเขาด้วย
นายประสาร เปิดเผยว่า เดินทางมาครั้งนี้เพื่อดูข้อเท็จจริงในสถานที่จริง ซึ่งมีการระบุว่าที่ดินที่ปลูกสร้างบ้าน 2 หลังบนเขานั้นเป็นของนางวันทนา พิพัฒน์ไชยศิริ ซึ่งพบว่าอยู่ในรั้วรอบขอบชิดเดียวกับบ้านของนายธาริต และนางวันทนาก็ไม่ยอมแสดงตนว่าเป็นใครมาจากไหน มีเพียงชื่อเท่านั้น ซึ่งเจ้าหน้าที่ยืนยันมาแล้วว่าบ้าน 2 หลังบนเขาที่สร้างไว้นั้นผิด เพราะอยู่บนเขาที่มีความลาดเอียงเกิน 45 องศา ดังนั้นต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งเป็นกรมป่าไม้ต้องรับผิดชอบในการดำเนินคดี หากไม่รับผิดชอบแสดงว่าละเลยการปฏิบัติหน้าที่
และเท่าที่ตรวจสอบเรื่องโฉนดที่ดินจากที่ดินจังหวัด เจ้าหน้าที่ยืนยันว่าโฉนดของนางวรรษมล เพ็งดิษฐ์ (ภรรยานายธาริต) ไม่มีปัญหาอะไร ซึ่งคงต้องไล่ตรวจสอบให้ละเอียดอีกทีว่าอะไรเป็นอะไร แต่ว่าบ้านหลังใหญ่ขนาดนี้ต้องตั้งข้อสังเกตว่าเป็นคนที่มีบารมี ใช้อำนาจจึงจะทำอย่างนี้ได้ ซึ่งวันนี้ได้ขอให้เจ้าหน้าที่ป่าไม้ตรวจสอบพิกัดว่าบ้านพักของนายธาริต และบ้าน 2 หลังบนเขาอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติหรือไม่
“ที่เป็นข้อสังเกตอีกอย่างคือ การขออนุญาตก่อสร้างกับ อบต.มีการขอก่อสร้างเป็นที่พักอาศัย แต่กลับนำมาเปิดเป็นโฮมสเตย์ และมายื่นขอก่อสร้างในภายหลัง อันนี้ก็เป็นกระบวนการทาง อบต.ต้องรับผิดชอบที่จะทำให้ถูกต้องตามกฎหมายต่อไป ถ้าไม่ทำ อบต.ก็กลายเป็นผู้ละเลยการปฏิบัติหน้าที่เช่นเดียวกัน” นายประสารกล่าว
นายประสาร กล่าวต่อว่า การลงพื้นที่ตรวจสอบในวันนี้ทำให้เข้าใจสภาพว่าการที่จะมีใครมาใช้พื้นที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพื้นที่บุกรุกเขตป่าสงวนแห่งชาติ และยิ่งเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูง เป็นถึงอธิบดีดีเอสไออย่างนี้ด้วยแล้ว ถ้าทำแบบนี้กลายเป็นตัวอย่างที่ไม่ดี เพราะฉะนั้นอะไรที่ผิดพลาด โดยเฉพาะเจ้าของบ้านก็ควรทำให้มันถูกต้อง ที่มันชัดเจนมากๆ คือ บ้าน 2 หลังที่อยู่บนเขาเป็นบ้านซึ่งไม่สามารถสร้างได้ในพื้นที่ลาดเอียงเกิน 45 องศา และอยู่เกินพื้นที่โฉนดที่ตัวเองมี ซึ่งนางวรรษมลมีหน้าที่ต้องชี้แจงเมื่อมีผู้ร้องเรียนว่าทำความเสียหาย ส่วนทางสำนักงานป่าไม้ต้องถามนายธาริตด้วยว่าจะทำเป็นคดีพิเศษด้วยหรือไม่ เพราะเห็นเรื่องขี้หมูราขี้หมาแห้งก็เอาเป็นคดีพิเศษหมด เรื่องแบบนี้ควรจะเป็นคดีพิเศษหรือไม่ ก็ฝากถามนายธาริต เพราะคนที่ทำผิดคือคนใกล้ตัวเอง
นายประสาร กล่าวอีกว่า สิ่งที่ต้องติดตามต่อไปคือ นางวันทนา มีความเกี่ยวข้องหรือเชื่อมโยงอย่างไรกับนางวรรษมล ซึ่งหลังจากกลับไปแล้วทาง กมธ.จะรวบรวมรายละเอียดทั้งหมด จากนั้นจะทำหนังสือแจ้งไปยังกรมป่าไม้ และ อบต.หนองน้ำแดง เพื่อให้มีการตรวจสอบทั้งเรื่องบ้าน 2 หลัง ถ้าไม่ถูกต้องจะดำเนินการอย่างไรต่อไป หากไม่ทำอะไรจะต้องมีความผิดฐานละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามมาตรา 157
ส่วน อบต.ให้ตรวจสอบเรื่องใบอนุญาต เพราะให้ใบอนุญาตเป็นที่อยู่อาศัย แต่มาทำเป็นโฮมสเตย์ จะมีการดำเนินการอย่างไร รวมถึงการเจาะบ่อบาดาล ซึ่งเท่าที่ทราบยังไม่มีการขออนุญาตให้ถูกต้อง ดังนั้นเรื่องนี้ อบต.ต้องดำเนินการให้มีความชัดเจน ไม่ใช่ให้สร้างไปแล้วค่อยมาขออนุญาตภายหลัง
นายประสารกล่าวในตอนท้ายว่า จากการตรวจจับพิกัดจีพีเอสของเจ้าหน้าที่ป่าไม้ บริเวณจุดบ้านพักนายธาริต ตั้งอยู่พิกัด 47p-758277 และ UTM-1618228 ส่วนจุดที่ตั้งบ้าน 2 หลัง ซึ่งอยู่บนเขาหลังบ้านนายธาริต แต่อยู่ในรั้วเดียวกัน ตั้งอยู่พิกัด 47p-758151 และ UTM-1618215 ซึ่งตั้งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาเสียดอ้า ป่าเขานกยูง ป่าเขาอ่างหิน ในพื้นที่ป่าโซนซี ซึ่งเป็นป่าอนุรักษ์ ไม่สามารถให้เช่าได้
“เรื่องนี้ทางป่าไม้จะต้องเป็นผู้ดำเนินการ เนื่องจากทราบว่านางวันทนาได้ยื่นเรื่องขอเช่าป่าสงวนดังกล่าวไปแล้ว เพราะตามกฎหมายป่าสงวนโซนซีไม่สามารถให้เช่าได้ เนื่องจากเป็นเขตป่าอนุรักษ์ เรื่องนี้ทางป่าไม้จะต้องชี้แจงต่อไป” นายประสารกล่าว
จากนั้นเวลาประมาณ 13.30 น. คณะของนายประสารจึงเดินทางออกจากพื้นที่กลับกรุงเทพฯ